‘จ้าวมังกรทอง’ ควายเผือกที่หาดูยาก บัณฑิตหนุ่มใจอนุรักษ์ ทุ่มเงินของขวัญซื้อ ราคา 790,000 บาท
นายนรากร ศรีพั้ว อายุ 24 ปี บัณฑิตหนุ่มชาวสร้างค้อ อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร เล่าให้ฟังว่า ตนเองเรียนจบจากคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ ม.ขอนแก่น มาประมาณเกือบ 2 ปี แล้ว ตอนเรียนจบพ่อให้เงินของขวัญ ประมาณ 7 แสนบาท http://winne.ws/n7783
นายนรากร ศรีพั้ว อายุ 24 ปี บัณฑิตหนุ่มชาวสร้างค้อ อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร เล่าให้ฟังว่า ตนเองเรียนจบจากคณะสัตวแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่นมาประมาณเกือบ 2 ปี แล้ว ตอนเรียนจบพ่อได้ให้เงินเป็นของขวัญ ประมาณ 7 แสนบาท เพื่อให้ซื้อรถยนต์ขับ ระหว่างช่วงหาสมัครสอบทำงาน และตนเองก็ตั้งใจและเลือกรถที่จะซื้อไว้แล้ว แต่บังเอิญได้ไปงานประกวดควายงามระดับประเทศ เมื่อปี 2558 ที่จัดขึ้นภายในมหาวิทยาลัยขอนแก่น เกิดถูกชะตากับควายเผือกตัวหนึ่ง มีดีกรีเป็นแชมป์
ส่วนสาเหตุที่ตนเองต้องการซื้อ เกิดจากมีความทรงจำในอดีต สมัยที่พ่อยังมีควายเผือกอยู่ 2 ตัว ใช้ทำไร่ไถนา จนสามารถเลี้ยงพ่อให้เรียนจบจนรับราชการครู มีความเป็นอยู่ดีขึ้น จึงอยากจะสืบสานและอนุรักษ์ควายไทยไว้ เพราะเริ่มจะหายากแล้ว และต้องการนำความรู้กลับมาพัฒนาบ้านเกิดด้วย จึงตัดสินใจซื้อควายเผือกตัวนี้มาในราคา 790,000 บาท ชื่อว่า ‘จ้าวมังกรทอง’
หลังจากได้ควายเผือกมาแล้ว ก็เลี้ยงตามธรรมชาติ และผสมผสานกับความรู้ที่ได้เรียนมา แต่พยายามให้อยู่วงรอบวัฏจักรชีวิตแต่ละวัน แต่จะเน้นความสะอาด เพื่อความสง่างามสวยงาม เหมาะที่จะเป็นพ่อพันธุ์ผลิตน้ำเชื้อที่ดี ปัจจุบันมีน้ำหนักตัว 1,217 กิโลกรัม ส่วนสูงอยู่ที่ 155 เซนติเมตร ถือว่ามีความสมบูรณ์สมส่วน
ที่ผ่านมา ‘จ้าวมังกรทอง’ ได้ไปผสมน้ำเชื้อตามสมาชิกเครือข่ายของตนเอง มีควายตัวเมียตกลูกออกมาแล้วประมาณ 30 ตัว และทุกตัวมีลักษณะดี เป็นควายเผือกเหมือนตัวพ่อ โดยตนเอง ตั้งแผนอนาคตว่า จะไม่รับราชการ แต่จะทำงานศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เพื่อพัฒนาต่อยอดสายพันธุ์ควายไทยพันธุ์แท้ ให้อยู่คู่กับท้องถิ่น เพราะหากเรายังย่ำอยู่กับที่พันธุ์ควายไทยแท้จะหมดไป
ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน เขาสนใจมากโดย เฉพาะควายไทย ต้องการนำไปพัฒนาสายพันธุ์ เช่น ประเทศเวียดนาม ซึ่งมีภูมิประเทศเหมาะที่จะเลี้ยงควายได้ดี และเขาได้เข้ามาศึกษาดูงานที่ฟาร์ม และตนเองก็ได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานที่เวียดนามมาแล้วเช่นเดียวกัน....
ขอบคุณภาพและอ่านต่อได้ที่ : http://www.khonkaenlink.info/home/news/2736.html