เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านละลม มอบหมายให้คณะครูโรงเรียนบ้านละลม นำนักเรียนจำนวน 150 คน มาปฏิบัติธรรม ณ สวนโพลวพลือ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ ภายใต้กิจกรรม “คุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์”

      สวนโพลวพลือได้พัฒนาขึ้นมาภายใต้แนวคิด “สันติภาพลงดิน สันติภาพกินได้” โดยนำเอาคันไถโมเดลลงสู่การปฏิบัติพัฒนายกระดับเป็นพุทธกสิกรรม มุ่งให้พื้นที่มีความมั่นคงทางอาหารเพื่อหล่อเลี้ยงชีวิตร่างกาย และให้พื้นที่เป็นเอื้อต่อการพัฒนาจิตใจ มีฐานเรียนรู้พุทธกสิกรรม 5 ฐานเรียนรู้ ทั้งนี้ฐานเรียนรู้จะปรับรูปแบบตามวัตถุประสงค์ ตามสถานการณ์และความต้องการของโรงเรียน เพื่อตอบโจทย์จุดประสงค์การเรียนรู้

       ก่อนเริ่มเข้าสู่กิจกรรมทุกครั้ง จะมีวัฒนธรรมสวดมนต์ปฏิบัติธรรม ส่งมอบลมหายใจแห่งสันติสุข ณ ลานโพธิ์โพลวพลือ เป็นจุดรวมนอบน้อมสักการะพระรัตนตรัย ต้นพระศรีมหาโพธิ์โพลวพลือ จึงคือ ศูนย์รวมใจของทุกคณะในฐานะชาวโพลวพลือ 

ต้นโพธิ์ต้นนี้มีคุณค่าต่อชุมชน เพราะเป็นต้นโพธิ์ที่ปลูกโดยชุมชน ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นนี้ เราถือว่าสัญลักษณ์ทางสว่างของชีวิตชุมชน

       ที่สำคัญ หนอโพธิ์ต้นนี้พระอาจารย์ พระมหาหรรษา ธมฺมหาโส, ศ.ดร. อัญเชิญมาจากอนุราธปุระ ประเทศศรีลังกา ได้ถวาย พระครูปลัดอดิศักดิ์ วชิรปญฺโญ, ดร. ทำพิธีปลูกโดยมี พระราชกิตติรังษี เจ้าคณะจังหวัดศรีสะเกษ พระศรีธีรพงศ์ เจ้าคณะเขตราษฎร์บูรณะ เป็นประธาน พร้อมด้วยพระมหาเถระ และมีนายอำเภอภูสิงห์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ปลูกเมื่อ วันที่ 14 กรกฎาคม 2562 

      ผ่านมา 2 ปี ต้นโพธิ์ได้เติบโตเป็นร่มรวมใจชาวชุมชนและได้แตกกิ่งก้านสาขาแผ่ขยายไปอีก 4 กิ่งแล้ว ทำการปลูกไว้ ณ โรงเรียนบ้านขะยูง วัดอ่างทะนง สวนโพลวพลือโคกชาติ และวัดปรางค์กู่ แต่ละต้นกำลังเติบโตและจะเป็นร่มโพธิ์ที่พึ่งแก่ชาวชุมชนต่างๆ ต่อไป

       กิจกรรมครั้งนี้ หลังจากสวดมนต์ บูชาพระรัตนตรัย ฟังธรรมโอวาท เสร็จ พระครูปลัดอดิศักดิ์ วชิรปญฺโญ, ดร. ประธานมูลนิธิโพลวพลือ (ทางสว่าง) มอบหมายให้ นายธนโชติ แก้วสำโรง เลขานุการมูลนิธิโพลวพลือ (ทางสว่าง) วิทยาการต้นแบบสันติภาพ นำทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งในสวนโพลวพลือ ทั้ง ในฐานเรียนรู้สะเราว์โพลวพลือ โรงเรียนบ้านขะยูง และ ในวิหารโพลวพลือวัดบ้านขะยูงด้วย ทุกอย่างดำเนินการได้เรียบร้อยด้วยดี

       จึงนับได้ว่า สวนโพลวพลือ พัฒนาตอบโจทย์ชุมชน เพื่อชุมชนสันติสุขได้อย่างยั่งยืน

ที่มา https://www.banmuang.co.th/