ปัญหาครอบครัวและวิธีแก้ปัญหาครอบครัว
ปัญหาทุกปัญหามีทางแก้ ปัญหาครอบครัวก้เช่นกัน มาดูบทวิเคราห์ปัญหาครอบครัวกันค่ะ http://winne.ws/n14618
ปัญหาครอบครัวคือความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับสมาชิกภายในครอบครัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างสามีภรรยาผู้เป็นหัวหน้าหรือผู้นำครอบครัวที่เกิดมีปฏิสัมพันธ์ที่ขัดกัน อาทิ มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไม่รับรู้หรือไม่เข้าใจความรู้สึกของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่ง การสื่อสารที่ไม่เข้าใจกันหรือมีบทบาทที่ไม่สอดคล้องกันเป็นต้น ซึ่งความขัดแย้งนี้อาจนำไปสู่การจบความสัมพันธ์ลงได้หากว่าคู่สมรสไม่พยายามเข้าใจซึ่งกันและกันหรือไม่ร่วมมือกันหาทางเลือกที่ดีในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
ภายหลังการแต่งงาน และเริ่มต้นชีวิตสมรสแม้ทั้งคู่จะมีพื้นฐานมาจากความรัก แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ ก็คือการกระทบกระทั่งและมีข้อขัดแย้งเกิดขึ้นความขัดแย้งจึงเป็นสิ่งที่คู่สมรสไม่ได้คาดหวัง หรือปรารถนาให้เกิดขึ้นสิ่งเหล่านี้ เป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาครอบครัวตามมา ดังนั้นการประคับประคองความสัมพันธ์ที่ดีของคู่สมรสรวมถึงการแก้ไขข้อขัดแย้งถือเป็นภาระที่สำคัญอีกประการหนึ่งของคู่สมรสเพื่อให้การครองรักของคู่สมรสสามารถผ่านมรสุมชีวิตและใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
สาเหตุของปัญหาครอบครัว
1.ปัญหาครอบครัวที่เกิดขึ้นระหว่างตัวสามีภรรยา
2.ปัญหาครอบครัวที่มีสาเหตุมาจากสังคม
ปัญหาในครอบครัวที่เกิดขึ้นระหว่างตัวสามีภรรยา
1.ปัญหาครอบครัวในด้านบทบาท
ภายหลังจากแต่งงานคู่สมรสทั้ง2จะต้องเปลี่ยนแปลงบทบาทของตนเองจากเดิมไปสู่บทบาทของสามีภรรยาซึ่งต่างก็มีบทบาทเฉพาะของตนเองแต่การที่จะระบุชัดเจนว่า บทบาทใดเป็นของใครในลักษณะที่ตายตัวนั้น คงเป็นไปไม่ได้ข้อสำคัญอยู่ที่ว่า ทั้งสามี และภรรยาต้องเคารพและยอมรับในบทบาทของกันและกันมีการปฏิบัติตนได้เหมาะสมและสอดคล้องกับบทบาทของตนโดยไม่เข้าไปก้าวก่ายในบทบาทของคู่สมรสจนกลายเป็นเหตุให้เกิดความขัดแย้งในครอบครัว
2.ปัญหาครอบครัวในด้านทัศนคติ และค่านิยม
จากความแตกต่างของครอบครัวเดิมที่หล่อหลอมด้วยพ่อแม่หรือบุคคลอื่นในครอบครัวก่อนที่จะมีการแต่งงานทำให้ทั้งคู่มีทัศนคติคำนิยม และวิถีปฏิบัติบางอย่างแตกต่างกัน เช่นความคิดเห็นในเรื่องเศรษฐกิจ เงินทอง วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม และทัศนคติทางเรื่องเพศเป็นต้น หากคู่สมรสยังมีทัศนคติ และค่านิยมแตกต่างกันมาก สิ่งที่ตามมา คือปัญหาครอบครัว แต่หากทั้งคู่มีความเข้าใจ และพยายามปรับปรุงทัศนคติและค่านิยมให้สอดคล้องกันได้ ปัญหาความขัดแย้งในครอบครัวก็จะไม่เกิดขึ้น
