ทิศ 6 & หน้าที่รับผิดชอบ ?!?
ทิศ 6 หรือ 6 ทิศ หมายถึงอะไร? มีหน้าที่รับผิดชอบอะไรบ้าง? เป็นเรื่องที่สามารถศึกษากันได้ ที่สำคัญคือเมื่อท่านทราบแล้ว เป็นการสมควรอย่างยิ่งที่จะปฏิบัติตามทันที เพื่อความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป http://winne.ws/n24797
๑. ปุรัตถิมทิส แปลว่า ทิศเบื้องหน้า ได้แก่ บิดา มารดา
คุณพ่อคุณแม่เป็นผู้มีอุปการคุณคนแรก ของเราเพราะว่าท่านก้าวเข้ามารับผิดชอบต่อชีวิตของเราก่อนใครๆ ในโลก และทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นชีวิตเลือดเนื้อ รวมทั้งความเป็นคน เราได้มาจากท่านทั้งนั้น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงจัดให้ท่านทั้งสองมาอยู่ข้างหน้า เป็นทิศเบื้องหน้าของเรา
๒. ทักขิณทิส แปลว่า ทิศเบื้องขวา ได้แก่ ครูบาอาจารย์
ครูบาอาจารย์เป็นบุคคลสำคัญกับชีวิต ของเราอีกท่านหนึ่งเพราะท่านสอนเราตั้งแต่ ให้รู้จักการอยู่ร่วมกันเป็นหมู่คณะ ให้รู้จักการรักษาเนื้อรักษาตัวให้พ้นจากภัยอันตรายต่างๆ ตลอดจนสอนให้รู้จักการทำมาหากินท่านจึงเป็นทักขิไณยบุคคล คือบุคคลที่พวกเราต้องเคารพกราบไหว้บูชา
๓. ปัจฉิมทิส แปลว่า ทิศเบื้องหลัง ได้แก่ ภรรยาหรือสามี รวมถึงบุตรธิดาด้วย
ถ้าตรงกลางเป็นผู้ชายทิศเบื้องหลังก็เป็นภรรยา ถ้าตรงกลางเป็นผู้หญิงทิศเบื้องหลังก็เป็นสามี แต่ถ้าตรงกลางเป็นเด็กหรือเป็นผู้ที่ยังไม่ได้แต่งงาน ทิศเบื้องหลังก็ไม่มี
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงนำภรรยาหรือสามีมาไว้ข้างหลังเพราะไม่ว่าจะเป็นสามีหรือภรรยา ซึ่งบางทีก็ก่อบุตรขึ้นมาอีกล้วนถือว่าเป็นกำลังเสริม เป็นผู้ติดตาม คอยสนับสนุนช่วยเหลืออยู่ข้างหลังทั้งสิ้นเนื่องจากเรื่องบางเรื่องไม่สามารถทำแทนกันได้
๔. อุตตรทิส แปลว่า ทิศเบื้องซ้าย ได้แก่ มิตรสหาย
มิตรสหายที่คบค้าสมาคมกันมาตั้งแต่เด็กจนโตนี่เองที่เป็นผู้คอยช่วยเหลือให้เราข้ามพ้นอุปสรรคและภัยอันตรายต่างๆ ในเวลาเดียวกันก็ยังเป็นกำลังสนับสนุน ให้เราสามารถบรรลุความสำเร็จอีกด้วย
ทิศเบื้องซ้ายนี้เอาจริงๆ เข้ากลับกลายเป็นทิศที่ใหญ่ที่สุด เพราะตลอดชีวิตของคนเราต้องเกี่ยวข้องคบหากับผู้คนมากมาย เพราะฉะนั้นใครมีทิศเบื้องซ้ายน้อยก็จะเข้าตำรา "นกไม่มีขน คนไม่มีเพื่อน" บินก็ไม่ขึ้น โตก็ไม่ได้ เตรียมจะเป็นนกปิ้ง เตรียมจะเป็นนกย่าง กำลังเตรียมตัวตายเสียแล้ว
ถ้าใครสำรวจตรวจสอบดูแล้วพบว่า ตัวเอง มีเพื่อนน้อยละก็รีบกลับไปแก้ไขเสียไม่อย่างนั้นเดี๋ยวจะเดือดร้อน
