อานิสงส์อันยิ่งใหญ่ในการดูแลพ่อแม่ที่ลูกกตัญญูจะได้รับ
วันนี้ขอนำอานิสงส์ที่ลูกกตัญญูจะได้รับจากการเลี้ยงดูบำรุงบิดามารดา มาให้ทุกคนได้ทราบและนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติในชีวิตต่อไป http://winne.ws/n21089
เราคงจะได้ยินกันมาตั้งแต่เด็กว่า พ่อ แม่ คือพระอรหันต์ของบ้าน ซึ่งตามความเชื่อของทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี และโดยการปฏิบัติต่อคนที่รักในครอบครัว ส่วนในศาสนาพุทธนั้นการดูแลพ่อแม่ถือเป็นความกตัญญู เป็นการสร้างสิริมงคล สร้างบุญและทำให้ได้อานิสงส์แห่งชีวิตตนเองมาก ๆ
พ่อแม่คือผู้ให้ชีวิตแม้ท่านไม่ได้เลี้ยงดูเราพระคุณท่านเราก็ยังตอบแทนไม่หมด ใยจะกล่าวถึงที่ท่านเลี้ยงดูเราจนโต พระสัมมสัมพุทธเจ้าทรงเปรียบเทียบให้เห็นว่า "แม้เราจะเลี้ยงดูพ่อแม่บนบ่าทั้งสองข้างป้อนข้าวป้อนน้ำให้อุจจาระปัสสาวะบนบ่าให้ทำเช่นนี้ตลอด 100 ปี ก็ไม่อาจทดแทนพระคุณท่านได้หมด"
การตอบแทนพระคุณพ่อแม่ที่ดีที่สุดตามหลักพระพุทธศาสนาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสไว้คือ การที่ให้พ่อแม่ท่านเข้าวัดทำทาน รักษาศีลและเจริญภาวนา การตอบแทนเช่นนี้จึงถือได้ว่าได้ตอบแทนพระคุณพ่อแม่ได้สูงสุด
วันนี้มีผลดีที่ลูกกตัญญูจะได้รับ จากการที่เลี้ยงดู บำรุงบิดามารดา มาให้ทุกคนได้ทราบและนำไปเป็นแนวทางปฏิบัติในชีวิตต่อไป ซึ่งสามารถแบ่งได้ 2 ช่วงดังนี้
1.เมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่ ก็ช่วยเหลือกิจการงานของท่าน เลี้ยงดูท่านตอบเมื่อยามท่านชรา ดูแลปรนนิบัติการกินอยู่ของท่านให้สะดวกสบายและเอาใจใส่ช่วยเหลือเมื่อท่านเจ็บป่วย
2.เมื่อท่านล่วงลับไปแล้ว ก็จัดพิธีศพให้ท่าน และทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ท่านอย่างสม่ำเสมอ
แม้ว่าเราจะตอบแทนพระคุณท่านถึงเพียงนี้แล้ว ยังนับว่าเล็กน้อยมาก เมื่อเทียบกับพระคุณอันยิ่งใหญ่ที่ท่านมีต่อเรา ผู้ที่มีความกตัญญูกตเวทีต้องการจะสนองพระคุณท่านให้ได้ทั้งหมด พึงกระทำดังนี้
1. ถ้าท่านยังไม่มีศรัทธาในพระพุทธศาสนา ก็พยายามชักนำให้ท่านตั้งอยู่ในศรัทธาให้ได้
2. ถ้าท่านยังไม่ถึงพร้อมด้วยการให้ทาน ก็พยายามชักนำให้ท่านยินดีในการบริจาคทานให้ได้
3. ถ้าท่านยังไม่มีศีล ก็พยายามชักนำให้ท่านรักษาศีลให้ได้
4. ถ้าท่านยังไม่ทำสมาธิภาวนา ก็พยายามชักนำให้ท่านทำสมาธิภาวนาให้ได้
เพราะว่าการตั้งอยู่ในศรัทธา การให้ทาน การรักษาศีล การทำสมาธิภาวนาเป็นประโยชน์โดยตรงและเป็นประโยชน์อันยิ่งใหญ่แก่ตัวบิดามารดาผู้ปฏิบัติเองทั้งในภพนี้ภพหน้า และเป็นประโยชน์อย่างยิ่งคือเป็นหนทางไปสู่นิพพาน
อานิสงส์ของการดูแลพ่อแม่ และผู้มีพระคุณที่เลี้ยงดูเรามา มี 12 ประการ ดังนี้
1.ทำให้มีความอดทน
2.ทำให้เป็นคนมีสติรอบคอบ
3.ทำให้เป็นคนมีเหตุผล
4.ทำให้พ้นทุกข์พ้นภัยได้
5.ทำให้ได้ลาภโดยง่าย
6.ทำให้แคล้วคลาดภัยในยามคับขัน
7.ทำให้เทวดาลงมาพิทักษ์รักษาผู้ที่ทำ
8.ทำให้ได้รับการยกย่องสรรเสริญ
9.ทำให้มีความเจริญก้าวหน้า
10.ถ้ามีลูกก็จะได้ลูกที่ดี
11.ทำให้มีความสุข
12.ทำให้เป็นตัวอย่างอันดีแก่อนุชนรุ่นหลัง
“เพราะการปรนนิบัติในมารดาบิดานั้นแล บัณฑิตทั้งหลายย่อมสรรเสริญเขาในโลกนี้นี่เอง เขาละไปแล้ว ย่อมบันเทิงในสวรรค์”
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านทรงสรรเสริญบุตรที่กตัญญูตอบแทนพระคุณบิดามารดา แม้ตอนที่พระองค์เป็นพระบรมโพธิสัตว์ เกือบทุกภพชาติท่านจะเลี้ยงดูบิดามารดาเป็นแบบอย่างความกตัญญู ใน 10 ชาติสุดท้ายก่อนจะมาตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเสวยพระชาติเป็นสุวรรณสามที่เลี้ยงดูบิดามารดาที่ตาบอด ความกตัญญูและความเมตตา ความซื่อสัตย์ของสุวรรณสามทำให้สุดท้ายพ่อแม่ท่านกลับมามองเห็นได้เป็นอัศจรรย์นั้นคืออานิสงส์ความกตัญญู
พี่น้องชาวจีนที่มาอาศัยแผ่นดินไทย ชาวจีนจะปลูกฝังคุณธรรมความกตัญญูให้กับลูกหลาน ในยุคก่อนเราจะเห็นได้ชัดเรื่องความกตัญญูต่อบิดามารดาของคนจีน จะเห็นว่าคนจีนจะเจริญรุ่งเรืองร่ำรวยคุมเศรษฐกิจของประเทศ ตระกูลเศรษฐีส่วนใหญ่ล้วนเป็นชาวจีน
แบบอย่างมีให้เห็นใครที่กตัญญูย่อมมีแต่ความเจริญรุ่งเรืองแต่เพียงฝ่ายเดียวและจะเจริญรุ่งเรืองไปอีกหลายภพหลายชาติเลยทีเดียว
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
เพจ สุขกาย สบายใจ