รู้หรือไม่ว่า อาหารที่เราบริโภคเข้าไปในแต่ละวัน แม้จะมีประโยชน์แต่หากไม่เหมาะสมกับร่างกายของเรา อาจก่อให้เกิดความเป็นพิษและเร่งความเสื่อมของร่างกาย เกิดโรคภัยไข้เจ็บตามมาได้ จะดีไม่น้อย ถ้าได้รู้ว่าอาหารประเภทใดบ้างเหมาะกับกรุ๊ปเลือดของเรา สำหรับการกินอาหารตามกรุ๊ปเลือด เป็นแนวทางที่ได้รับการยอมรับมาอย่างยาวนาน โดย ดร.ปีเตอร์ ดี อาดาโม ผู้ที่ได้รับรางวัลแพทย์ธรรมชาติบำบัดยอดเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกา ปี ค.ศ.1990 ได้อธิบายไว้ในหนังสือ Eat Right for Your Type โดยเขาเชื่อว่า "เลือดแต่ละกรุ๊ปมีสารเคมีในเลือดที่แตกต่างกัน โดยมีแอนติเจนกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ซึ่งอาหารทุกชนิดล้วนมีโปรตีนที่เป็นอนุมูลอิสระ มีคุณสมบัติในการเหนี่ยวนำและจับเกาะติดเลือดที่เรียกว่า "เลกติน" ถ้าเรากินอาหารที่มีเลกตินไม่เหมาะกับเลือด ก็จะทำให้เลกตินเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบย่อยอาหาร การเผาผลาญ การสร้างอินซูลิน และความสมดุลของฮอร์โมน"

จากความแตกต่างนี้เอง จึงทำให้เลือดแต่ละกรุ๊ปมีความสามารถในการย่อยต่างกัน ถ้าย่อยได้หมด ร่างกายก็จะนำสารอาหารไปใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ แต่ถ้าย่อยไม่หมด ก็จะตกค้างอยู่ในร่างกายและเน่าเสีย เมื่อถูกดูดซึมกลับไปอีกครั้งก็จะทำให้ร่างกายป่วยง่ายขึ้น

ลักษณะของแต่ละกรุ๊ปเลือด คือ

เลือดกรุ๊ป A  ชาวมังสวิรัติ 

เพราะมีกรดในกระเพาะอาหารต่ำมากและมีความเข้มข้นของเลือดสูง ทำให้ระบบการย่อยไม่ค่อยดี ระบบภูมิคุ้มกันก็ไม่ดี มีโอกาสเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและมะเร็ง ควรหลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ยกเว้นปลาแซลมอน ปลาทู ปลาค้อด ปลากะพง และปลาซาร์ดีน ที่สามารถกินได้สัปดาห์ละ 3-4 ครั้ง เพื่อช่วยเสริมโปรตีน และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานปลาจะละเม็ดและปลาตาเดียว เนื่องจากมีเลกตินสูง จะทำให้เลือดหนืดและไหลเวียนช้า ส่วนโปรตีนควรได้รับจากถั่วเหลืองหรือน้ำนมถั่วเหลืองทดแทนจากเนื้อสัตว์ ส่วนไข่กินได้บางครั้ง ข้าวกล้องหรือซีเรียลกินได้วันละ 1-2 ครั้ง

กินผลไม้แทบทุกชนิด ยกเว้น แตงโม แคนตาลูป มะม่วง มะละกอ กล้วย ส้ม เพราะย่อยยาก พวกชาสมุนไพรจะไปเพิ่มกรดในกระเพาะ ไวน์แดงดื่มได้ แต่ควรเลี่ยงเบียร์ และน้ำอัดลม