3.ปัญหาครอบครัวในด้านความประพฤติ
หากคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ยอมปรับเปลี่ยนประพฤติของตนเองและยังยึดติดอยู่กับรูปแบบการดำเนินชีวิตก่อนแต่งงานโอกาสแห่งความขัดแย้งภายในครอบครัวที่จะนำมาสู่ปัญหาครอบครัวย่อมมีมากซึ่งสิ่งที่จะลดข้อขัดแย้งเหล่านี้ได้ ก็คือ การปรับตัวเข้าหากัน
4.ปัญหาครอบครัวในด้านภาวะทางอารมณ์
การตัดสินใจในการแก้ไขปัญหาหรือการโต้ตอบต่อสถานการณ์ที่แตกต่างกันของสามีและภรรยาอาจ อาจนำมาซึ่งความขัดแย้ง บาดหมาง และไม่เป็นที่พอใจของอีกฝ่ายเพราะฉะนั้น ชีวิตสมรสจะประสบความสำเร็จได้ ย่อมขึ้นอยู่กับการประนีประนอมความสามารถในการควบคุมอารมณ์ และความสามารถในการปรับตัวเข้าหากัน
5.ปัญหาครอบครัวในด้านการขาดความซื่อสัตย์
ความไม่ซื่อสัตย์ในชีวิตสมรสเป็นสาเหตุสำคัญสาเหตุหนึ่งของความล้มเหลวในชีวิตการแต่งงานไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเงิน หรือเรื่องชู้สาวกับบุคคลอื่น ชีวิตสมรสที่มีความสุขควรอยู่กันอย่างเปิดเผยทั้ง2 ฝ่าย มีความจริงใจซึ่งกันและกันเพราะสิ่งที่ตามมาภายหลังการขาดความซื่อสัตย์ก็คือ ความไม่ไว้วางใจซึ่งกันและกันจนกลายเป็นสาเหตุของปัญหาความขัดแย้งในที่สุด
6.ปัญหาครอบครัวในด้านทางเพศ
จากความสัมพันธ์ทางเพศที่เป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์หากสอดคล้องกับความรัก ย่อมทำให้เกิดความสัมพันธ์ในหญิงชายที่มากขึ้นเพศสัมพันธ์จึงเป็นประเด็นร่วมที่ทั้งสามี และภรรยาต้องเรียนรู้ และทำความเข้าใจเพื่อการปรับเปลี่ยน และปรุงแต่งให้เกิดความสมดุลย์
ปัญหาครอบครัวที่มีสาเหตุมาจากสังคม
1.ปัญหาครอบครัวในด้านวัฒนธรรม
พื้นฐานทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกันเช่น ศาสนา ภาษา ความเชื่อ และแผนการดำรงชีวิตหากวัฒนธรรมพื้นฐานที่สามีภรรยามีมาเหมือนกันก็ย่อมมีโอกาสเกิดความขัดแย้งที่น้อยลง แต่หากสามี และภรรยามีพื้นฐานทางวัฒนธรรมที่ต่างกันมากก็ย่อมนำมาซึ่งความขัดแย้งที่มีโอกาสเกิดมากขึ้น ดังนั้น จึงต้องมีการปรับตัวและยอมรับกับวัฒนธรรมของอีกฝ่ายให้ได้จึงจะช่วยลดความขัดแย้งให้น้อยลง
2.ปัญหาครอบครัวในด้านการประกอบอาชีพ
อาชีพเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำเนินชีวิตเป็นอย่างมากซึ่งต้องรับหน้าที่ทั้งสามี และภรรยา ซึ่งอาจะเป็นอาชีพของตนเอง หรือทำงานเป็นลูกจ้างนอกบ้าน หากสามีภรรยาไม่มีอาชีพทำมาหากินแล้วก็ย่อมไม่มีทรัพย์สินเงินทองที่จะมาใช้จ่ายจุนเจือแก่สมาชิกในครอบครัวทำให้เกิดความยากจน ความอดอยากซึ่งจะนำมาสู่ความขัดแย้งกันในครอบครัว
3.ปัญหาครอบครัวเพราะครอบครัวเดิมของคู่สมรส
