พี่เตือนน้องอย่าทำบุญมากจนหมดตัว ลำบากมาพี่ไม่ช่วยนะ

หลักการทำบุญที่ได้บุญมากตามหลักคำสอนในพระพุทธศาสนา เป็นอย่างไร ทำไมต้องทำบุญ ทำมากทำน้อย ก็เป็นที่ถกเถียงกัน พี่เตือนน้องอย่าทำบุญมากเดี๋ยวลำบาก จะไม่ช่วยเลย อย่างมงาย อย่าถูกหลอก ไม่มีที่ไหนให้ทำบุญจนเดือดร้อน http://winne.ws/n22068

1.6 พัน ผู้เข้าชม
พี่เตือนน้องอย่าทำบุญมากจนหมดตัว ลำบากมาพี่ไม่ช่วยนะขอบคุณภาพจาก แถลงการณ์คดีพิเศษ

น้องอยากทำบุญ เพราะอยากทำจริง ๆ ไม่ได้ถูกหลอก เห็นประโยชน์ใหญ่ จากเงินที่ทำบุญไปสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้กับสังคมไทย เงินนี้มีประโยชน์มากกว่าอยู่กับเราคนเดียว ถ้าอยู่กับเราคนเดียว ก็เกิดประโยชน์กับเราเพียงคนเดียว 

น้องสาว : ยิ่งหาเงินมาด้วยความยากลำบาก เงินนี้ก็ต้องใช้ให้คุ้มค่า ให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับคนหมู่มากสิคะ

พี่ชาย : ก็เงินของเรา เราหามาเองนี่ ทำไมต้องนำไปทำบุญให้คนอื่น จนหมดด้วยล่ะ

น้องสาว : ไม่หมดหรอกค่ะ เดี๋ยวมันก็มาอีก เหมือนน้ำในแก้ว ถ้าทิ้งไว้นิ่ง ๆ ก็ไม่สามารถรับน้ำใหม่ได้ แต่ถ้าแบ่งไปใส่แก้วให้คนอื่นได้ดื่มด้วย ก็จะมีที่ว่างรับน้ำใหม่ได้ แบ่งมากพื้นที่แก้วมาก ก็รับน้ำใหม่ได้มากเท่านั้นค่ะ

พี่ชาย : ตามสบายนะ พี่ไม่ห้ามแล้ว ถ้าลำบากอย่ามาว่าพี่ไม่เตือนแล้วกัน..

พี่เตือนน้องอย่าทำบุญมากจนหมดตัว ลำบากมาพี่ไม่ช่วยนะขอบคุณภาพจาก buddha.dmc.tv

ตัวอย่างในสมัยพุทธกาล ที่ทำบุญจนหมด แต่ไม่หมด

มหาทุคตะ  จนข้ามภพ รวยข้ามชาติ

       มหาทุคตะ  เป็นยาจกเข็ญใจที่ยากจนสุด ๆ ขนาดผ้าที่จะห่มออกนอกบ้านมีเพียงผืนเดียวต้องผลัดกันใช้กับภรรยา   คืนหนึ่ง  เขาตามมหาชนไปฟังธรรมกับพระพุทธเจ้า  พระพุทธเจ้าทรงเทศน์ทั้งคืนเพื่อตั้งใจโปรดมหาทุคตะนี้โดยเฉพาะ  จนมหาทุคตะเอาชนะความตระหนี่ได้  ตัดใจเอาผ้าห่มกายเก่าๆ ผืนนั้นถวายพระพุทธเจ้า  ร้องประกาศเสียงดังว่า  “ชิตังเม ๆ”  แปลว่า   “เราชนะแล้ว ๆ”  คือ ชนะความตระหนี่นั่นเอง  ผลบุญเกิดทันตาเห็น  พระราชาชื่นชมในความเลื่อมใสของมหาทุคตะ  พระราชทานสมบัติเป็นอันมากแก่มหาทุคตะ  

พี่เตือนน้องอย่าทำบุญมากจนหมดตัว ลำบากมาพี่ไม่ช่วยนะแหล่งภาพจาก Kalyanamitra

ยกอนาถบิณฑิกเศรษฐี  ซึ่งได้รับยกย่องจากพระพุทธเจ้าว่าเป็นยอดแห่งอุบาสกผู้ถวายทานมาเป็นตัวอย่าง  เพื่อแสดงให้เห็นแนวปฏิบัติของอุบาสกต้นแบบในพระพุทธศาสนา

       ท่านแม้ยากลำบากยังไม่เลิกละในการทำทาน  อย่าว่าแต่คนมาห้ามไม่ให้ทำทาน  แม้เทวดาเหาะลงมาห้ามยังไล่เทวดาเผ่นไปเลย

        เรื่องอนาถบัณฑิกเศรษฐีมาเพื่อเป็นตัวอย่าง บัณฑิตแม้ตกทุกข์ยังไม่เลิกให้ทาน  เห็นใครทุ่มเทให้ทานเราไม่ควรไปด่าว่าดูหมิ่นเขา จะเป็นบาปติดตัว 

พระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ทรงสอนหลักการให้ทานให้ได้บุญมาก  ว่าต้องประกอบด้วยองค์ ๓ ดังนี้

         ๑. วัตถุบริสุทธิ์    สิ่งของที่ให้ทานได้มาด้วยความบริสุทธิ์  ไม่ได้ไปคดโกง  ลักขโมยมา

        ๒. เจตนาบริสุทธิ์    มีจิตเลื่อมใสทั้งก่อนให้ทาน  ขณะให้ทาน และหลังให้ทาน

        ๓. บุคคลบริสุทธิ์    ผู้รับยิ่งเป็นผู้มีศีล  มีคุณธรรมสูงเพียงใด     เราก็ได้บุญมากไปตามส่วน

พี่เตือนน้องอย่าทำบุญมากจนหมดตัว ลำบากมาพี่ไม่ช่วยนะแหล่งภาพจาก DMC.tv

คนยังไม่เข้าใจเรื่องบุญกันเยอะ 

- ความปลื้มปีติยินดีในการได้ทำทาน 

- ความปลื้มปิตียินดีที่เกิดขึ้นเมื่อได้กระทำการช่วยเหลือ 

- ความปลื้มปิตียินดีในการได้ใส่บาตรหรือทำการกุศล ๆ อื่น ๆ 

- ความปลื้มปิตียินดีเมื่อเห็นผู้อื่นทำการกุศล 

- ความปลื้มปิตียินดี...ที่เกิดขึ้นนั้นแหละเรียกว่าบุญ** 

        ผู้ที่เกิดความปลื้มปิตียินดีในการที่ตนได้กระทำจะเกิดความอิ่มเอิบใจ ความอิ่มเอิบใจที่เกิดนี้เรียกว่า อิ่มบุญ** เหมือนมหาทุคตะ ที่ปลื้มมาก ผลบุญดังแม่เหล็กดูดทรัพย์เข้ามาใหม่ทันที

อ้างอิง : https://pantip.com/topic/34691704

ฝรั่งริมรั้ววัด

1 ก.พ.2561

เผยแพร่โดยกองบรรณาธิการwinnews

แชร์