อัศจรรย์ ยิ่งนัก!! "กบฟังเทศน์" เพียงอย่างเดียว ตายไปจาก "กบ" เปลี่ยนเป็น "เทวดา" ได้
เรื่องจริงมีบันทึกในพระไตรปิฎก..อัศจรรย์ ยิ่งนัก!! "กบฟังเทศน์" เพียงอย่างเดียว ตายไปจาก "กบ" เปลี่ยนเป็น "เทวดา" ได้แม้ฟังไม่รู้เรื่อง แปลไม่ออก เพียงคุ้น แล้วเกิดความเลื่อมใส เพียงอย่างเดียว ตายไปแล้ว ไปเกิดเป็นเทพบุตรได้ http://winne.ws/n6792
มัณฑูกเทวปุตตวิมานเกิดขึ้นอย่างไร ?
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ริมฝั่งสระโบกขรณี ชื่อคัคครา นครจัมปา.
เวลาใกล้รุ่ง พระองค์ทรงเข้ามหากรุณาสมาบัติอันเป็นพุทธาจิณวัตร ทรงออกจากสมาบัตินั้น แล้วทรงตรวจดูเหล่าสัตว์พวกที่เป็นเวไนยพอจะแนะนำได้ ทรงเห็นว่า เวลาเย็นวันนี้ เมื่อเรากำลังแสดงธรรม กบตัวหนึ่งถือนิมิตในเสียงของเรา จักตายด้วยความพยายามของผู้อื่นแล้วบังเกิดในเทวโลก มาให้มหาชนเห็นพร้อมด้วยเทพบริวารเป็นอันมาก คนเป็นจำนวนมากจักได้ตรัสรู้ธรรมในที่นั้น.
ครั้นทรงเห็นแล้ว เวลาเช้าทรงนุ่งแล้วทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังจัมปานครพร้อมด้วยภิกษุหมู่ใหญ่ ทรงทำให้ภิกษุทั้งหลายหาบิณฑบาตได้ง่าย เสวยภัตกิจ เสร็จแล้วเสด็จเข้าพระวิหาร.
เมื่อภิกษุทั้งหลายทำวัตรปฏิบัติแล้วไปที่พักกลางวันของตน ๆ ก็เสด็จเข้าพระคันธกุฎี ทรงใช้เวลาครึ่งวันให้หมดไปด้วยสุขในผลสมาบัติ เวลาเย็นเมื่อบริษัททั้ง ๔ ประชุมกัน เสด็จออกจากพระคันธกุฎีอันหอมตลบ เสด็จเข้ามณฑปศาลาประชุมธรรม ริมฝั่งสระโบกขรณี ด้วยพระปาฏิหาริย์ซึ่งเหมาะแก่ขณะนั้น ประทับนั่งเหนือพระบวรพุทธอาสน์ที่ประดับไว้ ทรงเปล่งพระสุรเสียงเพียงดังเสียงพรหม
ซึ่งประกอบด้วยองค์ ๘#- ราวกะว่าพญาไกรสรสีหราชมิหวาดหวั่น บันลือสีหนาทเหนือพื้นมโนศิลาฉะนั้น ทรงเริ่มแสดงธรรมด้วยพระพุทธสีลาอันหาอุปมามิได้ ด้วยพระพุทธานุภาพอันเป็นอจินไตย. ( ๑. วิสฺสฏฐ สละสลวย ๒. มญฺชุ ไพเราะ ๓. วิญฺเญยฺย ชัดเจน ๔. สวนีย เสนาะโสต ๕. อวิสารี ไม่เครือพร่า ๖. พินฺทุ กลมกล่อม ๗. คมฺภีร ลึก ๘. นินฺนาที มีกังวาน.)
ในขณะนั้น กบตัวหนึ่งมาแต่สระโบกขรณี จึงนอนถือนิมิตในพระสุรเสียงด้วยธรรมสัญญาว่านี้เรียกว่าธรรม อยู่ท้ายบริษัท.(ท้ายผู้คน)
ขณะนั้น คนเลี้ยงลูกโคคนหนึ่งมายังที่นั้น เห็นพระศาสดากำลังทรงแสดงธรรม และบริษัทกำลังฟังธรรมอย่างสงบเงียบส่งใจไปในเรื่องนั้น ยืนถือไม้ [สำหรับต้อนโค] ไม่ทันเห็นกบจึงได้ยืนปักไม้บนหัวกบเข้า.