๕. เหฏฐิมทิส แปลว่า ทิศเบื้องล่าง ได้แก่ คนรับใช้ ลูกน้อง
ใครมีลูกน้องมากๆ ก็เบาแรงกาย คือไม่ต้องทำงานหนัก ไม่หนักแรงกายจนเกินไป แต่ว่าอาจจะหนักแรงใจบ้าง ถ้าฝึกเขาไม่เป็น ซึ่งก็โทษใครไม่ได้นอกจากโทษตัวเราเอง
แล้วก็รู้ไว้ด้วยว่าทิศเบื้องล่างนี้เอง ที่คอยเป็นฐาน เป็นกำลังเป็นที่มาแห่งทรัพย์สินเงินทอง สำหรับเอามาใช้เป็นกองเสบียงในการหล่อเลี้ยงชีวิตของเรา
และแน่นอนเราจะมีทรัพย์มาใช้ในการสร้างบุญสร้างบารมีได้มากน้อยเท่าไร ก็มาจากทิศเบื้องล่าง เพราะฉะนั้นอย่าได้มองข้ามทิศเบื้องล่างกันทีเดียว
๖. อุปริมทิส แปลว่า ทิศเบื้องบน ได้แก่ สมณชีพราหมณ์ทั้งหลาย
เราชาวพุทธก็มีพระภิกษุสงฆ์เป็นผู้นำทางจิตใจเพราะท่านเป็นผู้ที่สูงด้วยคุณธรรม อีกทั้งยังเป็นผู้ชี้ทิศและเป็นแหล่งผลิตศีลธรรมอีกด้วย
เมื่อหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคมต่างก็มีแหล่งผลิตและปลูกฝังศีลธรรมให้อย่างนี้ เมื่อครอบครัวใด หมู่บ้านใดตลอดจนกระทั่งสังคมใด เกิดปัญหาขึ้นมา จึงสามารถแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุได้ด้วยตนเองในทันที
ครั้งใดที่ประสบความสำเร็จได้รับชัยชนะ ได้รับโชค ได้รับคำยกย่องสรรเสริญหรือว่าได้รับเกียรติยศอะไรขึ้นมาก็ตาม ถ้าเป็นชาวพุทธที่ได้ฝึกตัวมาดีแล้วเขาจะนึกขอบพระคุณ ไล่กันไปตามทิศทีเดียว ตั้งแต่ หลวงปู่ หลวงพ่อ คุณพ่อ คุณแม่ครูบาอาจารย์ ที่ท่านอบรมเคี่ยวเข็ญเรามา ตอนนี้ท่านอยู่ที่ไหนก็หันหน้าไปกราบขอบพระคุณท่านงามๆรวมทั้งมิตรสหาย สามี ภรรยา ผู้บังคับบัญชา และลูกน้องที่คอยสนับสนุนให้เราประสบความสำเร็จด้วย
บุคคลประเภทต่าง ๆ ที่เราต้องเกี่ยวข้องสัมพันธ์ ดุจทิศที่อยู่รอบตัวจัดเป็น 6 ทิศ ดังกล่าวข้างต้นแล้ว จึงมีหน้าที่ที่ควรอนุเคราะห์และบำรุงกันและกัน ดังต่อไปนี้
๑. ทิศเบื้องหน้า ได้แก่ บิดา มารดา
มารดา บิดา อนุเคราะห์ บุตร ธิดา ดังนี้
1. ห้ามปรามจากความชั่ว
2. ให้ตั้งอยู่ในความดี
3. ให้ศึกษาศิลปวิทยา
4. หาคู่ครองที่สมควรให้
5. มอบทรัพย์สมบัติให้ในโอกาสอันควร
บุตร ธิดา พึงบำรุง มารดา บิดา ดังนี้
1. ท่านเลี้ยงเรามาแล้วเลี้ยงท่านตอบ
2. ช่วยทำกิจของท่าน
3. ดำรงวงศ์สกุล
4. ประพฤติตนให้เหมาะสมกับความเป็นทายาท
5. เมื่อท่านล่วงลับไปแล้วทำบุญอุทิศให้ท่าน
๒. ทิศเบื้องขวา ได้แก่ ครูบาอาจารย์
ครู อาจารย์ อนุเคราะห์ ศิษย์ ดังนี้
1. ฝึกฝนแนะนำให้เป็นคนดี
2. สอนให้เข้าใจแจ่มแจ้ง
3. สอนศิลปวิทยาให้สิ้นเชิง
4. ยกย่องให้ปรากฏในหมู่เพื่อน
5. สร้างเครื่องคุ้มกันภัยในสารทิศ
