แตงโม ผลไม้มีประโยชน์มากกว่าที่เราคิด
แตงโมยังมีสรรพคุณที่สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อ เพราะจากการดื่มน้ำแตงโมจะช่วยเพิ่มเบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างกายสามารถใช้ในการสร้างวิตามินเอ และการมีวิตามินเอมากๆ ก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ http://winne.ws/n12231
อากาศร้อนๆแบบนี้ถ้าได้ผลไม้หวานๆ สักอย่างมาคลายร้อนก็น่าจะดี วันนี้เลยขอแนะนำผลไม้ลูกกลมๆหวานช่ำ แสนอร่อย หรือที่เราเรียกกันว่า “แตงโม” กินง่าย หาซื้อได้ง่าย แถมยังมีประโยชน์มากกว่าที่เราคิดด้วยนะครับ เรามาดูกันว่า แตงโม จะมีประโยชน์และสรรพคุณอะไรบ้าง
รู้จักกับแตงโมกันสักนิด
แตงโม ผลไม้แสนโปรดของใครหลายๆคน ยิ่งช่วงหน้าร้อนแบบนี้ อยากหาแตงโมสักลูกมากินกันให้ชื่นใจ กันเลยก็ว่าได้ ในบ้านเรามีหลายสายพันธุ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น แตงโมจินตหรา แตงโมตอปิโด และแตงโมน้ำผึ้ง(ที่มีเนื้อสีเหลือง)
แตงโมเป็นพืชเป็นพืชในวงศ์ (Cucurbitaceae) เช่นเดียวกับบวบ ฟัก และแตงชนิดต่างๆที่นำเสนอไปแล้ว มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า (Citrullus lanatus Mats. Et Nakai) ภาษาอังกฤษเรียก Water melon ภาคเหนือเรียก มะเต้า ภาคใต้เรียก แตงจีน
แตงโมเป็นพืชล้มลุกประเภทเถาเลื้อย โตเร็ว ลักษณะทั่วไปคล้ายแตงชนิดอื่น ๆ แต่ใบมีลักษณะพิเศษกว่าแตงอื่นๆ ที่มักเป็นแผ่นเดียวกันตลอด ใบแตงโมเป็นแฉกๆ แคบๆ ไม่ค่อยเป็นระเบียบ ดอกมี 2 เพศ แยกจากกันบนต้นเดียวกัน กลีบดอกสีเหลืองอ่อน ผลอ่อนสีเขียว ผลแก่อาจมีสีผิวเขียวอ่อน เขียวแก่ น้ำเงินแก่ เขียวลายขาว ฯลฯ ลักษณะผลมีทั้งกลม รูปไข่ หรือทรงกระบอกยาวหัวท้ายมน ฯลฯ
มีขนาดตั้งแต่ค่อนข้างเล็กไปจนโตหลายกิโลกรัม สีของเนื้อเมื่ออ่อนสีขาว เมื่อแก่จัดมีทั้งสีขาว เหลือง ชมพูและแดง เมล็ดแบน เปลือกหนากว่าแตงกวา สีเปลือกเมล็ดมีทั้งสีน้ำตาลอ่อนไปถึงเข้าและสีดำ เนื้อในเมล็ดสีขาว เนื้อในผลแตงโมมีลักษณะฉ่ำน้ำ รสหวานมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับพันธุ์และการดูแลรักษา
ประโยชน์และสรรพคุณของแตงโม
แน่นอนครับ ไม่เพียงแต่แตงโมจะมีรสหวาน และเย็นฉ่ำเท่านั้น ยังมากด้วยสารอาหาร และประโยชน์ในด้านต่างๆให้แก่ร่างกายด้วย อาทิ แคลเซียม, ฟอสฟอรัส, เหล็ก, โปแตสเซียม, และวิตามินต่างๆ โดยเฉพาะ วิตามินเอ จะมีมากในเนื้อแตงโมพันธุ์ที่มีเนื้อสีแดง สำหรับเพื่อนๆที่ชื่นชอบในการดื่มน้ำผลไม้ แตงโมก็เป็นผลไม้อีกหนึ่งอย่าง ที่จะช่วงแก้กระหายน้ำ หรือว่าลดอาการอ่อนเพลีย เพิ่มความกระชุ่มกระชวยได้ด้วย
