พลเมืองดีพบเงินบนแท็กซี่ 7 หมื่น ฝากโชเฟอร์ส่งคืน เจอให้เพื่อนสวมรอยรับเงิน
หนุ่มพลเมืองดีเจอเงิน 7 หมื่น บนแท็กซี่ มอบให้คนขับแท็กซี่ส่งคืนเจ้าของ แต่เจ้าตัวกลับให้เพื่อนสวมรอยมารับเงินแทน http://winne.ws/n29114
หนุ่มพลเมืองดีเจอเงิน 7 หมื่น บนแท็กซี่ มอบให้คนขับแท็กซี่ส่งคืนเจ้าของ แต่เจ้าตัวกลับให้เพื่อนสวมรอยมารับเงินแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (31 ต.ค.) เมื่อเวลา 18.00 น. ที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ นายมนต์ชัย อายุ 43 ปี ได้เดินทางมาเพื่อขอลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ภายหลังจากตนเองพบเงินกว่า 7 หมื่นบาท ถูกลืมไว้ บนรถแท็กซี่ ก่อนที่จะส่งเงินทั้งหมดให้กับคนขับแท็กซี่เพื่อให้นำไปส่งคืนให้กับเจ้าของ แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับพบว่าคนขับแท็กซี่ไม่ได้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปส่งคืนให้กับเจ้าของตัวจริง แต่กลับให้เพื่อนสาวมาสวมรอยเป็นเจ้าของเงิน
นายมนต์ชัย กล่าวว่า เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา ตนเองได้เรียกแท็กซี่ผ่านระบบแอปพลิเคชั่น เพื่อให้มารับที่บ้านย่านซอยเปรมฤทัย ถนนเทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ ไปส่งที่แยกการไฟฟ้า ถนนศรีนครินทร์ อ.เมืองสมุทรปราการ
หลังจากตนเองขึ้นไปบนรถ ก็พบกระเป๋าสตางค์แบบซิปวางอยู่เบาะหลัง จึงหยิบมาเปิดดูจนพบว่ามีธนบัตร ชนิด 1,000 บาท เป็นจำนวนมาก นับได้ราว 7 หมื่นบาท อยู่ในกระเป๋า จึงได้สอบถามคนขับแท็กซี่ จนได้ข้อมูลว่ากระเป๋าดังกล่าว น่าจะเป็นของผู้โดยสารคนก่อนหน้านี้
กระทั่งมาถึงปลายทางตนเองจึงให้เงินทั้งหมดที่พบกับคนขับแท็กซี่เพื่อให้ตามหาเจ้าของ เนื่องจากคนขับแท็กซี่บอกว่ามีข้อมูลของผู้โดยสารคนดังกล่าวอยู่ เนื่องจากได้เรียกใช้บริการผ่านระบบแอปพลิเคชั่นมา
ก่อนที่ตนส่งมอบเงินทั้งหมดให้คนขับแท็กซี่ เนื่องจากหวังดีว่าหากคนขับแท็กซี่เอาไปคืนเอง อาจจะได้ทิปจากเจ้าของเงินด้วย ระหว่างนั้นตนเองจึงได้ถ่ายคลิปวิดีโอไว้เพื่อเป็นหลักฐานและโพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อตามหาเจ้าของอีกทาง จนถูกกระแสตีกลับว่าตนเองสร้างคอนเทนต์
จนเวลาผ่านไปตนจึงโทรไปสอบความคืบหน้า จากคอลเซนเตอร์ของแอปพลิเคชั่น จนทราบว่าทางคนขับแจ้งทางศูนย์มาว่า ได้คืนเงินกับเจ้าของแล้วในช่วง 09.00 น. ตนเองจึงได้ขอเบอร์โทรของหญิงสาว ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเพื่อสอบถามข้อมูล จนกระทั่งหญิงสาวคนดังกล่าว บอกว่าจะไปรับเงินคืนในช่วงเย็น ซึ่งขัดแย้งกับข้อมูลของคนขับแท็กที่ได้แจ้งไว้กับตน
ทั้งนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นเจ้าของเงินจริงๆ ตนเองจึงอยากให้มีการส่งมอบเงินกันต่อหน้าตำรวจจะดีกว่า แต่ทางหญิงสาวคนดังกล่าวบอกไม่สะดวก กระทั่งคนขับแท็กซี่โทรมาหาตน และแจ้งว่าหญิงคนดังกล่าวเป็นเพื่อน ไม่ใช่เจ้าของเงินจริงๆ และยังให้ตนเองโกหกกับศูนย์ว่าคนขับได้มอบเงินคืนเจ้าของไปแล้ว
แต่ตนเองไม่ยอมเล่นด้วย ก่อนที่จะเดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ว่าตนเองไม่รู้เห็นกับเรื่องดังกล่าวและมีการมอบเงินให้กับคนขับแท็กซี่ไปแล้ว