คือ สอนให้ศิษย์ปฏิบัติได้จริง
นำวิชาไปเลี้ยงชีพทำการงานได้
ศิษย์ พึงบำรุง ครู อาจารย์ ดังนี้
1. ลุกต้อนรับแสดงความเคารพ
2. เข้าไปหา
3. ใฝ่ใจเรียน
4. ปรนนิบัติ
5. เรียนศิลปวิทยาโดยเคารพ
๓. ทิศเบื้องหลัง ได้แก่ ภรรยาหรือสามี รวมถึงบุตรธิดาด้วย (ถ้ามี)
สามี พึงบำรุง ภรรยา ดังนี้
1. ยกย่องสมฐานะภรรยา
2. ไม่ดูหมิ่น
3. ไม่นอกใจ
4. มอบความเป็นใหญ่ในงานบ้านให้
5. หาเครื่องประดับมาให้เป็นของขวัญตามโอกาส
ภรรยา อนุเคราะห์ สามี ดังนี้
1. จัดงานบ้านให้เรียบร้อย
2. สงเคราะห์ญาติมิตรทั้งสองฝ่ายด้วยดี
3. ไม่นอกใจ
4. รักษาสมบัติที่หามาได้
5. ขยันไม่เกียจคร้านในงานทั้งปวง
๔. ทิศเบื้องซ้าย ได้แก่ มิตรสหาย
พึงบำรุง มิตรสหาย ดังนี้
1. เผื่อแผ่แบ่งปัน
2. พูดจามีน้ำใจ
3. ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน
4. มีตนเสมอร่วมสุขร่วมทุกข์ด้วย
5. ซื่อสัตย์จริงใจต่อกัน
มิตรสหาย อนุเคราะห์ตอบ ดังนี้
1. เมื่อเพื่อนประมาทช่วยรักษาป้องกัน
2. เมื่อเพื่อนประมาทช่วยรักษาทรัพย์สิน
ของเพื่อน
3. ในคราวมีภัยเป็นที่พึ่งได้
4. ไม่ละทิ้งในยามทุกข์ยาก
5. นับถือตลอดถึงวงศ์ญาติของมิตร
๕. ทิศเบื้องล่าง ได้แก่ คนรับใช้ ลูกน้อง
นายจ้าง พึงบำรุง ลูกจ้าง ดังนี้
1. จัดการงานให้ทำตามกำลังความสามารถ
2. ให้ค่าจ้างรางวัลสมควรแก่งานและ
ความเป็นอยู่
3. จัดสวัสดิการดี มีช่วยรักษาพยาบาล
ในยามเจ็บไข้ เป็นต้น
4. ได้ของแปลก ๆ พิเศษมา ก็แบ่งปันให้
5. ให้มีวันหยุดและพักผ่อนหย่อนใจ
ตามโอกาสอันควร
ลูกจ้าง อนุเคราะห์ นายจ้าง ดังนี้
1. เริ่มทำงานก่อน
2. เลิกงานทีหลัง
3. เอาแต่ของที่นายให้
4. ทำการงานให้เรียบร้อยและดียิ่งขึ้น
นำความดีของนายไปเผยแพร่
๖. ทิศเบื้องบน ได้แก่ สมณชีพราหมณ์ทั้งหลาย
คฤหัสถ์ พึงบำรุง พระสงฆ์ ดังนี้
1. จะทำสิ่งใดก็ทำด้วยเมตตา
2. จะพูดสิ่งใดก็พูดด้วยเมตตา
3. จะคิดสิ่งใด ก็คิดด้วยเมตตา
4. ต้อนรับด้วยความเต็มใจ
5. อุปถัมภ์ด้วยปัจจัย 4
พระสงฆ์ อนุเคราะห์ คฤหัสถ์ ดังนี้
1. ห้ามปรามจากความชั่ว
2. ให้ตั้งอยู่ในความดี
3. อนุเคราะห์ด้วยความปรารถนาดี
4. ให้ได้ฟังสิ่งที่ยังไม่เคยฟัง
5. ทำสิ่งที่เคยฟังแล้วให้แจ่มแจ้ง
6. บอกทางสวรรค์สอนวิธีดำเนินชีวิต
ให้ประสบความสุขความเจริญ
เมื่อได้รับรู้รับทราบข้อมูลแล้ว หลายท่านก็คงต้องการรีบลงมือปฏิบัติตามสถานะและหน้าที่ของตนเองเพื่อความสุขความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป
ขอขอบคุณข้อมูล: ทิศ6 + หน้าที่ทิศ6
ขอขอบคุณรูปภาพ: ทิศ ๖