Carbon Brief ทำการวิเคราะห์เผยว่า เศรษฐกิจที่ชะลอตัว การเพิ่มขึ้นของการใช้พลังงานหมุนเวียน และมาตรการ lockdown ผลกระทบจากการระบาดโคโรนาไวรัสทำให้การปล่อยมลพิษในอากาศลดลง

       งานศึกษาเผยว่าปีก่อนหน้านี้การใช้ไฟฟ้าพลังงานความร้อนจากถ่านหินลดลงเนื่องจากความต้องการลดลง และจากการแข่งขันจากพลังงานหมุนเวียนที่เพิ่มขึ้น

        โดยในช่วงล็อคดาวน์ทำให้เห็นชัดขึ้นและลดลงอย่างมาก การผลิตพลังงานจากถ่านหินลดลง 15% ในมีนาคม และ 31% ในเดือนเมษายน

        และจากการศึกษาการใช้น้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน นักวิจัยเผยว่าการปล่อยคาร์บอนอาจลดลงประมาณ 30 ล้านตัน ในไตรมาตรจบเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการลดลงในรอบ 40 ปี

        อินเดียมีมาตรการ lockdown ตั้งแต่ 25 มีนาคม เพื่อการลดการแพร่ระบาดไวรัส หยุดโรงงาน ตลาด ร้านค้า และสถานที่ทำกิจกรรมรวมตัว ศาสนา รวมถึงรถสาธารณะ และการก่อสร้าง

         โดยเบื้องต้นข้อมูลเผยว่าในหลายเมืองมีมลพิษในอากาศอย่าง PM2.5 และก๊าซไนโตรเจนที่มาจากรถ และโรงงานไฟฟ้าลดลงมากมายอย่างชัดเจนเช่นกัน

        การใช้น้ำมันก็ลดลงตั้งแต่ปี 2019 ลดลงเช่นกัน แต่จากการแพร่ระบาดก็ทำให้การบริโภคลดลงอย่างชัดมากเลยทีเดียว โดยลดลง 18% ใน มีนาคม 2020 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว

         ในด้านการใช้ก๊าซธรรมชาติก็เช่นกัน มีการคาดการณ์ว่าจะลดลง 20% ในช่วง lockdown

         ขณะที่การใช้พลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแต่ก็มีการลดลงเช่นกันในช่วงการระบาด

       อย่างไรก็ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดนี้เป็นเพียงแค่ชั่วคราว โดยนักวิเคราะห์เผยว่าหลังจากนี้อาจทำให้การปล่อยมลพิษเพิ่มขึ้น หลังจากภาครัฐอาจจะมีการกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้นหลังจากนี้

        แต่อย่างไรก็ตาม Carbon Brief ได้วิเคราะห์ว่ารัฐบาลอินเดียก็กำลังดำเนินการสนับสนุนพลังงานหมุนเวียนหลังจากนี้เช่นกัน โดยพลังงานหมุนเวียนนี้ดีต่ออินเดียทำให้การใช้ไฟฟ้ามีราคาถูกลง

        ซึ่งการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดก็สอดคล้องกับโครงการสนับสนุนคุณภาพอากาศสะอาดของประเทศที่เริ่มในปี 2019
     
         นักสิ่งแวดล้อมหวังว่าอากาศที่ดีขึ้น ท้องฟ้าแจ่มใสขึ้นจะเป็นตัวกระตุ้นให้ภาครัฐเปลี่ยนแปลง และพัฒนาภาคส่วนพลังงาน เพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศระยะยาว

ที่มา https://www.facebook.com/1523107561151019