ตะลึง! พบวัตถุโบราณอายุกว่า1,300 ปี !?!
จังหวัดสุราษฎร์ธานีเตรียมเผยแพร่ โบราณสถานเขาพระนารายณ์ หรือเขาศรีวิชัย ที่มีอายุกว่า 1,300 ปี ให้เป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้และการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์แพร่หลายต่อไปหลังกรมศิลปากรบูรณะเสร็จสิ้นไปแล้วกว่าร้อย 80 ... http://winne.ws/n22146
วานนี้ (4 ก.พ.61) นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เดินทางไปติดตามตรวจดูการขุดสำรวจ โบราณสถานเขาพระนารายณ์ หรือ เขาศรีวิชัย บ้านหัวเขา หมู่ 1 ต.เขาศรีวิชัย อ.พุนพิน ของเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร หลังจากมีการสำรวจขุดพบหลักฐานโบราณวัตถุชิ้นใหม่เป็นจักร ทำจากโลหะสำริดฝังอยู่ใต้ดินมีสภาพสนิมจับเป็นก้อนหนา ซึ่งได้ส่งไปให้ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์ สำนักพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ กรมศิลปากรที่กรุงเทพฯทำความสะอาด
จากการค้นคว้าพบว่าเป็นจักรสำริด เป็นวงกลม มี 4 ก้าน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 12 เซนติเมตร ขนาดจับพอดีฝ่ามือ มีลวดลายและมีรอยบุ๋มตรงกลาง คาดว่าน่าจะเป็นของใช้ในพิธีกรรมเป็นของมงคลศักดิ์สิทธิ์ อาจเป็นจักรของพระวิษณุ หรือของโพธิสัตว์ในลัทธิมหายาน
โดยจักรสำริดดังกล่าวขณะนี้ส่งไปจัดเก็บที่สำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช บางส่วนจัดแสดงเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา อ.ไชยา นอกจากนั้นยังขุดสำรวจพบเศษชิ้นส่วนภาชนะดินเผาต่างๆและเครื่องถ้วยจีนสมัยราชวงศ์ถัง รวมถึงวัตถุที่มีแหล่งผลิตจากประเทศอินเดีย และประเทศเปอร์เซีย โดยมีข้อสันนิษฐานว่าแหล่งโบราณสถานเขาศรีวิชัย ต.เขาศรีวิชัย อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี แห่งนี้เป็นรัฐหนึ่งในสมัยโบราณชื่อ “ พันพัน” ตามบันทึกเอกสารของจีนสมัยราชวงศ์ถัง ที่มีอายุกว่า 1,300 ปี หรือคือ อำเภอพุนพิน ในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม ก่อนนี้เมื่อเดือนเมษายน 2560 คณะสำรวจสำนักศิลปากรที่ 12 นครศรีธรรมราช ได้ขุดพบธรรมจักรศิลาที่จุดโบราณสถานหมายเลข 12 บริเวณเชิงเขาด้านทิศตะวันตกของวัดเขาศรีวิชัย มีลักษณะทำด้วยศิลาทราย เจาะซี่ล้อเป็นแบบโปร่ง มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 32.2 เซนติเมตร มีกำ 12 ซี่ มีดุมตรงกลางเป็นรูปวงกลม ส่วนฐานล่างชำรุดหัก ซึ่งเป็นธรรมจักรชิ้นที่ 2 ที่พบบนเขาศรีวิชัย และถัดมาเดือนมิถุนายน 2560 ได้พบพระพุทธรูปโบราณแกะสลักจากศิลาทราย ขนาดใหญ่ 1 องค์ หน้าตักกว้างประมาณ 50 เซนติเมตรสภาพถูกวางพิงผนังในถ้ำด้านหลังวัดเขาศรีวิชัย คาดว่าอยู่สมัยตอนต้นกรุงรัตนโกสินทร์ อายุประมาณ 200 กว่าปีซึ่งการขุดสำรวจของเจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เป็นเวลาร่วม 20 ปี ได้พบหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์หลายอย่างอาทิ เช่น เทวรูปพระนารายณ์ 3 องค์, พระพิมพ์ต่างๆ , ลูกปัด และอิฐสลักรูปต่างๆ
นายอภิรัฐ เจะเหล่า นักโบราณคดี ชำนาญการ สำนักงานศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช กล่าวว่าขณะนี้การบูรณะโบราณสถานบนภูเขาเสร็จสิ้นไปแล้วกว่า ร้อยละ 80 ยังคงเหลืออยู่ด้านล่างและพื้นที่ตีนเขาด้านทิศตะวันตกที่ขุดสำรวจใน 2 จุดโบราณสถานหมายเลข 12-13 และพบหลักฐานที่สำคัญ คือธรรมจักรและจักรสำริด ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธและพราหมณ์ ที่แสดงถึงว่าเป็นจุดที่บุคคลจากต่างถิ่น จากต่างประเทศเดินทางเข้าออกติดต่อการค้าขายการเชื่อมสัมพันธ์อันดีและโดยใช้เส้นทางน้ำในการเดินทาง และต้องมีพิธีสักการบูชาขอพรองค์เทพเพื่อความเป็นสิริมงคล ก่อนออกเดินทางค้าขาย และจักรสำริดที่พบเป็นชิ้นแรกในประเทศไทย และเชื่อว่าที่ดินบริเวณรอบเชิงเขายังมีหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์อยู่ใต้ดินอีกมาก แต่ขณะนี้ยังติดขัดอยู่ที่ชาวบ้านที่ครอบครองที่ดิน ซึ่งทางภาครัฐกำลังเข้าเจรจาต่อรองขอซื้อพื้นที่คืนเพื่อดำเนินการขุดต่อไป
ด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีระบุว่าทางจังหวัดกำลังเร่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินจัดทำป้ายประสัมพันธ์ให้นักท่องเที่ยวให้รู้จักมากยิ่งขึ้น ในส่วนพื้นที่ที่อยู่ในความครอบครองของชาวบ้านนั้นทางจังหวัดพร้อมที่จะเป็นคนกลางประสานมาพูดคุยกันระหว่างกรมศิลปฯและเจ้าของที่ดินเพื่อหาทางออกจะได้เป็นคุณประโยชน์ของประเทศชาติสืบต่อไป
ขอขอบคุณ : บ้านเมือง