แตงโมยังมีสรรพคุณที่สามารถช่วยป้องกันการติดเชื้อ เพราะจากการดื่มน้ำแตงโมจะช่วยเพิ่มเบต้าแคโรทีน ซึ่งร่างกายสามารถใช้ในการสร้างวิตามินเอ และการมีวิตามินเอมากๆ ก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ แตงโมยังเป็นผลไม้ที่มี citrulline อยู่มาก สารตัวนี้จะไปช่วยในการรักษาแผลให้หายเร็วขึ้น ในการรับประทานแตงโม ไม่ใช่แค่ว่าจะดื่มน้ำแตงโมอย่างเดียว เราควรกินเนื้อของแตงโมเข้าไปด้วย โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นเนื้อสีขาวที่อยู่ลึกลงไป แม้รสชาติจะไม่ค่อยหวานซักเท่าไหร่ แต่กลับมีประโยชน์มากมายเลยทีเดียว
วิธีการเลือกซื้อแตงโม
· ควรเลือกแตงโมที่ลักษณะเปลือกผิวเรียบ ไม่เป็นรอยบุบ หรือช้ำ
· ลองดีดแตงโมจะได้ยินเสียงที่แน่นแปลว่าเนื้อในกรอบ
· สังเกตุที่ขั้วแตงโมจะไม่แห้งมากสีคล้ายคลึงกับผิวแตงโม
· ถ้าเขาผ่าแตงโมให้ดูควรเลือกที่มีสีแดงเป็นธรรมชาติไม่สดมาก เพราะถ้าสีแดงสดมากใช้สารเร่งสีเยอะ
วิธีผ่าแตงโมเหมือนจะง่าย แต่ผ่าผิดวิธีอันตรายมาก
ผมเชื่อว่าหลายคนคงได้ยินมาเรื่องสารต่างๆที่ติดกับมีด ตอนที่เราผ่าแตงโม ไม่ว่าจะเป็นยาฆ่าแมลงต่างๆ รวมไปถึงสารเคมีที่ตกค้างอยู่บนผิวของแตงโมด้วย แต่ถ้าเราเลี่ยงได้โดยปลอกให้ถูกวิธีก็สบายใจไปหน่อยครับ
· หามีดที่จะนำมาใช้ปลอกแตงโมมาสัก 2 เล่ม หรือถ้าใครมี1 เล่มก็ได้ครับ
· ผ่าตรงหัวแตงโม 1 ด้าน แล้วปลอกเปลือกออกตามแนวนอนนะครับพอสมควรจากนั้น ล้างมีด 1 รอบ แล้วค่อยผ่าแตงโมออกครึ่งลูก แล้ว ผ่าเป็นชิ้นๆ พร้อมเสิร์ฟจ้า
แตงโมช่วยลดความอ้วนได้จริงหรือ?
ถ้าถามว่า แตงโมเนี่ยลดความอ้วนได้แน่นอนเลยหรือไม่ ก็อาจจะไม่ได้ลดได้ถึง 100 % นะครับ แต่จากงานวิจัยต่างๆที่ตีพิมพ์ใน วารสารโภชนาการ ของต่างประเทศ “Journal of Nutrition” ได้ให้ข้อมูลว่า กรดอะมิโนในแตงโม ที่มีชื่อว่า “อาร์จินิน (Arginine)” มีอยู่มากมายในเนื้อแตงโม เป็นสารที่ช่วยในการเผาพลาญแคลอรี่ได้ โดยนักวิจัยได้ให้อาหารเสริม Arginine แก่หนูที่มีน้ำหนักเกินเป็นเวลาติดต่อกันกว่าสามเดือน และพบว่ามันช่วยลดปริมาณ ไขมันในร่างกาย ลูงได้ถึง 64 % ไม่เพียงแค่นั้น ยังช่วยให้เราอิ่มได้ไวขึ้นอีกด้วย
กินแตงโมแล้วคลายเครียด
ใช่เลยครับสภาวะแรงกดดันมากมายในยุคปัจจุบัน การกินแตงโมก็สามารถช่วยลดความตึงเครียดได้อีกด้วย เพราะโพแทสเซียมในแตงโม จะช่วยควบคุมความดันโลหิต ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย อารมณ์ดีเย็นชื่นใจ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยเลยครับ
แตงโมช่วยทำให้ผิวพรรณดี
สาวๆหลายคนคงทราบเคล็ดลับนี้ดีครับ หรือหนุ่มๆอย่างเราก็สามารถทำได้ วิธีทำไม่อยากเลยครับ ให้เราเฉือนแตงโมให้เป็นชิ้นบางๆนะครับพยายามใช้เนื้อที่อยู่วงในสุดนะครับ (ถ้าใช้เนื้อแตงโมที่อยู่ใกล้เปลือกจะมีความเข้มข้นของกรดครับ) พอได้สักประมาณ 10-15 ชิ้นแล้ว ให้เรานำมาวางที่ผ้าขาวบาง แล้วนำมาปิดลงที่ใบหน้า ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดครับ