ตรีผลา ราชาแห่งการปรับสมดุลธาตุและการล้างพิษ
ผู้ที่ชื่นชอบการดูแลสุขภาพด้วยแนวทางธรรมชาติ คงไม่มีใครไม่รู้จัก “ตรีผลา” สมุนไพรที่รวมเอาผลไม้ 3 ชนิด ได้แก่ มะขามป้อม สมอไทย และสมอพิเภกมาหมักรวมกัน จนได้เป็นสมุนไพรน้ำที่มีรสชาติออกจะฝาดๆ เฝื่อนๆ อยู่สักหน่อย http://winne.ws/n14849
เรามักได้ยินได้ฟังต่อๆ กันมาว่า ตรีผลามีสรรพคุณช่วยกำจัดไขมันพอกตับ บางครั้งก็ได้ยินว่าตรีผลา สามารถฆ่ามะเร็งได้ด้วย ความจริงแล้วคุณประโยชน์ของตรีผลา มีมากมายขนาดไหน เราก็ไม่สามารถอธิบายได้ครอบคลุมทั้งหมด แต่เราจะขอพูดถึงคุณประโยชน์ของตรีผลาในแง่มุมที่เห็นที่เด่นชัดที่สุด (และเป็นที่ยอมรับกันในแนวทางการแพทย์อายุรเวท ผู้ให้กำเนิดตรีผลา) ในฐานะ “ราชาแห่งการปรับสมดุลธาตุและการล้างพิษ” ก็แล้วกัน
ตามแนวทางการแพทย์อายุรเวทของอินเดียโบราณ อธิบายว่า การทำงานของระบบต่างๆ ในร่างกายมนุษย์ รวมถึงการเกิดขึ้นและเป็นไปของโรคภัยไข้เจ็บ ว่ามีมูลเหตุมาจาก 3 สมุหฐาน เรียกว่า ไตร-โทษา ซึ่งได้แก่
วาตะ คือ “ธาตุลม” หรืออากาศ มีหน้าที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ควบคุมการหายใจการกระพริบของเปลือกตา การเต้นของหัวใจ รวมทั้งการยืดและหดของกล้ามเนื้อ เป็นต้น
ปิตตะ คือ “ธาตุไฟ” มีหน้าที่เผาผลาญอาหารและให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ควบคุมการย่อย การดูดซึมสารอาหาร มีอิทธิพลต่อ สีผิวความสุกใสแวววาวของดวงตา รวมทั้งความฉลาด ความสามารถในการเรียนรู้
กผะ คือ “ธาตุดิน” และ “ธาตุน้ำ” ซึ่งได้แก่องค์ประกอบต่างๆที่เป็นโครงสร้างของร่างกาย เช่น กระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็นที่จะต้องมีทั้งความแข็งแรงและความชุ่มชื้น ยืดหยุ่นจึงต้องอาศัยองค์ประกอบที่เหมาะสมระหว่างดินและน้ำ
ความสมดุลของไตร-โทษาจะทำให้มีสุขภาพองค์รวมที่แข็งแรง แต่หากเกิดความไม่สมดุลของธาตุใดธาตุหนึ่ง ย่อมก่อให้เกิดความผิดปกติของร่างกายได้ เช่น “ปิตตะ” ซึ่งมี่หน้าที่ควบคุมระบบการย่อยอาหารให้สมบูรณ์ ย่อมจำเป็นต้องมี “กผะ” คือน้ำย่อยในกระเพาะอาหาร ที่เพียงพอ แต่หากมีน้ำน้อยหรือมากเกินไป ก็จะทำให้การย่อยอาหารไม่มีประสิทธิภาพ จนเกิดอาการท้องอืดเฟ้อ หรือเกิดแผลในกระเพาะอาหารได้
โดยเฉพาะ “ธาตุน้ำ” ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของร่างกาย ช่วยขับเคลื่อนกระบวนการทำงานตามธรรมชาติของทุกระบบและทุกอวัยวะในร่างกาย กผะช่วยให้การทำหน้าที่ของธาตุต่างๆ สอดประสานกันอย่างสมบูรณ์ จนร่างกายเกิดกำลังและเสถียรภาพ
