คำว่า “พระ”หมายถึง “ผู้ประเสริฐ” เมื่อใดได้สองมือพนม จรดระหว่างคิ้ว ปลายนิ้วอยู่ที่ศีรษะ  ถือว่าเป็นสิริมงคลที่ได้ไหว้พระ ไม่ว่าจะเป็นพระรูปลักษณ์แบบไหนก็ล้วนแต่เป็นมงคลทั้งสิ้น เพราะไหว้ด้วยใจ ไหว้ด้วยจิตที่คิดดี มีศรัทธา ล้วนเป็นสิ่งมงคลกับชีวิตทั้งสิ้น 

 ข้อคิดคติธรรม จากบรรยายหัวข้อ “พระแท้” กลวิธีการไหว้พระที่พระมงคลธีรคุณ (อินศร จินฺตาปญฺโญ) รองเจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน  จ.นครปฐม

ในเวทีบรรยายธรรมของโครงการเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ พระมงคลธีรคุณ ได้ให้ความกระจ่างในธรรมว่า “ไหว้พระ” ที่เป็นมงคลนั้น ไม่ต้องคิดว่า พระนั้นแท้หรือไม่?  และการกราบไหว้พระ ไม่ใช่ไปไหว้แล้วจะเกิดบุญ  เกิดกุศลจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์  แต่ทุกครั้งที่ได้ไหว้พระ จะเป็นเครื่องเตือนสติให้ผู้ปฏิบัติ คิดระลึกสร้างความดี ปฏิบัติดี แล้วการหมั่นเพียรทำดีนั้นเอง อันจะนำไปสู่ความสุข ความสำเร็จในชีวิต

เราอยู่ในเมืองไทย พบผู้คนมากมาย  พระสงฆ์ไทยมีมากกว่า 300,000 รูป เราจะมองอย่างไรถึงจะรู้ว่า นั่นคือพระแท้หรือพระปลอม  ความจริงเป็นเรื่องที่ใหญ่มากพระพุทธองค์ตั้งองค์กรสงฆ์ขึ้นมา มองว่าบุคคลที่จะเข้ามาสู่องค์กรนี้ได้มีความพร้อมเสียสละ  ละกิเลส และเป็นตัวแทนผู้ที่ประพฤติปฏิบัติธรรม และนำคำสอนมาเผยแผ่พระพุทธศาสนาสู่ประชาชนให้หลุดพ้นจากความทุกข์  มีความรู้ที่จะตัดกิเลสให้เบาบางลงไปได้ และเป็นบุคคลที่ประชาชนเห็นแล้วก็สบายใจ

เมื่อครั้งที่พุทธองค์ทรงตรัสรู้ และทรงแสดงธรรมเทศนา “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” ว่าด้วยทางสุดโต่ง 2 ทางไม่ใช่ทางตรัสรู้ ทางสายกลางคือมรรคมีองค์ 8 เป็นทางตรัสรู้  เป็นทางประเสริฐ อธิบายได้คือมี สมัมาทิฏฐิ ความเห็นชอบได้เห็นปัญญาแจ้ง , สัมมาสังกัปปะ ความดำริชอบไม่พยาบาท ไม่เบียดเบียน , สัมมาวาจา การที่ไม่พูดเท็จ ไม่พูดเพ้อเจ้อ ไม่ส่อเสียด , สัมมากัมมันตะ การงานชอบ มีความพฤติชอบสุจริต ไม่ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ , สัมมาอาชีวะ การเลี้ยงชีพชอบ คือประกอบอาชีพในทางที่ถูกที่ควร ไม่เบียดเบียนผู้อื่น , สัมมาวายามะ เป็นความเพียรชอบที่ต้องเพียรละเว้นต่อบาปและทำกุลศล , สัมมาสติ ความระลึกชอบ คือการระลึกต่อการเจริญสติ ไม่ให้สอดส่ายไปคิดเรื่องผู้อื่น สุดท้าย สัมมาสมาธิ ความตั้งในชอบ ให้จิตตั้งมั่นแน่วแน่

