เดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักพระพุทธศาสนา มีนาคมเดือนแห่งมาฆบูชา

วันที่ 18-25 กุมภาพันธ์ พุทธศักราช 2561

คณะกัลยาณมิตร กว่า 60 รูป/คน ร่วมเดินทางปฏิบัติบูชาสักการะ ตามรอยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ณ ดินแดนสังเวชนียสถานอันศักดิ์สิทธิ์ แห่งเดียวในโลก ณ ประเทศอินเดีย

ตลอด 8 วัน 7 คืน ที่ได้เดินทางร่วมกัน ทุกท่านล้วนตื่นตาตื่นใจกับสถานที่ต่าง ๆ ตามที่พระอาจารย์ได้แนะนำ พร่ำบอก ได้ร่วมอธิษฐานจิตถวายผ้าห่มในแต่ละสถานที่ ได้กล่าวคำอธิษฐานจิตสักการะบูชา ได้สวดบทธรรมจักร ได้เวียนประทักษิณ ได้นั่งสมาธิ ฯลฯ ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจ แม้ในส่วนลึก ๆ จะสลดสังเวชใจ หลายท่านถึงหลั่งน้ำตาเย็นแห่งความตื้นตันใจ แต่ก็เป็นการกระตุ้นเตือนให้เพิ่มพลังศรัทธา พลังบุญ พลังใจ ให้อยากทำความดีเพิ่มมากขึ้น เพื่อความสะอาดความบริสุทธิ์ กาย วาจา ใจ ตามรอยพระบรมครู คือพระบรมศาสดาเอกของโลกมากขึ้นอย่างทับทวี

แม้หลายท่านจะอายุมากใกล้ 80 แต่ก็มีกำลังใจที่จะสู้เก็บเกี่ยวบุญที่หาได้ยากยิ่งนี้อย่างเต็มที่ กับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทุกแห่ง อย่างเบิกบานใจ 

เพราะการเดินทางครั้งนี้ ไม่ได้ไปกันง่าย ๆ เลย แต่ด้วยพลังใจที่มีความรักความศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนา ซึ่งเปรียบเป็นวิถีชีวิตของพี่น้องชาวพุทธนั่นเอง จึงทำให้มีวันนี้

สุดท้ายนี้ อยากจะฝากข้อคิดจากใจจริงว่า "เราโชคดี มีบุญมากที่เกิดเป็นชาวพุทธ ที่มีต้นแบบ ที่เลิศที่สุด พิสูจน์สัมผัสได้จริง ขอให้หาโอกาสเดินทางไปสักครั้งหนึ่งในชีวิตให้ได้ แล้วเราจะได้คำตอบด้วยตัวเอง ว่า ทำไมเราจึงต้องไป เพราะคำตอบ จะเกิดจากการที่ได้สัมผัสด้วยใจของเราเอง แม้หากจะได้ฟังใครพรรณนา สักร้อยครั้ง ก็ไม่สามารถซึมซับได้เท่ากับเราได้สัมผัสด้วยใจของเราเองได้เลย"

ต่อไปนี้ มาอ่านความประทับใจที่ได้จากการสัมภาษณ์ คณะผู้ร่วมเดินทางแสวงบุญ หลังจากจบทริปนี้แล้ว ว่าเขาได้อะไรกันบ้าง...

       1. ได้ย้อนรอยทบทวนการปฏิบัติ การสร้างบารมีของตนเอง ตอกย้ำเป้าหมายที่แท้จริงของการเกิดมาเป็นมนุษย์ ตามที่ครูบาอาจารย์ได้สอนไว้

       2. ยิ่งซาบซึ้งกับบทสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เพราะได้มาเห็นด้วยตา เกี่ยวกับสถานที่ ที่มีกล่าวถึงในบทสวดธรรมจักร นั้น

       3. ได้พิสูจน์ด้วยตัวเอง ว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เราเคยเรียนในหนังสือ ได้สวดมนต์ ได้บูชา ฯลฯ นั้นมีจริง สัมผัสได้จริง

       4. ได้มาสักการะดินแดนพระพุทธองค์สมใจ ดังที่รอคอยมานานแสนนาน บางท่านรอมาตั้งแต่เด็กเล็ก ๆ 

       5. ได้มาขอขมา ตอบแทนคุณพระพุทธองค์ และสิ่งที่เคยตั้งความปรารถนาไว้นานแล้วกับพระพุทธองค์ ได้สมปรารถนาในครั้งนี้

       6. ได้มาเห็นด้วยตาจริง ๆ ทำให้ภาพที่ฝังในใจมานานแล้ว ชัดเจน ทำให้มั่นใจ หมดความคลางแคลงใจอย่างสิ้นเชิง

       7. ได้ทำหน้าที่ชาวพุทธที่ดี คือได้มากราบสักการะบูชาพระบรมครู ที่มีจริง ๆ ไม่ใช่เรื่องเล่า แบบตำนานแบบที่หลายคนเข้าใจ

       8. ได้มาซึมซับกระแสแห่งพลังบริสุทธิ์ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สัมผัสได้จริง

       9. ได้มาพิสูจน์ที่หลายคนได้กล่าวถึงประเทศอินเดียต่าง ๆ นานา และพร้อมกลับไปเป็นทนายแก้ต่างให้พระพุทธศาสนา เป็นกัลยาณมิตรให้กับชาวพุทธทั่วโลก

     10. ได้มาคราวนี้ ถือว่าคุ้มค่าที่สุดในชีวิต แม้จะลาจากโลกนี้ ก็จะไม่ลืม และคงไม่ไปอบายอย่างแน่นอน

