สิวะ แตรสังข์หรือ(พระสิวะ อาวุธปัญโญ)อดีตพระเอกหนัง เป้าหมายชีวิต ต้องการรู้ตามความจริงที่พระพุทธเจ้าสอน
พระอาจารย์สิวะ กล่าวเพิ่มเติมว่า...“ชีวิตของคนเราไม่ยาว ถ้าเรารู้จักที่ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยเรียนรู้มาก่อนเลยบ้าง โดยเฉพาะพุทธศาสตร์ ก็สามารถทำให้ชีวิตของเรามีความสุขได้ง่ายขึ้นคนเราเมื่อเข้าใจทุกข์และอยู่ด้วยกันกับความทุกข์นั้นได้ http://winne.ws/n14354
ปัจจุบันเรามักจะเรียกดาราดังๆ ว่า ซุปตาร์ หรือ ซุปเปอร์สตาร์ คุณสิวะ แตระสังข์ เมื่อหลายสิบปี เป็นซุปตาร์คนหนึ่ง น่าดีใจที่สื่อได้นำประวัติชีวิตคนทีมีชื่อเสียงมานำเสนอ ในอีกมิติหนึ่ง นาน ๆ จะเกิดขึ้น จากวงการบันเทิงหรือเรียกว่าโลกมายา มาสู่โลกแห่งความจริง คือเส้นทางพระภิกษุสงฆ์ในพระพุทธศาสนา
ในวงการเพลง เมื่อ 20 กว่าปีก่อน ใครไม่รู้จักนักร้องยอดนิยม สิวะแตรสังข์ คงไม่มี เจ้าของผลงานเพลง "สงสัย" "ใจเสาะ" "เช็คบิลซะ"
สิวะ แตรสังข์ แรงโรจน์โดดเด่น ด้วยความเป็นนักร้องมาก่อน กับการรวมตัวของกลุ่ม กับวง “ฟ้าใหม่”
ด้วยใบหน้าที่มักจะยิ้มแย้มแจ่มใส เขากลายมาเป็น “ศิลปินเดี่ยว” ที่โด่งดังในระดับแถวหน้า จากอัลบั้มเพลงที่มีเป็นของตัวเอง และการก้าวเข้ามาในวงการหนัง วงการละคร
อยากบอกว่า “อ๊อด”-สิวะ ดังเป็นพลุแตก แต่เขากลับไม่ “ฉวยโอกาส” นั้น เหมือนกับดาราสมัยนี้ ที่มีผู้จัดการเป็นตัวกำหนด
เพลงประกอบละครเรื่อง “ทองเนื้อเก้า” และ หนังเรื่อง “กว่าจะรู้เดียงสา” กับอัลบั้มเพลงของเขาเอง “สิวะ”
เขาไม่ไขว่คว้า “โอกาสแห่งความดัง”นั้น นั่นคือการเลือกทางเดินที่ความต้องการใน “อิสระของความคิด” ทำให้ ความเป็น “ศิลปิน” เดี่ยว เหนือกว่า สิ่งที่ต้องถูกกำหนดเป็นกฎเกณฑ์และกติกา
เรื่องราวในชีวิตของ สิวะ แตรสังข์ น่าจะเป็นเรื่องที่นำมาสั่งสอนเยาวชนรุ่นใหม่ได้ โดยเฉพาะศิลปิน ไม่ว่า จะเป็นนักร้อง-ดารา
และด้วยการตัดสินใจ เดินในเส้นทางของ “สมณะเพศ” ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง กับชีวิตที่เขาเดินผ่านมา อยากบอกเลยว่า เรื่องของเขานั้น น่าศึกษาอย่างยิ่ง
และนี่คือคำตอบ “คำต่อคำ” ของอดีตนักร้องหนุ่ม ที่ได้ชื่อว่า วันที่เขาอยู่ในวงการมายานั้น มีความวุ่นวาย ไม่ได้แตกต่างอะไรกับคนในวงการวันนี้
นมัสการเรียนถามคำถาม ในการตัดสินใจบวชเป็นพระภิกษุ (การสัมภาษณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อพรรษาที่ 2)
คำถาม
อะไรทำให้ท่านเบื่อทางโลก และหันมาทางธรรม เรื่องของงานที่หายากขึ้น หรือเรื่องของสื่อในยุคนั้น
คำตอบ