ด้วยเหตุนี้ ตรีผลา ซึ่งประกอบด้วยผลไม้ธาตุน้ำ 3 ชนิด ได้แก่ มะขามป้อม สมอไทย สมอพิเภก จึงเป็นสมุนไพรที่การแพทย์อายุรเวทยกย่องให้เป็น สมุนไพรที่โดดเด่นในด้านการปรับสมดุลธาตุ สามารถบำรุงและฟื้นฟูร่างกายองค์รวมทุกระบบให้แข็งแรง และทำงานประสานกันอย่างมีประสิทธิภาพ
สรรพคุณโดดเด่น-การล้างพิษ
โดยทั่วไปแล้ว การใช้ตรีผลาในแนวทางการแพทย์อายุเวท จะใช้เพื่อการปรับปรุงระบบ
– การย่อยอาหาร
– การขับถ่าย
ส่วนประกอบจากผลไม้ทั้ง 3 ชนิดนั้น ออกฤทธิ์เสริมกันในด้านการกระตุ้นให้กระเพาะอาหารทำงานได้ดี และกระตุ้นการบีบตัวของลำไส้อย่างอ่อนโยน ต่างจากสมุนไพรระบายชนิดอื่นๆ ที่อาจทำให้เกิดอาการปวดมวนท้องหรือคลื่นไส้ก่อนการขับถ่าย
และเนื่องด้วยระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายที่มีประสิทธิภาพ จะทำให้เราได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอและมีของเสียหรือพิษตกค้างในร่างกายน้อย ถือเป็นรากฐานสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี การย่อยไม่ได้และถ่ายไม่ดี ล้วนเป็นต้นเหตุของสารพัดโรค จึงทำให้ตรีผลา ถูกนำมาใช้เป็นยาสมุนไพรพื้นฐานในการรักษาโรคแทบทุกโรค
ไม่ว่าจะเป็น โรคระบบทางเดินหายใจที่มักมีสาเหตุมาจากเมือกมันในอาหารที่เราทานแล้วไม่สามารถย่อยสลายได้หมดเกาะตัวตามผนังลำไส้ ทำให้จุลินทรีย์ที่ดีไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ จนภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง ก่อให้เกิดอาการภูมิแพ้
อาการสารอาหารในเลือดน้อย เนื่องจาก
ลำไส้มีขยะตกค้างอุดกั้นจนไม่สามารถดูดซึมสารอาหารไปเลี้ยงร่างกายได้ดีเท่าที่ควร หรือแม้กระทั่งโรคหลอดเลือดสมองและหลอดเลือดหัวใจ ตรีผลาก็สามารถช่วยป้องกันหรือบรรเทาอาการของโรคได้เช่นกัน เนื่องจากสารสำคัญที่มีอยู่ในผลไม้ทั้ง 3 ชนิด ล้วนมีคุณสมบัติในการต้านอนุมูลอิสระสูง
สรรพคุณของผลไม้สมุนไพรทั้ง 3 ชนิดในพิกัด “ตรีผลา”
มะขามป้อม
สรรพคุณทางอายุรเวทของมะขามป้อมคือ ช่วยปรับสมดุลของปิตตะ (ธาตุไฟ) ส่งเสริมการทำงานของตับและระบบภูมิคุ้มกัน
ชาวฮินดู เรียกมะขามป้อมว่า Amla ซึ่งแปลว่าพยาบาล หรือ แม่ แสดงให้เห็นว่าผลไม้ชนิดนี้ ได้รับการยกย่องในสรรพคุณทางยาอย่างมาก ชาวอินเดียโบราณยกย่องว่า “มะขามป้อมเป็นหนึ่งในสุดยอดยาอายุวัฒนะ” สามารถบำรุงได้ทั้งสมอง สายตา ผิวพรรณ ผม บำรุงโลหิต บำรุงอวัยวะองค์รวมทั้งภายนอกและภายใน อีกทั้งยังช่วยขับน้ำเหลืองเสียได้อีกด้วย
ตำราอายุรเวทบางเล่มมีการกล่าวว่า หากคนอินเดียไม่มองข้ามมะขามป้อมแล้วกินเพียงวันละ 1 ผล จะมีสุขภาพที่สมบูรณ์กว่านี้อีกมากนัก