       11. ได้ร่วมแบ่งปันสิ่งที่เรามีกับผู้ที่ต้องการ และสิ่งที่เราขาดกับสิ่งที่เขามี หมายถึง การได้จับจ่ายหาซื้อสินค้าประจำท้องถิ่นของเขาในแต่ละตำบลนั่นเอง เพราะทำให้ได้สิ่งของที่เราไม่เคยมี กลับเป็นที่ระลึกนึกถึงการเดินทางในครั้งนี้ร่วมกัน 

       12. เหมือนได้พบพี่น้องชาวพุทธในต่างแดน ที่ช่วยรักษาปกป้องศาสนสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดไว้ให้พี่น้องชาวพุทธทั่วโลกได้มากราบสักการะบูชา และนำต้นแบบที่ดีที่สุดไปปฏิบัติเพื่อการหลุดพ้นจากกองทุกข์ในที่สุด 

       13. เหมือนศาสนสถานเหล่านี้ เป็นสมบัติอันล้ำค่าของชาวพุทธทั่วโลก ที่ต้องช่วยกันรักษา หวงแหนไว้ ให้อยู่คู่โลกตลอดตราบโลกนี้สลาย เพราะไม่มีที่ใด ๆ ในโลกแทนได้

       14. ขอขอบคุณพี่น้องชาวพุทธที่ประเทศอินเดีย ที่ช่วยรักษาศาสนสถานเหล่านี้ไว้ได้ จนถึงวันนี้

ข้อคิดฝากถึงผู้ที่ยังไม่ได้ไปดินแดนสังเวชนียสถาน

      1. ขอให้ตั้งเป้าไปสักครั้งในชีวิต เพราะคุ้ม อิ่มบุญอิ่มใจ

       2. เที่ยวที่ไหน ๆ ก็ไปได้ แต่อาจได้แค่ความสนุกสนานเพลิดเพลิน แต่ที่นี่ได้ชุ่มฉ่ำใจด้วย

      3. อยากให้พี่น้องชาวพุทธทุกคนจากประเทศไทยและทั่วโลกได้ไปสัมผัส เพราะนี่คือที่ของพระบรมครูที่มีจริง ๆ ครูที่เคารพบูชามีจริง เมื่อไปแล้วจะชัดเจน

       4. อย่ากลัวอย่ากังวลกับข้อมูลเชิงลบ ว่าไปอินเดียแล้วจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ เพราะนั่นคือกำแพงปิดกั้นใจไม่ให้เราไปใกล้ชิดและสัมผัสพลังบริสุทธิ์ ความอบอุ่นใจ กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเป็นบุญใหญ่มหาศาล

       5. อยากให้ไปเพราะ เมื่อชาวพุทธไปกันมาก ๆ นั่นคือพลังที่เข้มแข็งของชาวพุทธ  ทำให้พี่น้องชาวพุทธมีพลังบุญมากขึ้นด้วย ทำสิ่งใดจะสำเร็จได้ง่ายขึ้น

       6. พุทธศาสนิกชนทั่วโลก ควรได้ไปดินแดนพุทธภูมินี้ เพราะความคิดความประทับใจ ความรู้สึกที่ได้รับนั้นเป็นของใครของคนนั้น ต้องสัมผัสด้วยตัวเอง บอกเล่าก็ไม่สามารถถ่ายทอดได้

ทีมข่าววินนิวส์ ขอกราบอนุโมทนาบุญกับทุกท่านมา ณ โอกาสนี้

       จะเห็นได้ว่า การสร้างศาสนวัตถุที่ใหญ่มั่นคงแข็งแรง นั้นมีความจำเป็นต่อการเรียนรู้ของพุทธศาสนิกชนที่ตามมาภายหลังเป็นอย่างยิ่ง หากไม่มีศาสนสถานเหล่านี้ ไว้เป็นหลักฐานแล้ว ชนรุ่นหลังจะเรียนรู้จากสิ่งใด ...?

       เพราะการบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแต่ละพระองค์นั้น ต้องใช้เวลาการสั่งสมบุญบารมีที่ยาวนานมาก เกินกว่าปุถุชนคนธรรมดาจะคาดเดาได้ พระพุทธองค์ต้องสละชีวิต อวัยวะเลือดเนื้อนับครั้งไม่ถ้วน เพื่อค้นหาวิธีการพ้นทุกข์ และเมื่อพบแล้วพระองค์ก็ไม่หวงแล้วยังนำมาเผยแพร่วิธีการแก่ชาวโลก โดยไม่เลือกชนชั้นอีกด้วย

แต่เวลา...แห่งการเผยแผ่ธรรมะของพระพุทธองค์ นั้นแสนสั้น แค่เพียง 45 ปี 

       ดังนั้น การสร้างศาสนวัตถุ ศาสนสถาน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะพุทธศาสนิกชนรุ่นหลังจะได้มีต้นแบบไว้เรียนรู้และดำเนินชีิวิตตามรอยแห่งพระพุทธองค์ เพื่อความพ้นทุกข์ ได้ง่ายขึ้นนั่นเอง และเหนือสิ่งอื่นใด พระพุทธศาสนา ไม่ได้มีไว้เฉพาะชาวพุทธเพียงเท่านั้น พุทธศาสนา รอคอยผู้มีบุญทุกเชื้อชาติ ทุกความเชื่อ ทุกผิวพรรณวรรณะ มาพิสูจน์ความจริงของชีวิต เพราะพระพุทธศาสนา เป็นศาสนาสากลนั่นเอง.

เผยแพร่โดยกองบรรณาธิการwinnews