กรมอนามัย เตือนพ่อแม่ใช้มือถือ แท็บเล็ต หรือโทรทัศน์ เลี้ยงลูกอายุต่ำกว่า 2 ปี ทำร้ายพัฒนาการลูก 

        นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า ปัจจุบันหลายครอบครัวมักนำเทคโนโลยีเข้ามาเลี้ยงลูก หรือปล่อยให้เด็กอยู่กับสื่อเทคโนโลยี เช่น มือถือ แท็บเล็ต หรือให้ดูทีวีทั้งวัน เพื่อให้เด็กสงบนิ่ง หรือหยุดร้องไห้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ไม่ควรเล่น หรือดูสื่อเหล่านี้เด็ดขาด เพราะมีผลทำให้พัฒนาการล่าช้า ทั้งนี้เด็กแรกเกิดถึง 3 ปี เป็นวัยที่สำคัญที่สุดในการเรียนรู้ 

       เนื่องจากสมองของเด็กจะพัฒนาสูงสุด โดยมีสิ่งแวดล้อมรอบตัวเป็นตัวกระตุ้นส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสมอง หากปล่อยให้เด็กอยู่กับสื่อเทคโนโลยีมากเกินไปโดยไม่กำหนดเวลาดู หรือเลือกสื่อที่ไม่เหมาะสม จะส่งผลเสียหลายด้าน ทั้งด้านการสื่อสาร ทำให้เด็กพูดช้า พูดไม่ชัด ขาดความคิดสร้างสรรค์ และการจ้องมองจอภาพเป็นเวลานานจะส่งผลเสียกับดวงตา เช่น ทำให้สายตาสั้น ดวงตาแห้ง ผลทางด้านร่างกายเด็กจะขาดการเคลื่อนไหวออกกำลังกายตามที่ควรจะเป็น ทำให้เด็กไม่แข็งแรง เหนื่อยง่าย หรืออาจส่งผลให้เป็นเด็กขี้เกียจได้ ด้านอารมณ์ เด็กจะไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ เพราะเด็กไม่สามารถแยกแยะโลกของอินเทอร์เน็ตกับความจริงได้ ทำให้เด็กหงุดหงิดง่าย ใจร้อน รอคอยไม่เป็น ขาดสมาธิและด้านพฤติกรรม เด็กจะก้าวร้าว ซน สมาธิสั้น มีพฤติกรรมคล้ายออทิสติก คือ ดื้อ ต่อต้าน โลกส่วนตัวสูง สื่อสารกับคนอื่นน้อย 

       การเลี้ยงเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้สื่อมีจอทุกชนิด ยกเว้น วิดีโอแชท สำหรับเด็กอายุ 2-5 ปี ให้จำกัดเวลาการใช้สื่อมีจอไม่ควรเกินวันละ 1 ชั่วโมง และควรเลือกโปรแกรม หรือแอปพลิเคชันที่มีคุณภาพเหมาะสมกับวัยและอยู่กับเด็กเวลาใช้ จะช่วยให้เด็กเข้าใจสิ่งที่เห็นได้มากขึ้น พ่อแม่ควรหลีกเลี่ยงการเลี้ยงลูกด้วยมือถือ แล้วหันมาใช้เวลาสร้างความสัมพันธ์ร่วมกันในครอบครัว เพราะพัฒนาการที่ดีของเด็กๆ เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ ที่ได้เรียนรู้ พาลูกเล่น เรียน ทำกิจกรรมร่วมกันและไม่ลืมที่จะโอบกอดแสดงความรักระหว่างกันในครอบครัว สิ่งเหล่านี้จะส่งเสริมให้พัฒนาการต่างๆ ของเด็กได้ดีกว่าวิธีอื่น

ขอบคุณข้อมูลข่าว/ภาพ  :  สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์