วันพฤหัสบดีที่ 9 ธ.ค. ที่ผ่านมา Ayesha Verrall ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขกล่าวในการแถลงข่าวว่า นิวซีแลนด์จะมีการกำหนดกฎหมายใหม่โดยโดยกำนดเกณฑ์อายุผู้ที่ซื้อบุหรี่ได้เฉพาะผู้ที่อายุ 14 ปีขึ้นไปเท่านั้น (เกิดก่อนปี 2008) และจะมีการขยับเพดานขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งแผนร่างนี้จะยื่นต่อรัฐสภาในปีหน้า กฎหมายนี้เป็นส่วนหนึ่งของการรณรงค์เพื่อลดปริมาณการสูบบุหรี่ในชุมชนให้เหลือน้อยกว่า 5% ภายในปี 2065 ซึ่งจะเปลี่ยนให้ผู้คนหันไปใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีอันตรายน้อยกว่าและมีโอกาสติดนิโคตินน้อยลง

       ในแต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวกับการสูบบุหรี่ระหว่าง 4,000 ถึง 5,000 คน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์ระบุ

       นอกจากการเสนอกำหนดเกณฑ์อายุผู้ซื้อบุหรี่ในกฎหมายแล้ว รัฐบาลยังมีการกำหนดมาตรการสนับสนุนเชิงปฏิบัติสำหรับผู้สูบบุหรี่เพื่อช่วยให้เลิกบุหรี่ได้ง่ายขึ้น

        อย่างการรับรองเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่มีระดับนิโคตินต่ำมากเท่านั้นที่สามารถผลิต นำเข้าและจำหน่ายได้ กำหนดข้อจำกัดในการโฆษณาบุหรี่ที่เข้มงวดขึ้น ลดปริมาณจำนวนร้านค้าที่จำหน่ายบุหรี่ เพิ่มเงินทุนสำหรับบริการผู้ติดยาเสพติด และไม่จำกัดการขายบุหรี่ไฟฟ้า

       โดยปัญหาที่น่ากังวลคืออาจเกิด 'ตลาดมืด' ในการลักลอบบุหรี่เข้ามาจำหน่าย ซึ่งในส่วนนี้กระทรวงสาธารณสุขของนิวซีแลนด์ก็ยอมรับและหาทางปรับต่อไป โดยด่านศุลกากรอาจต้องทำงานหนักขึ้นในการควบคุมการเดินทางบริเวณพื้นที่ที่ชายแดน อีกทั้งข้อคิดเห็นด้านลบจากกลุ่มร้านสะดวกซื้อในท้องถิ่นว่า นี้เป็นเรื่องที่ทฤษฎี 100% แต่ปฏิบัติจริง 0% เพราะกฎหมายเช่นนี้อาจนำไปสู่การก่อให้เกิดอาชญากรรมจากเหล่าอาชญากรหรือแกงค์อันธพาลที่มาปล้นจี้ร้านสะดวกซื้อมากขึ้น

       หากมองในด้านสิ่งแวดล้อม การลดสูบบุหรี่จะช่วยลดขยะได้มหาศาล โดยขยะก้นบุหรี่เป็นขยะอันดับต้นๆที่พบตกค้างในสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีสารอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต นอกจากนี้ก้นบุหรี่ยังเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้อีกด้วย ทั้งนี้ประชาชนในฐานะผู้สูบบุหรี่เองก็สามารถเพื่อแก้ไขปัญหาขยะบุหรี่ตกค้างในธรรมชาติได้ อย่างเช่นการดับไฟให้สนิทและทิ้งบุหรี่ในถังให้ถูกที่ ไม่ทิ้งตามท้องถนน ธรรมชาติ ชายหาด

ที่มา https://web.facebook.com/environman.th