มอแน (Monet) ชื่อนี้ สะเทือนวงการศิลปินวาดภาพสีน้ำมัน
อ็อสการ์-โกลด มอแน (Oscar-Claude Monet) หรือ มอแน เป็นศิลปินนักวาดภาพสีน้ำมันชาวฝรั่งเศส ที่ได้สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของการวาดภาพ คือวาดภาพออกมาจากความประทับใจ ไม่ใช่วาดภาพให้เหมือนของจริง http://winne.ws/n1911
อ็อสการ์-โกลด มอแน (Oscar-Claude Monet)
มอแนไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ที่ปารีสเพื่อหาแรงบรรดาลใจในการวาดภาพ มอแนพบว่างานเขียนที่เห็นในพิพิธภัณฑ์เป็นภาพที่ลอกมาจากภาพของครูสมัยเก่า
แทนที่มอแนจะนั่งลอกภาพเขียนที่แขวนในพิพิธภัณฑ์มอแนก็กลับเอาขาหยั่งไปตั้งริมหน้าต่าง และวาดภาพสิ่งที่เห็นนอกหน้าต่างนั่น
อ็อสการ์-โกลด มอแน (Oscar-Claude Monet) เกิดเมื่อ; 14 พฤศจิกายน ค.ศ. 1840 - 5 ธันวาคม ค.ศ. 1926) มอแนเป็นลูกชายคนที่สองของโกลดอาดอลฟ์ และลุย จุสตีน โอเบร พ่อของมอแนอยากให้มอแนทำกิจการร้านขายของชำของครอบครัวแต่มอแนอยากเป็นศิลปิน
มอแนเป็นจิตรกรในแบบฉบับของตนเอง คือการวาดภาพออกมาจากความประทับใจที่เห็นจากเหตุการณ์นั้นๆ แทนที่จะพยายามวาดให้เหมือนจริงตามธรรมชาติ และเป็นจิตรกรคนสำคัญของประเทศฝรั่งเศสในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ถึง 20
“Impression, Sunrise”(ค.ศ. 1872-1873)
ทฤษฏีการวาดภาพของมอแนจะเกิดจากความประทับใจในสิ่งที่เห็นของผู้วาด(perception) โดยเฉพาะในจิตรกรรมภูมิทัศน์(Landscapepainting) คำว่า “Impressionism” มาจากชื่อภาพเขียนของมอแนเองชื่อ “Impression, Sunrise” (ความประทับใจเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น)
ปี ค.ศ. 1851 มอแนเข้าเรียนศิลปะที่โรงเรียนมัธยมศิลปะที่เลออาฟวร์และเป็นที่รู้จักกันในฝีมือการเขียนรูปการ์ตูน (caricature) ด้วยถ่านที่มอแนขายในราคา 10 ถึง 20 ฟรังส์
นอกจากนั้นมอแนก็ยังเรียนการเขียนภาพเป็นครั้งแรกกับฌัก-ฟร็องซัวโอชารด์ (Jacques-François Ochard) ผู้เป็นลูกศิษย์ของฌัก-หลุยส์ ดาวิด (Jacques-LouisDavid)
ระหว่างปี ค.ศ. 1856-1857 มอแนพบยูจีน บูแดง (EugèneBoudin) ผู้เป็นจิตรกรและผู้ที่มอแนถือว่าเป็นครูและเป็นผู้สอนให้มอแนวาดภาพด้วยด้วยสีน้ำมันและสอนวิธีวาดภาพ “นอกสถานที่” (en plein air)
จุดเปลี่ยนของมอแนเริ่มขึ้นเมื่อมอแนไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ที่ปารีสเพื่อหาแรงบรรดาลใจในการวาดภาพ มอแนพบว่างานเขียนที่เห็นในพิพิธภัณฑ์เป็นภาพที่ลอกมาจากภาพของครูสมัยเก่า แทนที่มอแนจะนั่งลอกภาพเขียนที่แขวนในพิพิธภัณฑ์มอแนก็กลับเอาขาหยั่งไปตั้งริมหน้าต่าง และวาดภาพสิ่งที่เห็นนอกหน้าต่างนั่น
มอแนได้เข้าศึกษาวิชาศิลปะในมหาวิทยาลัย แต่มอแนเองไม่เห็นด้วยกับทฤษฏีการสอน ซึ้งเค้าได้พบ เพื่อน 3คน ที่มีแนวคิดเหมือนกันว่าการวาดภาพคือ
การเขียนที่พิจารณาถึงผลของแสงที่มีต่อสิ่งที่วาดนอกสถานที่การใช้แสงแตกหัก และฝีแปรงที่หยาบซึ่งกลายมาเป็นลักษณะลัทธิประทับใจที่เรารู้จักกันทุกวันนี้
มอแนอยู่ปารีสเป็นเวลาหลายปีและได้พบจิตรกรหลายคนผู้กลายมาเป็นเพื่อนและจิตรกรลัทธิประทับใจร่วมสมัยของมอแนเพื่อนคนหนึ่งของมอแนคือเอดวด มาเนท์ ซึ่งได้กลายมาเป็นภรรยาคนแรกของมอแน
มอแนได้ผ่านการย้ายที่อยู่หลายครั้งรวมถึงช่วงเวลาอันโหดร้ายในภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2 และการจากไปของภรรยาคนแรกและคนที่ 2 รวมถึงลูกชายของมอแนเอง ก่อนที่เค้าจะเสียชีวิตไปในอายุ 86 ปี
ตลอดช่วงชีวิตของมอแน เค้าได้ฝากผลงานไว้มากมาย ผลงานหลายชิ้นได้ถูกเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์ในยุโรป และที่สหรัฐอเมริกา ชนรุ่นหลังได้ซาบซึ้งในผลงานและแนวคิดที่มีต่อการวาดภาพในแบบฉบับของมอแนเอง พร้อมทั้งได้เป็นแบบอย่างให้คนรุ้นหลังได้ศึกษาแนวทางการวาดภาพแบบนี้ต่อไป
ขอขอบคุณข้อมูลจาก วิกิพีเดีย และ Claude Oscar Monet Biography
ผลงานบางส่วนของมอแน