อานิสงส์การถวายข้าวใหม่เป็นทานเรื่องราวอัศจรรย์ในสมัยพระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้า
ชาวนาผู้ใจบุญได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้านึกเกิดศรัทธาอยากถวายข้าวสารใหม่ที่ตัวเองลงมือเก็บเกี่ยวกับมือแด่พระพุทธองค์ พระองค์ทรงทราบความตั้งใจดีของชาวนาแล้วจึงตรัสสัมโมทนียกถาเพื่อเพิ่มพูนศรัทธา บุญนี้จึงเป็นอัศจรรย์ http://winne.ws/n17100
"เราควรจะน้อมนำข้าวกล้าที่ออกรวงใหม่ ๆ เหล่านี้ไปถวายแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าและพระภิกษุสงฆ์สาวกก่อนดีกว่า” “เป็นการไม่เหมาะอย่างยิ่งที่เราได้รู้อานิสงส์การให้ทาน แล้วยังจะเก็บไว้บริโภคเองโดยไม่นำไปถวายสงฆ์ "
คำรำพึงที่อยู่ในใจของชาวนาผู้เปี่ยมด้วยปัญญาและศรัทธา หลังจากที่ฟังธรรมจากพระบรมศาสนาดาสัมมาสัมพุทธเจ้า มาฟังเรื่องราวที่อัศจรรย์กันเลยค่ะ
อานิสงส์ถวายข้าวใหม่
ในสมัยพระปทุมุตตรสัมมาสัมพุทธเจ้ามีชาวนาผู้ใจบุญท่านหนึ่ง ได้ฟังธรรมจากพระบรมศาสดาแล้ว ก็อยากถวายข้าวสารใหม่ที่ตัวเองลงมือเก็บเกี่ยวกับมือแด่พระพุทธองค์พระองค์ทรงทราบความตั้งใจดีของชาวนาแล้วจึงตรัสสัมโมทนียกถาเพื่อเพิ่มพูนศรัทธาว่า
“ชื่อว่าสงฆ์เป็นผู้ปฏิบัติตรง มีปัญญา
ดังนั้นบุคคลควรจะถวายทานแด่สงฆ์ ข้าวกล้าออกรวงใหม่ของท่านก็เช่นเดียวกัน ควรจะถวายแด่สงฆ์ด้วย ขอให้ท่านจงตั้งจิตทำบุญเป็นสังฆทานมุ่งไปในหมู่สงฆ์ แล้วนิมนต์พระภิกษุทั้งหลายไปสู่เรือนของท่าน เพื่อถวายไทยธรรมที่จัดตกแต่งดีแล้วแด่เนื้อนาบุญเหล่านั้นเถิด”และศีลมีจิตมั่นคง ทานที่ถวายในสงฆ์ย่อมมีผลมาก
จากนั้น ชาวนาก็นิมนต์ภิกษุสงฆ์ไปที่บ้าน ตั้งใจถวายทานแด่หมู่ภิกษุสงฆ์นั้น เมื่อละโลกแล้ว ด้วยผลบุญนี้ ทำให้ชาวนาได้ไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีวิมานทองสวยงามผุดผ่อง สูง ๖๐ โยชน์ กว้าง ๓๐ โยชน์เทพบุตรนั้นได้เสวยทิพยสมบัติอันโอฬาร ทั้งได้ครองราชสมบัติในเทวโลก ๓,๕๐๐ ครั้งเป็นพระเจ้าจักรพรรดิ ๕๐๐ ครั้ง และเป็นพระราชาในเมืองมนุษย์อีกนับไม่ถ้วนครั้ง ทั้งนี้ด้วยผลบุญที่จัดสรรข้าวออกรวงใหม่ถวายแด่สงฆ์นั่นเอง
ในระหว่างการเวียนว่ายตายเกิดท่องเที่ยวไปในวัฏสงสาร ท่านได้รับอานิสงส์อีกมากมายที่เกิดจากการถวายข้าวใหม่ด้วยจิตเลื่อมใส คือ ได้ทรัพย์มากมายจนนับไม่ได้มียานพาหนะใช้สอยมากมาย เช่น ช้าง ม้า วอ คานหาม ได้สิ่งของใหม่ ๆ เช่น ข้าวใหม่ ผ้าใหม่ ผลไม้ใหม่ อาหารใหม่ ๆ ที่มีรสเลิศ ได้ผ้าต่าง ๆ มากมาย เช่น ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้าฝ้าย มีบริวารรับใช้ทั้งชายหญิง ไม่มีโรคเพราะความหนาวหรือร้อนมาเบียดเบียน ไม่มีความทุกข์ใจเลย มีแต่คนเตรียมความสุขสบายไว้รอพร้อมสรรพ และมักจะได้ยินแต่คำว่าขอเชิญบริโภคสิ่งนี้ หรือขอเชิญนอนให้สบายบนที่นอนอันหนานุ่มนี้เถิด เป็นต้น
แม้ในชาติสุดท้าย บุญนี้ก็คอยตามส่งผลให้ท่านได้แต่สิ่งของที่น่าพอใจอยู่เสมอและเมื่อได้ออกบวชเป็นพระภิกษุแล้ว ท่านจึงมีนามว่า พระสุจินติตเถระ (ผู้มีความคิดดี)
ครั้นบำเพ็ญเพียรจนบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์แล้ว ท่านได้ย้อนระลึกถึงบุพกรรมนั้นและเล่าอานิสงส์ของทานนี้ว่า
การที่เราได้แบ่งข้าวออกรวงใหม่ถวายแด่หมู่สงฆ์ผู้ประเสริฐ เราย่อมได้อานิสงส์ ๘ ประการ อันสมควรแก่บุญที่ทำ คือ
๑. ทำให้มีผิวพรรณผุดผ่อง
๒. ทำให้มียศ
๓. ทำให้มีโภคทรัพย์มากมายที่ใครลักไปไม่ได้
๔. มีข้าวปลาอาหารมากมายรออยู่ทุกเมื่อ
๕. มีมิตรและบริวารที่ไม่แตกแยกร้าวรานกันในทุกเมื่อ
๖. สัตว์บนผืนแผ่นดินล้วนต่างมีความยำเกรง
๗. เมื่อได้บวชแล้ว มักจะได้รับไทยธรรมก่อนพระรูปอื่นเสมอ
๘. นับแต่แสนกัปนั้นเป็นต้นมา ด้วยผลทานนั้นทำให้เราไม่ต้องไปทุคติภูมิอีกเลย
นึกถึงพระ ก่อนนึกถึงตนเอง
จะเห็นได้ว่า เป็นธรรมเนียมที่ดีงามของชาวพุทธว่าจะต้องคัดสรรแบ่งของถวายสงฆ์ก่อนที่ตนจะนำไปบริโภค เรียกง่าย ๆ คือนึกถึงพระก่อนนึกถึงตนเอง และเวลาเลือกของที่จะถวายพระนั้น ก็จะเลือกแต่ส่วนที่ประณีตที่สุด แสดงถึงน้ำใจอันงดงามและรู้หลักการทำบุญที่ถูกต้องว่า การถวายทานที่ประณีตดีเลิศพิถีพิถันเช่นใด ก็ย่อมทำให้ผู้ถวายได้แต่ของที่ประณีตพิถีพิถันตามเช่นนั้น
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก