ชวนดูรู้ตื่นตัว! แผนที่สถานการณ์ ไวรัสโคโรนา! อัพเดทเรียลไทม์ ชวนทุกเร่งป้องกัน
ถือเป็นเรื่องใหญ่ของโลกเลยสำหรับไวรัสโคโรนา 2019-nCoV ที่มาจากจีนเมืองอู่ฮั่น ต้นเหตุโรคปอดอักเสบ แพร่จากคนสู่คนได้ โดยมีพบหลายที่ทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตกันแล้ว http://winne.ws/n26831
ถือเป็นเรื่องใหญ่ของโลกเลยสำหรับไวรัสโคโรนา 2019-nCoV ที่มาจากจีนเมืองอู่ฮั่น ต้นเหตุโรคปอดอักเสบ แพร่จากคนสู่คนได้ โดยมีพบหลายที่ทั่วโลก และมีผู้เสียชีวิตกันแล้ว
วันนี้จึงชวนดูแหล่งต่างๆที่เราสามารถเช็คสถานการณ์ไวรัสโคโรนาทั่วโลก แต่ละประเทศติดกี่คนแล้ว มีผู้เสียชีวิตกี่คน แล้วเราจะป้องกันอย่างไร ดังนี้
1. Center for Systems Science and Engineering, CSSE ได้ทำหน้าเว็บดูสถานการณ์ติดตามไวรัสที่อ้างอิงข้อมูลจาก WHO, CDC, ECDCl, CCDC แบบเรียลไทม์ในลิ้งค์นี้ https://gisanddata.maps.arcgis.com/…/opsdashboa…/index.html…
2. World Health Organisation, WHO อัพเดทรายงานสถานการณ์ไวรัส 2019-nCoV ทุกวันผ่านทาง https://systems.jhu.edu/research/public-health/ncov/
3. Centers for Disease Control and Prevention อัพเดทข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับไวรัสอู่ฮั่น ผ่านทาง https://www.cdc.gov/coronavirus/2019-ncov/index.html
4. คณะกรรมมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติของจีน NHC อัพเดทข้อมูลไวรัสทาง http://www.nhc.gov.cn/yjb/s3578/new_list.shtml
5. ชุดข้อมูล Google Sheet สรุปจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก ทาง https://docs.google.com/…/169AP3oaJZSMTquxtrkgFYM…/htmlview…
ไวรัสโคโรนา เชื้อร้ายควรระวัง! มันคืออะไร? ป้องกันอย่างไร?
อะไรคือ “ไวรัสโคโรนา”
เป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า Corona Virus [CoV] ซึ่งไวรัสตัวนี้อยู่ในตระกูลเดียวกันกับไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคซาร์ส (SARS) หรือโรคเมอร์ส (MERS) ซึ่งเป็นโรคระบาดหนักใน 37 ประเทศทั่วโลก เมื่อปี 2002 – 2003 ที่ผ่านมานั่นเอง
โดยปกติแล้ว Corona virus เป็นชื่อรวม ๆ ของสายพันธุ์ไวรัส ซึ่งจะคล้าย ๆ กับสายพันธุ์ของไข้หวัดใหญ่อย่าง influenza ที่สามารถแบ่งออกได้หลากหลายสายพันธุ์ สำหรับโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่พึ่งค้นพบนี้มีชื่อสายพันธุ์ว่า 2019nCoV (ซึ่ง ณ ตอนนี้ยังไม่ใช่ชื่อเรียกของสายพันธุ์อย่างเป็นทางการ)
ด้านนักวิทยาศาสตร์ที่ค้นพบตั้งข้อสันนิษฐานว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้มาจากไวรัสในค้างคาวที่กลายพันธุ์ โดยมีงูเป็นตัวกักเก็บและแพร่เชื้อ ทั้งนี้หากมีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ออกมาเพิ่มเติม ในอนาคตเราคงได้ทราบรายละเอียดกันมากขึ้น
อ่านต่อที่ https://www.facebook.com/environman.th