มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กเผย เฟซบุ๊กเตรียมยกเครื่อง "นิวส์ฟีด" ครั้งใหญ่
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เผยแผนเตรียมปฏิรูปการแสดงผลข้อมูลบนนิวส์ฟีดของเฟซบุ๊กครั้งใหญ่ http://winne.ws/n21778
มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เผยแผนเตรียมปฏิรูปการแสดงผลข้อมูลบนนิวส์ฟีดของเฟซบุ๊กครั้งใหญ่ ที่จะลดความสำคัญของ "เนื้อหาเชิงธุรกิจ" เพื่อเน้นความสำคัญของการสื่อสารระหว่างบุคคลในครอบครัวและเพื่อนฝูงให้มากขึ้น
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 ม.ค.ว่านายมาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) ของเฟซบุ๊ก ประกาศบนเพจอย่างเป็นทางการของตัวเอง เมื่อวันพฤหัสบดีผ่านมา ว่าบริษัทมีแผนปฏิรูปนิวส์ฟีดครั้งใหญ่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการเป็นสื่อกลางของการสื่อสารถึงกันระหว่างสมาชิกภายในครอบครัว และกลุ่มเพื่อนบนเฟซบุ๊ก ด้วยการให้ความสำคัญกับเนื้อหาที่เป็นความสนใจระหว่างผู้ใช้งานในเครือข่ายเดียวกันมากขึ้น ทั้งนี้ ซัคเคอร์เบิร์กยอมรับว่า บริษัทได้รับการร้องเรียนจากผู้ใช้จำนวนมากมานานระยะหนึ่งแล้ว ว่าบนนิวส์ฟีดของเฟซบุ๊กในตอนนี้มีการแสดง "เนื้อหาเชิงธุรกิจ" มากเกินไป
อย่างไรก็ตาม ซัคเคอร์เบิร์กยืนยันว่า วัตถุประสงค์หลักของเฟซบุ๊กยังไม่เคยเปลี่ยนแปลง นั่นคือการทำหน้าที่สร้างปฏิสัมพันธ์เชิงบวกระหว่างผู้ใช้งาน มากกว่าการให้ผู้ใช้งานเป็นฝ่ายบริโภคข้อมูลอย่างเดียว เพื่อให้การใช้งานเฟซบุ๊กเป็นกิจกรรมที่ "มีประโยชน์" และ "มีคุณค่า" มากขึ้น โดยเบื้องต้นคาดว่าความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า อย่างไรก็ตาม หากเนื้อหาของเพจไหนหรือการโฆษณาใดที่ได้รับการประเมินจากเฟซบุ๊กว่า "เป็นประโยชน์" ต่อสาธารณชน บริษัทจะขอใช้สิทธิ์ในการประชาสัมพันธ์ข้อมูลดังกล่าวให้ได้รับทราบกัน
อนึ่ง การประกาศของซัคเคอร์เบิร์กสอดคล้องกับรายงานที่เคยเปิดเผยเมื่อเดือนต.ค. ปีที่แล้ว ว่าเฟซบุ๊กเตรียมปรับปรุงการประมวลผลแบบอัลกอริทึมบนนิวส์ฟีด ให้แบ่งสรรการแสดงผลการโพสต์ของผู้ใช้งานกับการโพสต์จากเพจ "อย่างเป็นสัดส่วน" นอกจากนี้ เฟซบุ๊กและบริษัทที่ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์อีกหลายแห่งในสหรัฐ ไม่ว่าจะเป็นทวิตเตอร์ วิโดว์ส และกูเกิ้ล ถูกตรวจสอบจากสภาคองเกรสอย่างหนักเมื่อปีที่แล้ว ว่าล้มเหลวในการคัดกรองการเผยแพร่ "ข้อมูลเท็จ" บนแพลตฟอร์มของตัวเอง สืบเนื่องจากกรณีการสืบสวนเรื่องรัสเซียอาจแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เมื่อปี 2559
ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.banmuang.co.th/news/it/100056