ผลการวิจัยเผยชัด! โดย K. Kijsarun Chanpo การสวดมนต์กับการนั่งสมาธิ มีผลต่างกันหรือไม่ ??

ได้ทำการทดลองกับนิสิตจุฬา ฯ จำนวน 60 คนโดยให้สวดมนต์ 30 คน และทำสมาธิ 30 คน ชาย-หญิงอย่างละ 15 คน และทำการวัดคลื่นสมองทีละคนในขณะสวดมนต์ 30 นาที และผู้ทำสมาธิ 30 นาที http://winne.ws/n12418

4.6 พัน ผู้เข้าชม
ผลการวิจัยเผยชัด! โดย K. Kijsarun Chanpo การสวดมนต์กับการนั่งสมาธิ มีผลต่างกันหรือไม่ ??แหล่งภาพจาก ดูดวง - Mthai

"รู้ไหมว่าระหว่างสวดมนต์กับนั่งสมาธิ ได้ผลดีต่างกันอย่างไร"

*ผลการวิจัยออกมาแล้วโดย K. Kijsarun Chanpo 

          ได้ทำการทดลองกับนิสิตจุฬา ฯ จำนวน 60 คนโดยให้สวดมนต์ 30 คน และทำสมาธิ 30 คน ชาย-หญิงอย่างละ 15 คน และทำการวัดคลื่นสมองทีละคนในขณะสวดมนต์ 30 นาที และผู้ทำสมาธิ 30 นาที

          บันทึกการทำงานของสมองตลอดระยะเวลา 30 นาที ผลปรากฎ ว่าทั้ง 30 คนนในการสวดมนต์ทีละคน ได้ผลเหมือนกัน คือนาทีที่ 0-5 นาทีแรกจิตยังซัดส่าย พอนาทีที่ 5-10,10-15,15-20,20-25,25-30 คลื่นสมองจะบอกถึงการดิ่งของจิตที่สงบจนจบต่อเนื่องถึงหลังการทดลองอีกระยะหนึ่ง. สุดยอดไหม       

นั่งสมาธิเดี่ยว

ผลการวิจัยเผยชัด! โดย K. Kijsarun Chanpo การสวดมนต์กับการนั่งสมาธิ มีผลต่างกันหรือไม่ ??แหล่งภาพจา ธรรมะและบทสวดมนต์สำหรับทุกคน

ส่วนการทำสมาธิจะได้ผลดีที่สุดอยู่ที่ นาทีที่ 0-5 พอเข้านาทีที่ 5-10,10-15,15-20... จบจนการทดลองจิตจะซัดส่าย คลื่นสมองจะไม่นิ่ง อันเนื่องจากมีนิวรณ์ 5 เข้ามาเป็นเครื่องกั้นการทำงานของจิตต่อการทำสมาธิ ดังนั้นจิตที่ยังมีนิวรณ์ 5 อยู่เช่นนี้ย่อมจะไม่สามารถเป็นสมาธิได้ ต้องฝึกเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอจะสามารถกำจัดนิวรณ์ได้.

         ซึ่งการทดลองนี้สอดคล้องกับมาตรฐานสัญญาณคลื่นสมองอัลฟ่าผ่อนคลายเมื่อหลับตาลงซึ่ง เป็นช่วงที่ดีที่สุดในระยะแรก

         ฉะนั้นทำให้เรารู้ว่าการสวดมนต์ก่อนทำสมาธิจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะจิตเราจะจดจ่อกับ บทสวดมนต์อยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงของคลื่นสมองอัลฟ่าเกิดขึ้นและคงอยู่ได้อย่างต่อเนื่องจนหลังการ ทดลองอีก 5 นาที. ซึ่งจะเป็นช่วงที่เข้าสู่ การทำสมาธิ ได้อย่างต่อเนื่อง เมื่อฝึกบ่อย ๆ นิวรณ์5 ก็จะหมดไป*

          ร่วมกันอนุโมทนาบุญกับผลงานวิจัยครั้งนี้ ซึ่งสามารถแนะนำคนที่ยังไม่เคยทำ ได้ทดลองปฏิบัติดู 

นั่งสมาธิ

ผลการวิจัยเผยชัด! โดย K. Kijsarun Chanpo การสวดมนต์กับการนั่งสมาธิ มีผลต่างกันหรือไม่ ??แหล่งภาพจาก www.guitarthai.com

ที่มา http://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=25129

อ้างอิง http://www.spsc.chula.ac.th/backupnew/web_older/main2007/journal/15-2.pdf วารสารวิทยาศาสตร์การกีฬาและสุขภาพ ปีที่ 15 ฉบับที่ 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2557)

Cr.ผศ.ทัศนีย์รัตน์  แววสว่างวงศ์

เส้นทางบุญ @Pathofboon

แชร์