เริ่มต้นจากปี 2554 ที่น้ำท่วมหนักที่กทม. ได้ไปหลบน้ำท่วมที่โรงแรมทาวน์อินทาวน์ซึ่งมีเพื่อนอพยพครอบครัวไปพักที่นั่นชั่วคราว ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีการร่ำสุราทุกวันและตลอดทั้งวันเป็นเวลาเกือบสองเดือน แต่ก่อนหน้านั้นก็ดื่มหนักติดต่อมาตลอดระยะเวลาหลายสิบปี จนกระทั่งวันหนึ่งมีเพื่อนรุ่นน้องแวะมาหาที่โรงแรมแล้วชวนมาเที่ยวที่ถ้ำวัวแดง 3 วัน
มันมีเหตุการณ์หลายๆอย่างจะเรียกว่าประจวบเหมาะหรือมันบีบบังคับก็ไม่ทราบได้ ก่อนหน้านั้นประมาณ 1 ปี ได้ไปเฝ้าไข้น้าซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็ง แล้วได้เห็นวงจรของคนที่ป่วยโรคนี้ตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้เหมือนกับจะปลงอะไรบางอย่างได้ในระดับหนึ่ง และได้รู้ว่า ”เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายปฏิเสธสารอาหารนั่นคือสัญญาณชีวิตของคนเริ่มอ่อนลงขั้นน่าเป็นห่วง”
สังเกตตัวเองมาตลอด6เดือนว่ากินข้าวได้น้อยมาก น้อยขนาดที่ว่าอาหารกล่องไมโครเวฟตามร้านสะดวกซื้อ ผมต้องแบ่งกิน 3 มื้อต่อหนึ่งกล่องจึงจะหมดแล้วทั้งวันก็กินแค่นั้น วันไหนกินข้าวได้หมดจานในหนึ่งมื้อถือว่าสุดยอด ซึ่งมีน้อยมาก กินมากกว่านั้นก็จะอ้วกออกมา ทำให้นึกถึงตอนที่น้าใกล้จะเสียก็เป็นแบบนี้ก็เลยสำนึกว่าระบบภายในเราคงแย่มากๆแล้ว
อยากเลิกเหล้าที่กินมาตลอด 30 กว่าปีแต่ก็ใจไม่แข็งพอเพราะเพื่อนฝูงส่วนใหญ่ก็ดื่มเหล้ากันเยอะ พอน้องมาชวนก็เลยตั้งใจว่าจะมาอดเหล้าสัก 3 วันแล้วก็จะกลับไปลุยต่อ แต่พอมาถึงที่นี่แล้วมันมีเหตุการณ์ให้อยู่ต่อ ซึ่งจะขอยกไว้เพราะเรื่องมันยาว เอาเป็นว่าตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. 2554 ถึงตอนนี้ก็ยังอยู่ที่นี่ ไม่ได้ไปไหนเลย ไม่มีปัญหาเรื่องงาน ไม่มีปัญหาชีวิต ไม่ได้อกหัก มีเพียงเรื่องเดียว (ในตอนนั้น) คืออยากงดเหล้าเป็นข้อใหญ่
คำถาม
- ท่านคิดบวชก่อน หรือคิดทันที
คำตอบ
หลังจากวันที่ 5 พ.ย.2554 เพื่อนต้องกลับกทม. แต่มีเหตุการณ์บางอย่างทำให้เราตัดสินใจอยู่ปฏิบัติธรรมต่อไปเรื่อยๆ จนถึงอีก 4 เดือนจึงตัดสินใจบวช
คำถาม
- ท่านบวชเมื่อไร กี่พรรษาแล้ว
คำตอบ
บวชเมื่อ 24 ก.ค.2555 พรรษาที่ 2
คำถาม
- คิดว่าจะบวชตลอดไปไหม
คำตอบ
ณ.วินาทีนี้ยังไม่คิดเรื่องสึก
คำถาม
- ความรู้ทางโลก
คำตอบ
จบแค่ปวช.ช่างไฟฟ้า แล้วมาต่อที่รามฯเหลืออีก90หน่วยจะจบแต่มาเข้าวงการเสียก่อนเลยทิ้งการเรียนทำให้ไม่จบปริญญาตรี ส่วนในทางธรรมจะเน้นปฏิบัติมากกว่าปริยัติเพราะไม่ได้หวังในสมณะศักดิ์ทั้งหลาย ความเห็นส่วนตัวคืออยากเข้าใจในแก่นธรรมะจริงๆ มากกว่าเรียนท่องจำ
คำถาม
- ก่อนหน้าที่จะมาบวชนั้น มีผู้บอกว่าท่านไปทำงานที่ญี่ปุ่น ไปตอนปีอะไร และก่อนหน้านั้นนานหรือไม่
คำตอบ