เครือญาติของทั้งสามีและภรรยามีส่วนเป็นได้ทั้งผู้ส่งเสริมความมั่นคงและเป็นทั้งผู้ทำลายชีวิตการสมรสของคู่สามีภรรยาโดยเฉพาะกรณีที่สามีหรือภรรยาต้องเข้าไปอาศัยอยู่ในบ้านของคู่สมรสภายหลังการแต่งงานซึ่งประกอบด้วยพ่อแม่พี่น้องหรือเครือญาติของคู่สมรสอาศัยอยู่ด้วยความขัดแย้งที่เกิดเพราะสาเหตุอันเนื่องมาจากเครือญาติจะมีโอกาสเกิดขึ้นได้มากยิ่งขึ้นหากคู่สมรสฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้ง 2 ฝ่ายเป็นคนที่รับฟังความคิดเห็นของคนอื่นและชอบนำเอาแนวคิดของบุคคลอื่นนอกเหนือไปจากครอบครัวของตนเองมาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต
4.ปัญหาครอบครัวในด้านเศรษฐกิจ
ปัญหาทางด้านการเงินสำหรับชีวิตคู่มักเป็นปัญหาที่พบได้โดยทั่วไปและเป็นปัญหาที่สำคัญมากปัญหาหนึ่งเพราะเงินทองเปรียบเสมือนตัวแทนของทุกสิ่งที่เอื้อประโยชน์ และความสุขให้ชีวิตทำให้รายได้ของครอบครัวกลายเป็นปัจจัยหนึ่งที่สังคมใช้เป็นดัชนีชี้วัดความสำเร็จของการใช้ชีวิตคู่ซึ่งจะได้รับความเคารพนับถือจากคนในสังคมหากครอบครัวนั้นมีความร่ำรวย
5.ปัญหาครอบครัวในด้านความคาดหวังของครอบครัว และสังคม
ความคาดหวังของครอบครัวและสังคมอันมีหลายปัจจัยรวมกัน อาทิเช่น ความร่ำรวย การศึกษา ความเป็นคนดี เป็นต้นสิ่งเหล่านี้ ย่อมเกิดความคาดหวังของสมาชิกในครอบครัว และจากบุคคลรอบข้างในสังคมซึ่งมีความเกี่ยวเนื่องเชื่อมโยงกันหากสมาชิกในครอบครัวสามารถตอบสนองต่อความคาดหวังเหล่านั้นได้ก็ย่อมนำความสุขมาให้แก่คนในครอบครัว และเป็นที่นับหน้าถือตาของคนในสังคมแต่หากตรงข้ามกัน คือ ครอบครัวมีความยากจน ไร้การศึกษา ไร้สมาชิกที่เป็นคนดีเป็นต้น สิ่งเหล่านี้ถือเป็นความผิดหวังของสมาชิกในครอบครัวและความคาดหวังของสังคมเช่นเดียวกันซึ่งจะนำไปสู่ความขัดแย้งของสมาชิกในครอบครัวตามมา
om
วิธีแก้ปัญหาครอบครัว
1.ความซื่อสัตย์ และไว้วางใจ
ความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่หมายรวมหลายด้าน อาทิ ความซื่อสัตย์ไม่นอกใจกัน ความซื่อสัตย์ในการเงินความซื่อสัตย์ทางวาจาด้วยการไม่พูดโกหก สิ่งเหล่านี้จะนำมาซึ่งความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
2.ตอบสนองเรื่องเพศสัมพันธ์ให้ดี
การมีเพศสัมพันธ์ถือเป็นความต้องการทางกามารมณ์พื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนมีซึ่งชายหญิงนั้นต่างก็มีความต้องการทางเพศตามวัยหรือสภาพร่างกายที่กำหนดระดับความต้องการการตอบสนองความต้องการทางเพศของอีกฝ่ายได้จึงถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อีกฝ่ายไม่คิดนอกใจเพราะหากไม่สามารถตอบสนองความต้องการนี้ได้ อีกฝ่ายก็มักสงสัยในความรักที่มีให้สงสัยถึงความชื่อสัตย์ต่อกันว่ามีอยู่หรือไม่ และหากรุนแรงเกิน คืออาจหาวิธีอื่นที่สามารถตอบสนองต่อตน เช่น การมีหญิงหรือชายอื่น แต่ทั้งนี้มิใช่จะเกิดขึ้นในทุกคน แต่หากผู้ที่รู้จักหักห้ามความต้องการนั้นได้ด้วยการใช้หลักธรรมพิจารณาหรือคอยเตือนใจตนไม่ให้ประพฤติผิดก็ย่อมไม่ทำให้เกิดปัญหาปัญหาครอบครัวตามมาได้