จากการวิจัยพบว่า มะขามป้อม เป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงมาก และในผลของมะขามป้อมเองยังมีสารป้องกันการเกิดปฏิกิริยาที่ทำให้วิตามินซีเสื่อมสลาย จึงทำให้เป็นผลไม้ที่สามารถเก็บได้นานโดยสูญเสียวิตามินซีน้อยมาก ต่างจากผลไม้ชนิดอื่นๆ
นอกจากนี้ ผลมะขามป้อมยังมีสารในกลุ่มแทนนิน ได้แก่ เอมบริคานิน เอ และ บี (emblicanin a and b) ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระได้ดี ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ต้านไวรัส ต้านการอักเสบ กำจัดพิษโลหะหนัก และยังได้มีการทดลองที่ทำให้พบว่า สารสกัดจากมะขามป้อมมีฤทธิ์ลดไขมันในเลือดได้ทั้งในสัตว์ทดลอง และมนุษย์อีกด้วย
มะขามป้อม
สมอพิเภก
สรรพคุณทางอายุรเวทของสมอพิเภก คือ บำรุงและช่วยลดการเกิดอาการผิดปกติต่างๆ ของกผะ (ธาตุดินและธาตุน้ำ) ในร่างกาย เช่น ส่งเสริมการทำงานและลดความเสี่ยงในการก่อโรคของทางเดินปัสสาวะ ช่วยขับนิ่ว และยังช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบทางเดินหายใจ
ในประเทศพม่า นิยมทานผลแห้งของสมอพิเภกกับน้ำผึ้งเมื่อมีอาการไอ ผลอ่อนนิยมใช้เป็นยาระบาย ในขณะที่ผลแก่ นิยมใช้เป็นยาแก้ท้องเดิน
นอกจากนี้ สมอพิเภกยังมีสรรพคุณบำรุงระบบไหลเวียนโลหิต บำรุงธาตุ ในบัญชียาจากสมุนไพร ตามประกาศคณะกรรมการแห่งชาติด้านยา ก็ปรากฏมีการใช้สมอพิเภกเพื่อเข้ายารักษากลุ่มอาการของระบบไหลเวียนโลหิต และใช้เป็นหนึ่งในเครื่องยาของ “ตำรับยาหอมนวโกฐ” ซึ่งใช้เป็นยาแก้ลม บำรุงหัวใจ
สมอพิเภก
สมอไทย
สรรพคุณทางอายุรเวทของสมอไทย คือ บำรุงระบบย่อยอาหาร ปรับปรุงการทำงานของลำไส้และการดูดซึมสารอาหาร บำรุงตับ กระตุ้นการขับน้ำดีให้มีประสิทธิภาพ
และเนื่องจากความพิเศษเหนือสมุนไพรอื่นของสมอไทย ที่มีทั้งรสยาเปรี้ยวและฝาดผสานกัน ใช้เป็นทั้งยาระบาย หรือใช้เพื่อระงับการถ่ายก็ได้ ดังนั้นจึงสามารถใช้เพื่อแก้ไขภาวะลำไส้แปรปรวน แก้อาการท้องผูกหรือท้องเสียง่ายได้ผลดี ภาษาแพทย์แผนไทย เรียกสมุนไพรประเภทนี้ว่า “รู้ปิดรู้เปิด”
สมอไทย
สรุปคุณประโยชน์ของตรีผลาคร่าวๆ ดังนี้
ด้วยส่วนประกอบที่ได้จากสมุนไพรธาตุน้ำช่วยบำรุงกผะ คือ ธาตุน้ำและธาตุดินในระบบต่างๆ ของร่างกายได้ดี ช่วยให้กล้ามเนื้อ เซลล์ เม็ดเลือดและอวัยวะต่างๆ เก็บกักน้ำได้ดีขึ้น ระบบไหลเวียนเลือดดีขึ้น นำพาสารอาหารไปเลี้ยงร่างกาย และนำของเสียออกจากร่างกายได้ดีขึ้น
สมุนไพรในตรีผลาทั้ง 3 ชนิดมีฤทธ์เสริมกันในการปรับปรุงการทำงานของระบบทางเดินอาหาร และระบบขับถ่ายให้เป็นปกติ จึงช่วยแก้ไขอาการท้องอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ท้องผูก รวมถึงโรคลำไส้แปรปรวนที่มีอาการท้องผูกสลับท้องเสียได้ดี