กลับจากญี่ปุ่นประมาณปี 2536-2537 หลังจากกลับมาได้ 2-3 ปีก็บวชพระไปแล้ว 1 ครั้ง (ญาติผู้ใหญ่ชื่อแป๊ด พระประแดงก็ไปนะ) ตอนนั้นก็ยังมีงานแสดงอยู่เลยบวชได้แค่ 19 วัน จากที่ตั้งใจไว้ว่า 7 วันตามสมัยดารานิยม หลังจากสึกก็ออกมาทำธุรกิจส่วนตัวบ้างและรับงานแสดงบ้าง
คำถาม
- ความรู้สึกเกี่ยวกับข่าวฉาวพระ
คำตอบ
ตอนแรกรู้สึกสลดใจและอับอาย แต่ตอนนี้รู้สึกสงสารคนพวกนั้นหรือเหล่านั้นมากกว่า เพราะที่ๆ พวกเขาจะไปหลังจากละโลกนี้แล้วมันน่ากลัวอย่างสรรหาคำบรรยายมิได้ เรื่องแบบนี้มีมาตั้งแต่สมัยพระพุทธองค์ยังทรงมีชีวิตอยู่ และมันต้องเป็นไปตามกฎไตรลักษณ์อย่างเลี่ยงไม่ได้
คำถาม
- เรื่องของศาสนาอื่นที่โจมตีศาสนาพุทธ
คำตอบ
โดยส่วนตัวแล้วนับถือศาสดาของทุกศาสนา เพราะท่านเหล่านั้นได้บำเพ็ญเพียรบารมีมากเหลือเกินกว่าจะค้นพบคำสอนมาสั่งสอนสาวก แต่เมื่อศาสนานั้นๆ ไม่มีศาสดาอยู่ ศาสนานั้นๆ ก็ย่อมถูกเผยแพร่ออกไปโดยสาวกทั้งหลายซึ่งบางทีอาจถูกบิดเบือนไปเพื่อผลประโยชน์บางอย่างไม่เว้นแม้แต่ศาสนาพุทธ
แต่ในท้ายที่สุดความจริงก็จะปรากฏ ในเมื่อเราเองยังถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นสรณะสูงสุด จึงไม่แปลกที่เขาจะเทิดทูนศาสดาของเขา แท้จริงแล้วพระพุทธองค์ก็มิได้สั่งให้ยึดติดกับตัวท่าน มิให้เราสร้างรูปเหมือนของท่านหลังจากที่ท่านปรินิพพาน แต่ให้ยึดพระธรรมของท่านเป็นหลักต่างหาก
พิธีการทั้งหลายมาบิดเบี้ยวเพราะเราได้ผสมผสานศาสนาพุทธเข้ากับกับความเชื่อดั้งเดิมตั้งแต่พระพุทธศาสนายังไม่เข้ามาในแถบนี้ ผสมผสานกันลงตัวเป็นพุทธแบบไทยๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่นั่นก็ยังไม่เลวร้ายเท่ากับการบิดเบือนหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าอย่างที่เราเห็นกันอยู่เพราะมีเรื่องลาภสักการะเข้ามาเกี่ยวข้องซึ่งก็มิใช่เรื่องแปลก เพราะมันก็เคยเกิดขึ้นในสมัยของพระพุทธองค์ด้วยซ้ำ
พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้แล้วว่ามันจะต้องบังเกิดขึ้น เรื่องบางเรื่องผมถือว่าเป็นอจินไตย รู้ไปก็เท่านั้น ดิ้นรนไปก็เท่านั้น ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับจิตของเรา ทุกสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไปไม่เว้นแม่แต่ศาสนาของพระองค์ เพราะฉะนั้นเราควรดูที่ตัวเรานั่นแหละจึงจะเป็นการดีที่สุด “ธรรม ได้เท่าที่เราทำ”
(อจินไตย แปลว่าสิ่งที่ไม่ควรคิด หมายถึงสิ่งที่ไม่อาจเข้าใจได้ ด้วยตรรกะสามัญของปุถุชน มี 4 อย่าง คือ -พุทธวิสัย –ฌานวิสัย -กรรมวิสัย และโลกวิสัย )
คำถาม
- นอกจากพระพุทธเจ้าแล้วมีใครเป็นไอดอล
คำตอบ