อันเป็นคุณสมบัติของพระแท้ พึงต้องปฏิบัติตนต่อเนื่อง เป็นทางสายกลางที่จะนำให้ผู้ปฏิบัติถึงแก่ทางพ้นทุกข์ เกิดศีล สมาธิ และปัญญา ซึ่งพระพุทธเจ้าได้แสดงแก่พระภิกษุสงฆ์เพื่อให้พิจารณาระลึกต่อหน้าที่ภิกษุสงฆ์ อาทิ กริยา วาจา ต้องระวังสำรวม , ประพฤติในพรหมจรรย์ ถูกตามธรรมวินัย อย่าให้เกิดการปลงอาบัติ , ละทิ้งต่อความรัก โลภ โกรธ หลง , พึงยินดีต่อการประพฤติดี ก้าวสูงความมีคุณธรรม ละความชั่ว  นี้คือเรื่องพระภิกษุสงฆ์ ที่จะต้องคำนึงและตักเตือนอยู่เสมอ

นอกจากนี้สำหรับสาธุชน สิ่งที่เป็นมงคลในชีวิตนั้น คือการทำหน้าที่ชาวชุทธ อันเป็นอริยบุคคล หรือ บุคคลที่มีปัญญาเพื่อหาความสงบในจิตใจ หาวิถีแห่งการพ้นทุกข์ในชีวิต เป็นปัญญาที่สร้างจากศรัทธาต่อการทำดี มีเมตตา อนุเคราะห์พุทธศาสนาด้วยความปรารถนาดี ยึดมั่นในหลักคำสอนน้อมนำมาปรับใช้เพื่อความสุขความเจริญ

“ถ้าหากได้เข้าใจประเด็นธรรมที่พระพุทธเจ้าฝากไว้ ในหลักธรรม ชาวพุทธทุกคนได้กราบไหว้พระ เพื่อให้เราระลึกถึงคำสอน มีศรัทธาและปัญญา ในโลกแห่งความจริง  ใช้ธรรมเป็นเครื่องสดับในการเตือนใจ ใช้ชีวิตไม่ประมาทในการทำดีความสม่ำเสมอ ก็จะเห็น “พระแท้ ที่จิตใจ” อยู่ที่ใดก็สามารถกราบไหว้พระได้อย่างบริสุทธิ์ใจ” 

พระมงคลธีรคุณ ทิ้งท้ายข้อคิดตามหลักธรรม ไว้ในการบรรยายโครงการเรายกวัดมาไว้ที่เซเว่นฯ เพื่อส่งเสริมการศึกษา พัฒนาคุณธรรม-จริยธรรม ที่ได้จัดธรรมบรรยายเพื่อให้พนักงานและประชาชนผู้ที่สนใจได้ร่วมฟังเทศน์ ปฏิบัติธรรม ตลอดระยะมากกว่า 20 ปี สำหรับผู้ที่สนใจข้อคิดดีๆ แบบนี้ สามารถร่วมฟังธรรมบรรยายได้ที่อาคารซีพี ทาวเวอร์ ถนนสีลม ทุกเที่ยงวันศุกร์ หรือติดตามรายละเอียดได้ที่ www.cpall.co.th

http://www.matichon.co.th/news/370520

ธรรมบรรยายที่งดงามตั้งแต่เบื้องต้น ท่ามกลาง และเบื้องปลาย กราบขอบพระคุณธรรมะดีดีของพระมงคลธีรคุณ (อินศร จินฺตาปญฺโญ) รองเจ้าอาวาสวัดญาณเวศกวัน  จ.นครปฐม  และกราบขออนุญาตนำลงในWN เพื่อเป็นการเผยแผ่และเป็นสิริมงคล แก่ผู้อ่าน  และขอบคุณมติชนที่นำมาเผยแพร่