เลือดกรุ๊ป B  อ้วนง่าย

เป็นกรุ๊ปที่ค่อนข้างมีความยืดหยุ่นทางอาหารสูง คือ กินได้ทั้งเนื้อสัตว์และผักในปริมาณที่พอดี สามารถรับประทานเนื้อสัตว์ได้หลากหลาย อาทิ ไก่ ปลา ปลาแซลมอน ปลาเนื้อขาว กุ้ง ปู ส่วนนม เนย และไข่ กินได้ในปริมาณที่เหมาะสม แนะนำให้รับประทานข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต และหลีกเลี่ยงแป้งสาลี แป้งโฮลวีท และถั่วลิสง เพราะไม่ดีต่อระบบเผาผลาญ ทำให้อ้วนง่าย ส่วนผักแนะนำในกลุ่มผักใบเขียวเพราะมีแมกนีเซียมสูง ช่วยป้องกันอาการผื่นคันและภูมิแพ้ได้ ว่ากันว่าหมู่เลือด B จะแพ้อากาศได้ง่าย ส่วนผลไม้กินได้แทบทุกชนิด แต่ก็ควรเลี่ยงผลไม้รสหวาน หรือรับประทานให้น้อยลง แนะนำให้ทานสับปะรดเพราะมีเอนไซม์ช่วยให้ย่อยอาหารได้ง่ายขึ้น และทานกล้วยซึ่งอุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย ด้านเครื่องดื่มด้วยเหตุที่บอกว่าหมู่เลือดนี้แพ้อากาศง่าย จึงแนะนำให้ดื่มน้ำขิง ชาเชียว โสม และเปปเปอร์มิ้นท์ นอกจากช่วยแก้หวัด ช่วยให้ร่างกายอบอุ่นแล้วยังช่วยบำรุงประสาทอีกด้วย

เลือดกรุ๊ป O โปรตีนสูง

กระเพาะมีความเป็นกรดสูง ทำให้ย่อยอาหารจำพวกเนื้อได้ดีกว่ากรุ๊ปอื่น ๆ แถมยังดูดซึมสารอาหารได้ดี สามารถนำไปใช้ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้เป็นอย่างดี เลือกกินเนื้อได้ตามใจชอบ กินอาหารทะเลได้เป็นประจำ เพื่อป้องกันโรคเลือดไม่แข็งตัว และไทรอยด์ แต่ระวังเรื่องไขมัน และโคเรสเตอรอลด้วย กินนม เนย ไข่  ในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้าอยากผอมต้องเลี่ยงแป้งสาลี ข้าวโอ๊ต และบรรดาถั่วต่างๆ ผัก กินได้แทบทุกชนิด โดยเฉพาะบร็อคโคลี ผักโขม มีวิตามินเคสูง ช่วยให้เลือดแข็งตัว ส่วนผักตระกูลกะหล่ำควรหลีกเลี่ยงเพราะมีผลต่อไทรอยด์ เห็ดหอมและมะกอกดองทำให้เกิดอาการแพ้ มะเขือยาว และมันฝรั่งทำให้ปวดข้อ  

เลือดกรุ๊ป AB มังสวิรัติ และคาร์โบไฮเดรต

เป็นกรุ๊ปที่ผสมระหว่างกรุ๊ปเอและบี ดังนั้นจึงกินอาหารที่ใกล้เคียงกับสองกรุ๊ปนี้ได้ มีกรดในกระเพาะอาหารต่ำ ควรงดอาหารหมักดองทุกชนิด เพราะไม่ดีต่อสุขภาพ และมักมีปัญหาเรื่องระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เสี่ยงเป็นโรคหัวใจ มะเร็ง และเบาหวาน ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และเต้าหู้ สามารถกินเนื้อแกะ กวาง กระต่าย และไก่งวงได้นิดหน่อย ไม่ควรกินปลาเนื้อขาว และแซลมอนรมควัน เพราะย่อยยาก และเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหาร สามารถกิน นม เนย ไข่ และโยเกิร์ตไขมันต่ำได้ จำพวกข้าว ข้าวโอ๊ต ข้าวไรย์มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ควรงดเว้นการกินถั่วแดง งา เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ข้าวโพด เพราะจะชะลอการทำงานของอินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงเฉียบพลัน ผักสดกินได้แทบทุกชนิด ช่วยป้องกันมะเร็ง และโรคหัวใจ  

ขอบคุณเนื้อหาจาก เว็ป Medthai, Kapook

ภาพจาก Pixxabay