รูปพระพุทธเจ้า ???

พวกเราทุกคนยังมีบุญไม่มากพอ ที่จะได้เกิดมาในยุคที่พระพุทธเจ้ายังมีชีวิตอยู่ เราจึงไม่เคยเห็นว่าจริงๆพระองค์รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ก็มีรูปออกมาให้เห็นมากมายทั้งรูปวาดและรูปที่เป็นพระองค์จริง http://winne.ws/n6583

6.2 พัน ผู้เข้าชม

มีรูปบางรูปที่คนพยายามบอกว่า นี่คือรูปของพระพุทธเจ้า

ซึ่งเท่าที่เห็นกันบ่อยๆ มี   2  รูป

รูปแรกที่เป็นรูปขาวดำ ที่ระบุว่าเป็นรูปพระพุทธเจ้าตอนอายุ 41 พรรษา

วาดโดยอัตรสาวกพระองค์หนึ่ง และถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์ที่ลอนดอน

และบอกว่าเป็นสมบัติล้ำค่าของชาวพุทธทั่วโลก คำถามคือ เป็นรูปพระองค์จริงหรือเปล่า

รูปพระพุทธเจ้า ???
รูปพระพุทธเจ้า ???

ซึ่งก็ได้มีบล๊อกหนึ่งได้มาโพสต์ว่า ภาพดังกล่าวที่อ้างว่าถูกตั้งไว้ที่พิพิธภัณฑ์ในอังกฤษนั้นไม่มีอยู่จริง (http://kaeloveake.blogspot.com/2015/11/blog-post_25.html

รูปนี้หากเราพิจารณาโดยไม่ต้องมีความรู้อะไรมากก็จะเห็นว่า

1 ในรูปนี้ใส่ตุ้มหู และมีหนวดเครา แค่นี้ก็คงตอบคำถามอะไรได้หลายอย่างมากแล้วว่าเป็นไปได้แค่ไหนที่พระพุทธเจ้าจะทำแบบนั้น

2 หากจะสรุปโดยคร่าวๆว่าพระพุทธเจ้าหน้าตาเป็นอย่างไรก็ต้องตอบว่าพระพุทธเจ้าหน้าตาดี ดีมากพอที่จะทำให้คนลุ่มหลงได้เพราะในพระไตรปิกมีการกล่าวถึงผู้ที่ลุ่มหลงในความสง่างามของพระพุทธเจ้า และในพระไตรปิฎกก็มีการกล่าวเรื่องความสง่างาม ที่มีมากจนใครเห็นก็ศรัทธา

ลองดูรูปนี้ก็คงได้คำตอบว่าดูดีหรือเปล่า

3 พระพุทธเจ้าจะมีลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการ(พระไตรปิฎกเล่มที่ 11 ข้อ130)

ซึ่งจะมีดวงตาดำสนิท และมีดวงตาแจ่มใสดั่งลูกโคที่พึ่งคลอด (ดูในรูปนี้แล้วคงไม่น่าจะใกล้เคียง)

และพระพุทธเจ้าเวลามอง จะมองตรง มองทั้งตัว จะไม่ใช้หางตามอง ดังในพระไตรปิฎกเล่มที่ 13 ข้อ 589 ได้กล่าวไว้ว่า

"เมื่อ ทอดพระเนตร ทรงทอดพระเนตรด้วยพระกายทั้งหมด ไม่ทรงทอดพระเนตรขึ้นเบื้องบน ไม่ทรงทอดพระเนตรลงเบื้องต่ำ เสด็จดำเนินไม่ทรงเหลียวแล ทรงทอดพระเนตรประมาณชั่วแอก"

สรุปว่ารูปนี้ดูยังไงก็ไม่น่าจะเป็นรูปพระพุทธเจ้าจริงๆ เพราะแทบไม่มีอะไรสอดคล้องกับลักษณะของพระพุทธเจ้า ตามที่มีในพระไตรปิฎกเลย

รูปที่สอง เป็นรูปสี และเป็นรูปยอดนิยม ที่มีคนจำนวนมากเชื่อว่าเป็นรูปพระพุทธเจ้าจริงๆ หากดูในด้านความสง่างาม และภาพโดยรวม ก็ถือได้ว่ามีแนวโน้มจะเป็นไปได้

รูปพระพุทธเจ้า ???