ตรีผลามีสรรพคุณด้านการล้างพิษ และขับขยะตกค้างในลำไส้ได้ดี หากทานเป็นประจำจะทำให้ลำไส้สะอาดขึ้น เมือกมันในลำไส้น้อยลง ส่งผลให้จุลินทรียที่ดีในลำไส้สามารถอาศัยและขยายจำนวนประชากรได้มากขึ้น เป็นผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน จึงมีส่วนช่วยในการแก้ไขอาการที่เกิดจากภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ภูมิแพ้ทางเดินหายใจได้ดี
สารต้านอนุมูลอิสระสูง ในพิกัดยาตรีผลาประกบด้วยผลไม้ 3 ชนิดซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยบำรุงสุขภาพองค์รวม และมีส่วนในการช่วยลดปัจจัยเสี่ยงของโรคแห่งความเสื่อมต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง หลอดเลือดหัวใจ โรคตับเสื่อมรวมทั้งการเกิดเซลล์มะเร็งได้
สรรพคุณเพียงเท่านี้ ก็น่าจะเพียงพอแล้วสำหรับการเลือกตรีผลามาเป็นตัวช่วยดูแลสุขภาพให้ตนเองและคนที่ท่านรัก ที่สำคัญ เราควรทานสมุนไพรพื้นบ้านที่ปู่ย่าตาทวดของเราทานเป็นอาหารกันมานานนมโดยไม่เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพ น่าจะดีกว่าทานอาหารเสริมสังเคราะห์จากเคมีที่ร่างกายของเรานั้นไม่คุ้นชิน โดยเฉพาะตับที่มีหน้าที่มากมายอยู่แล้ว อย่าเพิ่มภาระให้ตับต้องเหนื่อยคอยกำจัดเคมีส่วนเกินออกจากร่างกายอีก
ตรีผลาทานไม่ยากอย่างที่คิด
เนื่องจากตรีผลาที่มีจำหน่ายส่วนใหญ่จะเป็นตรีผลาแบบน้ำ ซึ่งอาจจะทำใจทานลำบากกันสักหน่อยสำหรับผู้ที่ไม่เคยทานยาสมุนไพร แถมไม่เคยทานยาน้ำ ในปัจจุบันผูผลิตจึงผลิตตรีผลาในรูปแบบแคปซูลออกมาจำหน่ายกันเป็นทางเลือกเพิ่มขึ้น แต่การทานตรีผลาให้ได้ประโยชน์สูงสุด เรายังคงแนะนำว่าควรทานตรีผลาแบบน้ำที่ใช้กระบวนการหมักจะดีที่สุด
เนื่องจากการหมักในระยะเวลาที่เหมาะสม จะสามารถสกัดสารสำคัญของสมุนไพรให้ออกมาอย่างนิ่มนวลโดยที่โครงสร้างโมเลกุลของสารอาหารถูกรบกวนน้อยที่สุด สารสำคัญยังคงอยู่อย่างสมบูรณ์แบบที่สุดเมื่อเทียบกับวิธีการสกัดแบบอื่นๆ
อีกทั้งในระหว่างการหมักผลไม้อย่างถูกวิธีและสุขอนามัย จะก่อให้เกิดจุลินทรีย์ที่ดีและเอนไซม์ที่มีประโยชน์เป็นจำนวนมาก และการหมักก็ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีเหมือนการสกัดแบบอื่นอีกด้วย การทานตรีผลาแบบหมักจึงให้ประโยชน์สูงสุดต่อร่างกาย หากจะให้ทานได้ง่ายขึ้นก็เพียงแค่เติมน้ำผึ้งเล็กน้อย หรือเจือจางด้วยน้ำก็ทานได้ง่ายขึ้นแล้ว…..
ขอบคุณข้อมูลจากhttp://thearokaya.co.th/web/?p=5386