กบมีจิตเลื่อมใสด้วยธรรมสัญญา ทำกาละตายในขณะนั้นเอง ไปบังเกิดในวิมานทอง ๑๒ โยชน์ ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เป็นเหมือนหลับแล้วตื่นขึ้น เห็นตนถูกหมู่อัปสรแวดล้อม นึกดูว่า เรามาแต่ไหนจึงบังเกิดในที่นี้ เห็นชาติก่อนนึกทบทวนดูว่า เราเกิดในที่นี้และได้รับสมบัติเช่นนี้ เราทำกรรมอะไรหนอ ไม่เห็นกรรมอื่น นอกจากถือนิมิตในพระสุรเสียงของพระผู้มีพระภาคเจ้า เทพบุตรนั้นมาพร้อมด้วยวิมานในขณะนั้นเอง ลงจากวิมานทั้งที่มหาชนเห็นอยู่นั่นแล เข้าไปถวายบังคมพระยุคลบาทของพระผู้มีพระภาคเจ้าด้วยเศียรเกล้า แล้วยืนประคองอัญชลีนมัสการอยู่ ด้วยอานุภาพทิพย์ยิ่งใหญ่ ด้วยบริวารหมู่ใหญ่.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเทพบุตรนั้น เพื่อจะทรงทำผลแห่งกรรมและพุทธานุภาพให้ประจักษ์แก่มหาชน จึงตรัสถามว่า
ใครรุ่งเรืองด้วยฤทธิ์ ด้วยยศ มีวรรณะงามทำทิศทุกทิศให้สว่างไสว กำลังไหว้เท้าของเรา.
ครั้งนั้นเทพบุตรเมื่อกระทำให้แจ้งซึ่งชาติก่อนเป็นต้นของตนได้ทูลพยากรณ์ด้วยคาถาเหล่านี้ว่า
เมื่อชาติก่อนข้าพระองค์เป็นกบอยู่ในน้ำ มีน้ำเป็นถิ่นที่หากิน กำลังฟังธรรมของพระองค์อยู่คนเลี้ยงโคก็ฆ่าเสีย ขอพระองค์โปรดดูฤทธิ์และยศ.ดูอานุภาพวรรณะและความรุ่งเรืองของความเลื่อมใสแห่งจิตเพียงครู่เดียวของข้าพระองค์.ข้าแต่ท่านพระโคดม ชนเหล่าใดได้ฟังธรรมของพระองค์ตลอดกาลยาวนานชนเหล่านั้นก็ถึงฐานะที่ไม่หวั่นไหว ซึ่งคนไปแล้วไม่เศร้าโศกเลย.
ด้วยบทนั้น ย่อมเป็นอันเทพบุตรทำการกลับชาติของกบ ในเพราะผลของซากที่ขึ้นพองเป็นต้น.ชื่อว่าโคจร เพราะอรรถว่าเป็นที่เที่ยวไปของโคทั้งหลาย. ชื่อว่าโคจรเพราะเหมือนที่เที่ยวไปของโค คือที่แสวงหาอาหาร ชื่อว่าวาริโคจโร เพราะอรรถว่ามีวารีคือน้ำเป็นที่แสวงหาอาหารของกบนั้น
ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้โคดมสัตว์เหล่าใดทำบุญไว้แล้ว มิได้ฟังธรรมสิ้นเวลานิดหน่อยเหมือนข้าพระองค์ได้ฟังแล้ว คือได้โอกาสที่จะฟังพระธรรมของพระองค์ตลอดเวลานานสัตว์เหล่านั้นชื่อว่าทำลายสังสารวัฏเด่นชัดตลอดกาลนานสัตว์เหล่านี้ไปในที่ใดไม่พึงเศร้าโศก สัตว์เหล่านั้นถึงที่นั้นที่ไม่เศร้าโศกอันชื่อว่าไม่หวั่นไหว เพราะความเป็นของเที่ยง คือสันติบท (พระนิพพาน)เพราะถึงสันติบทนั้น สัตว์เหล่านั้นจึงไม่มีอันตราย.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรวจดูอุปนิสัยสมบัติของเทพบุตรนั้นและของบริษัทที่ประชุมกันอยู่ แล้วทรงแสดงธรรมโดยพิสดาร.
จบเทศนาเทพบุตรนั้นตั้งอยู่ในโสดาปัตติผล สัตว์แปดหมื่นสี่พันได้ตรัสรู้ธรรม.
เทพบุตรนั้นถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าทำประทักษิณ ทำอัญชลีแด่ภิกษุสงฆ์ พร้อมด้วยบริวารกลับเทวโลก.
จบอรรถกถามัณฑูกเทวปุตตวิมาน
อรรถกถา ขุททกนิกาย วิมานวัตถุมหารถวรรคที่ ๕ ๑. มัณฑุกเทวปุตตวิมาน จบ.
ที่มา : http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=26&i=51