นาฬิกาชีวิตกับฤทธิ์ของขมิ้นชัน
ขมิ้นชัน นอกจากจะมีคุณค่าทางอาหารแล้ว ยังเป็นสมุนไพรที่มากมายไปด้วยสรรพคุณทางยา ยิ่งถ้าบริโภคตามนาฬิกาชีวิต ก็ยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษามากขึ้น http://winne.ws/n26348
ขมิ้นชัน มีชื่อภาษาอังกฤษว่า Turmeric ได้รับการยกย่องว่าเป็นสมุนไพรในกลุ่มเครื่องเทศ ที่มีประโยชน์มากมายต่อสุขภาพ ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรพื้นบ้านที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เป็นพืชเหง้าที่มีหัวใต้ดิน กลุ่มเดียว กับ ขิง ข่า และกระชาย มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ ให้สีเหลืองเข้มจนถึงสีแสด
ขมิ้นชัน อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอยู่หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ , วิตามินบี 1 , วิตามินบี 2 , วิตามินบี 3,วิตามินซี ,วิตามินอี , ธาตุแคลเซียม , ธาตุฟอสฟอรัส , ธาตุเหล็ก , เกลือแร่ต่างๆ รวมไปถึงเส้นใย , คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ในขณะเดียวกัน ขมิ้นชัน ก็มีสรรพคุณทางยาที่ช่วยรักษาอาการและบรรเทาโรคต่างๆ ได้หลากหลายชนิดจากการที่ได้ค้นพบประวัติในการนำมาใช้รักษามากกว่า 5,000 ปี
บริโภค ‘ขมิ้นชัน’ อย่างไรให้ได้ผลมากที่สุด
จากหลักการของทฤษฎีนาฬิกาชีวิต ถ้านำมาประยุกต์ให้เข้ากับการรับประทานสมุนไพรที่มีประโยชน์อย่างขมิ้นชัน ก็สามารถช่วยบำรุง รักษา รวมทั้งแก้ไข ฟื้นฟูระบบต่าง ๆ ในร่างกายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้
- 03.00 – 05.00 น. เป็นช่วงที่ลมปราณโคจรไปที่ปอด การรับประทานขมิ้นชันในช่วงนี้ จะช่วยบำรุงปอด แก้โรคภูมิแพ้ และช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
- 05.00 - 07.00 น. : ช่วงเวลานี้เป็นเวลาของ ‘ลำไส้ใหญ่’ การรับประทานขมิ้นชันในช่วงนี้จะเข้าไปช่วยแก้ปัญหาที่เกิดกับลำไส้ใหญ่ ซึ่งหากใครเคยรับประทานยาถ่ายมาเป็นเวลานานแนะนำว่าให้ทานขมิ้นชันในช่วงนี้ เพราะตัวขมิ้นชันจะเข้าไปฟื้นฟูปลายประสาทของลำไส้ใหญ่ แต่เน้นว่าต้องรับประทานเป็นประจำจึงจะทำให้ลำไส้ใหญ่บีบรัดตัวช่วยในการขับถ่ายได้อย่างเป็นปกติ
- 07.00 - 09.00 น. : ช่วงเวลานี้เป็นเวลาของ ‘กระเพาะอาหาร’ การรับประทานขมิ้นชันในช่วงนี้จะช่วยแก้ปัญหาโรคกระเพาะที่เกิดจากการรับประทานอาหารไม่เป็นเวลา รวมถึงยังช่วยลดอาการท้องอืด จุกแน่น ปวดหัวเข่า ขาตึง อีกทั้งยังช่วยบำรุงสมองและป้องกันอาการความจำเสื่อมอีกด้วย
- 09.00 - 11.00 น. : ช่วงเวลานี้เป็นเวลาของ ‘ม้าม’ การรับประทานขมิ้นชันในช่วงนี้จะเข้าไปช่วยแก้ปัญหาน้ำเหลืองเสีย การมีแผลที่ปาก อ้วนเกินไป หรือผอมเกินไปซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงานของม้าม นอกจากนี้ก็ยังเข้าไปช่วยลดอาการของโรคเกาต์ ลดอาการของเบาวานได้
- 11.00 - 13.00 น. : ช่วงเวลานี้เป็นเวลาของ ‘หัวใจ’ การรับประทานขมิ้นชันในช่วงนี้จะเข้าไปช่วยผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจ ขมิ้นชันจะเข้าไปช่วยบำรุงให้หัวใจแข็งแรง หากรับประทานเกินเวลา 11.00 น. ไปแล้ว ขมิ้นชั้นก็จะไปออกฤทธิ์ทำงานที่ตับและส่งมาที่ปอดแทน จากนั้นปอดก็จะส่งไปที่ผิวหนัง แต่โดยมากหากขมิ้นชันที่บริโภคมีปริมาณน้อยเกินไป ระหว่างทางที่ส่งอวัยวะต่างๆ ก็จะดึงไปใช้ทำให้ไปไม่ถึงผิวหนัง จึงต้องมีการทาขมิ้นชันเพิ่มบนผิวหนังอีกทีหนึ่ง
- 15.00 - 17.00 น. : ช่วงเวลานี้เป็นเวลาของ ‘กระเพาะปัสสาวะ’ การรับประทานขมิ้นชันในเวลานี้จะเข้าไปช่วยดูแลหูรูดกระเพาะปัสสาวะให้แข็งแรง แก้ปัญหาตกขาวในสตรีได้ อีกทั้งแนะนำว่าให้ดื่มน้ำกระชายในเวลานี้ด้วย เพราะจะช่วยทำให้หูรูดกระเพาะปัสสาวะของเราแข็งแรงมากยิ่งขึ้น หากเป็นไปได้ช่วงเวลานี้ควรทำให้เหงื่อออก เพราะร่างกายต้องการขับสารพิษให้ได้มากที่สุดในช่วงเวลานี้
ถ้าหากรับประทานขมิ้นชันเลยจากช่วงเวลาข้างต้นจนถึงเวลานอน ก็จะช่วยทำให้ความจำดีขึ้น และเมื่อตื่นนอนในตอนเช้าก็จะทำให้ไม่อ่อนเพลยได้ง่าย รวมถึงช่วยให้การขับถ่ายดีขึ้น
ขอบคุณภาพจาก เวปไซต์ pixxabay, Sanook