3.ขยันทำงาน หาเงินทองจุนเจือครอบครัว
ในสังคมปัจจุบันเรื่องเงินทองเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะเป็นปัจจัยที่จะช่วยจุนเจือครอบครัวให้มีอยู่มีกิน และให้เป็นปกติสุขได้แต่การที่จะได้มาซึ่งเงินทองเหล่านั้น ก็ต้องรู้จักทำอาชีพการงานมิใช่ไม่ทำอะไรเลย คอยแต่โชคลาภหรืออาศัยผู้อื่นคงไม่ได้ หากไม่มีเงินทองแล้วคนในครอบครัวย่อมอดอยาก เป็นทุกข์ทางกาย และใจ นำมาสู่ความขัดแย้งกันในเวลาต่อมา
4.การทุ่มเทกำลังกาย และกำลังใจให้แก่กัน
การอุทิศตนให้แก่กันหรือการทุ่มเทกำลังกายกำลังใจให้แก่สมาชิกในครอบครัว เป็นสิ่งที่แสดงออกถึงความรักและความห่วงใยที่มีให้แก่กัน สมาชิกครอบครัวที่ได้รับย่อมมอบความรักเป็นสิ่งตอบแทนและที่สำคัญ คือ การทำให้สมาชิกในครอบครัวรู้จักทุ่มเทตนให้แก่ผู้อื่นเช่นกัน
5.การเอาใจใส่ดูแล และเอื้ออาทรต่อกัน
การเอาใจใส่และเอื้ออาทร คือ การแสดงออกถึงความห่วงใจ ทั้งในด้านการอยู่อาศัย สุขภาพกาย และใจเงินทองทรัพย์สินสำหรับใช้จ่าย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มีความจำเป็นต้องเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ให้มีอย่างเพียงพอ
6.การยอมรับในตัวตนของกัน และกัน
การยอมรับในตัวตนของคู่ชีวิตหรือสมาชิกในครอบครัวเป็นสิ่งหนึ่งที่แสดงออกถึงความรักที่แท้จริง อันปราศจากความรังเกียจการดูหมิ่นซึ่งกันและกัน ไม่ว่าจะเป็นทางรูปกาย ทางชาติตระกูล ทางฐานะเงินทองทางการศึกษา เป็นต้น เพราะสิ่งเหล่านี้จะต้องยอมรับให้ได้ก่อนที่จะมาแต่งงานอยู่ด้วยกันหรือหากรับรู้ภายหลังก็ต้องยอมรับในสิ่งเหล่านั้นจึงจะทำให้ชีวิตคู่ดำเนินไปได้โดยไม่ให้เกิดปัญหาครอบครัวตามมา
7.การเคารพให้เกียรติคู่สมรส
การเคารพให้เกียรติต่อผู้เป็นสามีหรือภรรยาถือเป็นการแสดงออกถึงการรู้จักคุณค่าของอีกฝ่าย รู้จักในสิทธิของอีกฝ่ายและเป็นการให้ความสำคัญต่ออีกฝ่าย สิ่งเหล่านี้ เมื่อสามีหรือภรรยาได้รับแล้วย่อมทำให้เกิดความภาคภูมิใจที่ตนเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของอีกฝ่ายและจะแสดงออกด้วยการรู้จักให้การเคารพแก่เราเช่นกัน
8.รู้จักอดทน และให้อภัย
การใช้ชีวิตคู่แต่ละคนอาจมีสิ่งที่เหมือน สิ่งที่แตกต่าง อาจมีสิ่งที่ชอบ และสิ่งไม่ชอบจึงต้องกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่รู้จักอดทน ไม่รู้จักนิ่งเฉยหรือ ไม่รู้จักคำว่าขอโทษ และให้อภัย ก็ย่อมจะเพิ่มความขัดแย้งที่รุนแรงมากขึ้นแต่หากทั้งคู่รู้จักที่จะกระทำในสิ่งที่กล่าวมาก็ย่อมลดความขัดแย้งลงได้
ขอบคุณที่มา : บทความจากคอลัมน์สุขภาพจิต จากเวบ thaihealthlife.com