นักไวรัสวิทยาเผย ความแตกต่างระหว่างไข้หวัด-เดลตา-โอมิครอน
ก่อนการระบาดของโควิด-19 อาการเจ็บคอหรือน้ำมูกไหลอาจหมายความว่าเกิดอาการหวัด ได้พักผ่อนและดื่มน้ำจะช่วยให้รางกายสามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ภายในสองสามวัน http://winne.ws/n28525
อาการของโรคหวัดโดยทั่วไปคือ ปวดศีรษะ เจ็บคอ และมีน้ำมูก ซึ่งอาการเหล่านั้นเป็นสัญญาณหลักบางประการของโควิดด้วย อีกทั้งตัวแปรใหม่อย่างโอมิครอนที่แพร่กระจายได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่น ทำให้จำนวนผู้ป่วยโควิดทั่วทุกมุมโลกที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ผู้เชี่ยวชาญหลาย ๆ ประเทศจึงขอให้รัฐบาลอัพเดตอาการอย่างต่อเนื่อง
ทิม สเปคเตอร์ ศาสตราจารย์ด้านระบาดวิทยาทางพันธุกรรมที่คิงส์คอลเลจลอนดอนและนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของ Zoe study ขอให้ชาวบริติชรายงานอาการของตนผ่านแอพตลอดช่วงการแพร่ระบาดของไวรัส กล่าวว่า “สายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่ระบาดในผู้ที่ได้รับวัคซีน แต่มีอาการคล้ายหวัดทั่วไป ได้แก่ ปวดหัว เจ็บคอ น้ำมูกไหล เหนื่อยล้า และจาม”
พร้อมกล่าวเสริมว่า “อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่เหตุผลที่จะหย่อนยานการป้องกันตนเอง โควิดเป็นสิ่งที่คาดเดาไม่ได้ แม้ว่าคนส่วนใหญ่จะรู้สึกเหมือนเป็นหวัด แต่ก็มีความเสี่ยงในระยะยาวมากกว่าการเป็นหวัด”
หลายคนคงสงสัยว่าอาการของโรคหวัดปกติแตกต่างจากอาการที่ร้ายแรงกว่าอย่างโอไมครอนอย่างไร ดังนั้น ทางทีมข่าวสดจะขอสรุปอาการและตารางเพื่อให้ทุกคนเข้าใจง่ายยิ่งขึ้น
โรคไข้หวัด คือการติดเชื้อไวรัสที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบน โดยมีอาการน้ำมูกไหลหรือคัดจมูก เจ็บคอ ไอและปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยมักเกิดขึ้นสูงสุดภายในสองถึงสามวันแรกของการติดเชื้อ
โควิด 19 เป็นไวรัสระบบทางเดินหายใจและผู้ที่ติดเชื้อจะมีอาการคล้ายคลึงกัน ไม่ว่าจะอาการไอ หายใจลำบาก และมีไข้ ในบางกรณีอาจพบอาการทางเดินอาหาร เช่น ท้องร่วงและคลื่นไส้ อีกทั้งบางคนยังสูญเสียต่อมการได้กลิ่นและการรับรส โดยอาการของโควิดปรากฏขึ้น 2 – 14 วันหลังจากการสัมผัส
ดร.อาเมียร์ ข่าน สรุปอาการสำคัญของโอไมครอน ดังนี้ เหนื่อยล้า, ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อเล็กน้อย, อาการเจ็บคอ, ไอแห้ง และ เหงื่อออกตอนกลางคืน แม้ว่าหลักฐานในระยะแรกอาจบ่งชี้ว่าตัวแปรโอมิครอนเกิดอาการไม่รุนแรงในผู้ที่ได้รับวัคซีนสองโดสและสามโดส แต่ในผู้ป่วยที่ไม่ได้รับวัคซีนแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
อ่านข่าวเพิ่มเติมที่ ข่าวสด