แต่ว่าลักษณะมหาบุรุษ 32 ประการนั้น ละเอียดมากจนเราไม่สามารถสรุปจากรูปลักษณ์ภายนอกได้     

            พระมหาบุรุษทรงสมบูรณ์ด้วยลักษณะมหาบุรุษทั้ง ๓๒ ประการ คือ

                    ๑. มีฝ่าพระบาทราบเสมอกัน

                    ๒. พื้นฝ่าพระบาททั้งสองมีจักรซึ่งมีกำ ข้างละ ๑,๐๐๐ ซี่ มีกง มีดุม และมีส่วนประกอบครบทุกอย่าง

                    ๓. มีส้นพระบาทยื่นยาวออกไป

                    ๔. มีพระองคุลียาว

                    ๕. มีพระหัตถ์และพระบาทอ่อนนุ่ม

                    ๖. ฝ่าพระหัตถ์และฝ่าพระบาทมีเส้นที่ข้อพระองคุลีจดกันเป็นรูปตาข่าย

                    ๗. มีข้อพระบาทสูง

                    ๘. มีพระชงฆ์เรียวดุจแข้งเนื้อทราย

                    ๙. เมื่อประทับยืน ไม่ต้องน้อมพระองค์ลง ก็ทรงลูบคลำถึงพระชานุด้วยพระหัตถ์ทั้งสองได้

                    ๑๐. พระคุยหฐานเร้นอยู่ในฝัก

                    ๑๑. มีพระฉวีสีทอง มีพระฉวีเปล่งปลั่งดุจทองคำ

                    ๑๒. มีพระฉวีละเอียดจนละอองธุลีไม่อาจติดพระวรกายได้

                    ๑๓. มีพระโลมชาติเดี่ยว คือในแต่ละขุมมีเพียงเส้นเดียว

                    ๑๔. มีพระโลมชาติปลายงอนขึ้น คือพระโลมชาติขอดเป็นวง เวียนขวาดังกุณฑลสีคราม เข้มดังดอกอัญชัน

                    ๑๕. มีพระวรกายตั้งตรงดุจกายพรหม

                    ๑๖. มีพระมังสะในที่ ๗ แห่ง๑ เต็มบริบูรณ์

                    ๑๗. มีพระวรกายทุกส่วนบริบูรณ์ดุจลำตัวท่อนหน้าของราชสีห์

                    ๑๘. มีร่องพระปฤษฎางค์เต็มเสมอกัน

                    ๑๙. มีพระวรกายเป็นปริมณฑลดุจปริมณฑล ของต้นไทร พระวรกายสูงเท่ากับ ๑ วา ของพระองค์ (๑ วาของพระองค์เท่ากับส่วนสูงพระวรกาย)

                    ๒๐. มีลำพระศอกลมเท่ากันตลอด

                    ๒๑. มีเส้นประสาทรับรสพระกระยาหารได้ดี

                    ๒๒. พระหนุดุจคางราชสีห์

                    ๒๓. มีพระทนต์ ๔๐ ซี่

                    ๒๔. มีพระทนต์เรียบเสมอกัน

                    ๒๕. มีพระทนต์ไม่ห่างกัน

                    ๒๖. มีพระเขี้ยวแก้วขาวงาม

                    ๒๗. มีพระชิวหาใหญ่ยาว

                    ๒๘. มีพระสุรเสียงดุจพรหม ตรัสดุจเสียงร้องของนกการเวก

                    ๒๙. มีพระเนตรดำสนิท

                    ๓๐. มีดวงพระเนตรแจ่มใสดุจตาลูกโคเพิ่งคลอด

                    ๓๑. มีพระอุณาโลมระหว่างพระโขนง สีขาวอ่อนเหมือนปุยนุ่น

                    ๓๒. มีพระเศียรดุจประดับด้วยกรอบพระพักตร์

            ทั้งหมดนี้ คือ ลักษณะมหาบุรุษ ๓๒ ประการของผู้ที่มีรูปกายที่สมบูรณ์อย่างแท้จริง พระบรมศาสดาทรงเล่าประวัติการสร้างบารมี ที่เป็นเหตุให้พระองค์ได้ลักษณะมหาบุรุษว่า “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ครั้งตถาคตเป็นมนุษย์ในภพชาติปางก่อน เป็นผู้ยึดมั่นในกุศลธรรม มั่นคงไม่ถอยหลังในกายสุจริต วจีสุจริตและมโนสุจริต ยึดมั่นในการบำเพ็ญทาน สมาทานศีล รักษาอุโบสถ ปฏิบัติดีในมารดาบิดา สมณพราหมณ์ เป็นผู้เคารพต่อผู้ใหญ่ในตระกูล และมีความเคารพยิ่งในธรรม ตถาคตย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ เบื้องหน้าแต่ต้องตายเพราะกายแตก อันเนื่องเพราะกรรมที่ตถาคตได้ทำและสั่งสมพอกพูนไว้ ตถาคตย่อมครอบงำเทวดาทั้งหลายในโลกสวรรค์โดยสถาน ๑๐ คือ อายุทิพย์ วรรณะทิพย์ ความสุขทิพย์ ยศทิพย์ ความเป็นอธิบดีทิพย์ รูปทิพย์ เสียงทิพย์ กลิ่นทิพย์ รสทิพย์และโผฏฐัพพะทิพย์  ครั้นจุติจากโลกสวรรค์มาเกิดเป็นมนุษย์ ย่อมได้มหาปุริสลักษณะครบถ้วนทุกประการ”