ผมบูชาพระอริยะทุกรูป เพราะทุกท่านมีหลักการสอนที่ไม่เหมือนกันซึ่งเราสามารถเก็บเกี่ยวเอาความรู้จากทุกๆ องค์ได้ตามจริตของเรา แต่ถ้าจะให้พูดถึงองค์หนึ่งก็คือ “พระอุตตมะมหาเถระ” หรือ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” หนึ่งในห้าพระอรหันต์ผู้ที่นำศาสนาพุทธมาเผยแผ่ที่ดินแดนสุวรรณภูมิเป็นคณะแรก ตั้งแต่ พ.ศ. 235 (สองร้อยสามสิบห้า) ก่อนที่จะมีประเทศไทยเสียอีก
คำถาม
- สมาธิ- จงกรม- ธุดงค์ ท่านเลือกปฏิบัติอย่างไร
คำตอบ
ผมเพิ่งพรรษาที่ 2 ยังบอกไม่ได้ว่าอะไรเป็นที่สุด หนทางที่จะเดินยังอีกยาวไกลครับ แต่ก็จะปฏิบัติไปเรื่อยๆ จนกว่าจะพบจริตของตัวเอง
คำถาม
- หลักที่ใช้สอนฆราวาส
คำตอบ
พยายามนึกถึงตอนที่ตัวเองยังไม่ได้บวชว่าตอนนั้นเราคิดอย่างไร แล้วอธิบายสิ่งที่เรารู้ ณ ตอนนี้อย่างง่ายๆ ตามหลักความน่าจะเป็น ผสานกับการอ้างอิงพระไตรปิฎกที่ได้อ่านมาเป็นหลัก บางทีก็มีกระทู้ธรรมะจากครูบาอาจารย์พระอริยะที่จำได้มาเสริมครับ
และนี่คือคำตอบ “คำต่อคำ” ของอดีตนักร้องหนุ่ม ที่ได้ชื่อว่า วันที่เขาอยู่ในวงการมายานั้น มีความวุ่นวายไม่ได้แตกต่างอะไรกับคนในวงการวันนี้
เป็นคำตอบซึ่งแม้แต่ พระหนุ่มรูปงามที่มีสมญานามว่า “อาวุธปัญโญ” จากสำนักสงฆ์ถ้ำวัวแดง จ. ชัยภูมิ ก็ไม่แนใจด้วยซ้ำในเส้นทางเดินสายนี้
**********************
ปัจจุบันพระอาจารย์สิวะ อาวุธปัญโญ มีอายุถึง 6 พรรษาแล้ว คำตอบบรรทัดสุดท้ายของพรรษาที่ 2 ย่อมเปลี่ยนไปตามอายุพรรษาและบุญบารมีที่เพิ่มขึ้น
พระอาจารย์สิวะ กล่าวเพิ่มเติมว่า...“ชีวิตของคนเราไม่ยาว ถ้าเรารู้จักที่ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ไม่เคยเรียนรู้มาก่อนเลยบ้าง โดยเฉพาะพุทธศาสตร์ ก็สามารถทำให้ชีวิตของเรามีความสุขได้ง่ายขึ้นคนเราเมื่อเข้าใจทุกข์และอยู่ด้วยกันกับความทุกข์นั้นได้
ก็จะเป็นการทำให้ใจเรามีความสุขขึ้นเองตามธรรมชาติอย่างแท้จริง ตอนนี้ปรารถนาเพียงต้องการรู้ตามความเป็นจริงที่พระพุทธเจ้าสอน และในปัจจุบันพอที่จะมีเรี่ยวแรงอะไรอยู่บ้าง ก็ขอทำคุณประโยชน์ให้แก่สังคมได้บ้างในเชิงธรรมะ
”นับจากวันนั้นถึงวันนี้ พระอาจารย์สิวะได้ศึกษาธรรมะแล้วยาวนานมาถึง 6 พรรษา...โดยท่านได้ตั้งเป้าหมายของชีวิตเอาไว้ว่า ต้องการที่จะได้รับรู้ตามความจริงที่พระพุทธเจ้าสอน หรือพูดง่ายๆ อย่างน้อยต้องการบรรลุธรรมอย่างใดอย่างหนึ่งสักข้อ ก็จะถือได้ว่าประสบความสำเร็จในการบวชครั้งนี้ ก็ได้แต่อนุโมทนาบุญกุศลในครั้งนี้กับท่านด้วย
ปัจจุบันท่านจำพรรษาที่วัดโคกพุทรา อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง
คำตอบของพระสิวะ แม้เมื่อพรรษาที่ 2 ยังเป็นพระนวกะ น่าประทับใจน่าเลื่อมใสไม่น้อย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ท่านจะบวชต่อไปนาน ๆ เพื่อทำประโยชน์ตนและประโยชน์ท่าน ให้ถึงพร้อม