17 พฤศจิกายน วันรณรงค์โรคถุงลมโป่งพองโลก
องค์การอนามัยโลกและองค์การโรคถุงลมโป่งพองโลกได้กำหนดให้วันพุธสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันรณรงค์โรคถุงลมโป่งพองโลก (World COPD Day) http://winne.ws/n28415
โรคถุงลมโป่งพอง เป็นโรคที่เกิดจากสาเหตุหลายประการ แต่สาเหตุหลักที่พบมากกว่า 90 % นั้น เกิดขึ้นจากการสูบบุหรี่ ส่วนสาเหตุอื่น ๆ อาจจะเกิดขึ้นจากการประกอบอาชีพ เช่น เกษตรกร ที่อาจจจะมีการเผาฟาง เผาหญ้า หรืออาชีพที่ต้องได้รับควันพิษ ไอพิษ จากสารเคมีต่าง ๆ ซึ่งโรคนี้เมื่อเป็นแล้วจะเป็นไปตลอดชีวิต รักษาไม่หาย จึงนับว่าเป็นโรคที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและการดำเนินชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก
ด้วยเหตุนี้ องค์การอนามัยโลกและองค์การโรคถุงลมโป่งพองโลกจึงได้กำหนดให้ทุกวันพุธสัปดาห์ที่ 3 ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันรณรงค์โรคถุงลมโป่งพองโลก (World COPD Day) ซึ่งในปีนี้จะตรงกับวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนักถึงพิษภัยของโรคถุงลมโป่งพองและหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดโรคนี้
รศ. นพ.สุทัศน์ รุ่งเรืองหิรัญญา หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เลขาธิการเครือข่ายวิชาชีพสุขภาพ เพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ กล่าวว่า โรคถุงลมโป่งพองนั้นเกิดจากการสูบบุหรี่ถึง 90 % อีก 10% เกิดจากการดำรงชีวิตหรือการประกอบอาชีพที่ได้รับควันพิษ ไอพิษ สารเคมี ฝุ่นแป้ง หรือแม้แต่ PM2.5 ในปริมาณมากน้อยและต่อเนื่องเพียงใด ดังนั้น ถ้าหากสามารถเลี่ยง หรือควบคุมปริมาณและระยะเวลาในการรับควันหรือไอพิษเหล่านั้นให้เหมาะสม ก็จะช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคถุงลมโป่งพองได้
รศ. นพ.สุทัศน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการรับควันบุหรี่มือสองอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานนั้น ถือว่ามีโอกาสน้อยในการเสี่ยงที่จะป่วยเป็นโรคถุงลมโป่งพอง แต่มีความเสี่ยงสูงที่จะเจ็บป่วยและเสียชีวิตอย่างรวดเร็วจากโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และเกิดกล้ามเนื้อหัวใจวาย รวมทั้งโรคมะเร็งด้วย
“คนที่เป็นโรคถุงลมโป่งพองนั้น โครงสร้างของปอดจะถูกทำลาย เปรียบเสมือนกำแพงเมืองถูกทำลายลงบางช่วงบางตอน มีช่องโหว่ให้ข้าศึกหรือเชื้อโรคต่าง ๆ เข้ามาจู่โจมได้ง่าย ก่อให้เกิดผลกระทบต่อร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว เพิ่มความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่สูบบุหรี่แต่ยังไม่เป็นโรคถุงลมโป่งพองมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด-19 มากกว่าคนปกติหรือคนทั่วไปอย่างน้อย 5 เท่า แต่คนที่สูบบุหรี่และป่วยเป็นโรคถุงลมโป่งพองด้วยนั้น ยิ่งมีความเสี่ยงมากกว่านั้นไปอีก” รศ. นพ.สุทัศน์ กล่าว
ขอบคุณเนื้อหาและอ่านเพิ่มเติมที่ สสส.