          ในพระไตรปิฎกจะมีคนจำนวนมาก ที่ได้ทราบเรื่องลักษณะมหาบุรุษจากคำภีร์ที่บันทึกเอาไว้ เมื่อมาพบพระพุทธเจ้า แล้วได้พยายามสำรวจทุกอย่าง อย่างละเอียด ก็สามารถสำรวจได้เพียง 30 ประการเท่านั้น เพราะมีอีก 2 อย่างที่ไม่สามารถมองเห็นได้(หากพระองค์ไม่ทำให้เห็น)  นั่นคือ พระคุยหะ(อวัยวะในที่ลับ) จะอยู่ในฝัก และพระชิวหา(ลิ้น) จะสมบูรณ์พอดี ใหญ่และยาวพอที่จะแลบออกมาแผ่ปิดใบหน้าได้  ซึ่งผู้ที่มีบุญและได้ทราบลักษณะมหาบุรุษ แล้วยังสงสัยในอีก 2 ประการนี้ พระองค์ก็จะแสดงอิทธิฤทธิ์ ให้คนนั้นได้เห็นอีก 2 ประการนี้ จนเชื่อมั่นว่าพระองค์คือพระพุทธเจ้า จึงบวชแล้วก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ เป็นต้น

         กล่าวโดยสรุปก็คือ รูปที่สองนี้ ก็ยังมีหลักฐานไม่มากพอที่จะสรุปว่าเป็นรูปพระพุทธเจ้าอยู่ดี

รูปพระพุทธเจ้า ???

จริงๆแล้วพระพุทธเจ้าจะมีรูปร่างหน้าตาอย่างไรไม่สำคัญ เพราะสิ่งที่สำคัญมากกว่าก็คือ พระองค์ตรัสรู้อะไร เพราะ สิ่งที่จำเป็นประโยชน์ต่อชีวิตเรามากที่สุดก็คือ ธรรมะที่จะนำมาพัฒนาชีวิต จนมีชีวิตที่ดีขึ้น ดีขึ้น รวมถึงช่วยให้บางคนที่ต้องการหลุดพ้นสามารถนิพพานได้

ดั่งที่พระพุทธเจ้าได้กล่าวเอาไว้ว่า ผู้ที่เกาะชาวจีวรของพระองค์ แต่ไม่ปฏิบัติตามธรรม ก็ไม่ถือว่าใกล้ชิดพระองค์

แต่ผู้ใดที่ปฏิบัติตามธรรม แม้จะอยู่ในป่าหรืออยู่ห่างไกล ก็ถือว่าอยู่ใกล้พระองค์

หากวันนี้ใครที่ยังไม่มีศีล 5 การถือศีล 5 ให้ได้ จึงจะได้ชื่อว่าได้ใกล้ชิดพระพุทธเจ้ามากขึ้น

หากใครยังไม่มีโอกาสถือศีลอุโบสถ การหาโอกาสทำให้ได้ จึงจะได้ชื่อว่าได้ใกล้ชิดพระพุทธเจ้ามากขึ้นไปอีก

หากใครยังไม่มีโอกาสบวชสัก 1-3 เดือน การหาโอกาสทำให้ได้ จึงจะได้ชื่อว่าได้ใกล้ชิดพระพุทธเจ้ามากขึ้นไปอีก

และเมื่อใดก็ตาม ที่เราได้ศึกษานำธรรมะของพระพุทธเจ้ามาใช้อย่างจริงจัง ก็จะเข้าใจเองว่าทำไมเรื่องที่ว่าพระองค์มีหน้าตาอย่างไรจึงไม่สำคัญ

เพราะพระองค์ได้พูดว่า "ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา” ซึ่งจะเห็นธรรมในที่นี้ได้ก็ต้องปฏิบัติธรรมนั่นเอง

ที่มา http://www.nutpobtum.com

          http://www.mcu.ac.th

แชร์