เพราะใส่บาตรจึงมีวันนี้ ชาร์เล็ทดาราเด็กอุปถัมถ์เด็กยากจน
"ชาเลท" สาวน้อยผู้มีหัวใจของการให้ และมีความคิดที่ดีในการแบ่งปันความสุขที่เธอได้จากครอบครัว แม้วัยเพียง 10 ขวบ เธอยังเป็นแบบอย่างของชาวพุทธที่ดี ที่รักการใส่บาตรและแผ่เมตตาให้เพื่อนมนุษย์ด้วย http://winne.ws/n918
ดาราเด็กหัวใจผู้ให้
ไม่ง่ายเลยที่เด็กคนหนึ่ง ซึ่งเติบโตขึ้นมาในสภาพแวดล้อมสังคมในปัจจุบัน จะสามารถนำความดีงามที่อยู่ในจิตใจ ออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม ทั้งหมดนี้ไม่อาจเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ ล้วนแต่ต้องถูกแนะนำสั่งสอน และส่งเสริมจากครอบครัวที่อบอุ่น ในพระพุทธศาสนา ซึ่งสามารถรับฟังได้จากบทสัมภาษณ์ของน้องชาร์เล็ท ต่อไป
วันที่ 23 มี.ค.59 เว็บไซต์ sanook ได้สัมภาษณ์พิเศษน้องชาร์เลท วาศิตา ได้น่าสนใจดังนี้
"ชาร์เลท วาศิตา แฮเมเนา" นักแสดงเด็กที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดีในหน้าจอ และตอนนี้ก็กำลังมีผลงานละคร วัยแสบสาแหรกขาด กับบทบาท "ตังเม" เด็กมีปัญหาชอบทำร้ายร่างกายตัวเองเพื่อเรียกร้องความสนใจ ซึ่งนั่นก็คือพาร์ทการแสดง
ส่วนในชีวิตจริงสาวน้อย "ชาร์เลท" แม้จะเป็นเด็กลูกครึ่งแต่ก็ถูกหล่อหลอมเลี้ยงดูให้รู้จักการเป็น "ผู้ให้" จากครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ และจากการเป็นผู้ให้ของสาวน้อยชาเลทนั้น จึงทำให้ต้องนำตัวเธอมาพูดคุยแบบหมดเปลือก เด็กน้อยวัยเพียงสิบขวบแต่มีจิตใจการให้ที่ยิ่งใหญ่ ด้วยการบริจาครายได้จากการแสดงบางส่วนของตัวเองเพื่ออุปถัมภ์เด็กที่ขาดโอกาสจนจบมัธยมศึกษาถึงสองคน
"หนูให้รายได้กับเด็ก 2 คน คนนึงจบ ม.3 แล้วค่ะ อีกคนกำลังเรียนอยู่ หนูทำมาตั้งแต่หนูเด็ก ๆ ประมาณ 4-5 ขวบ หนูกับคุณแม่เปิดดูโซเชียลก็เห็นแบบคนบ้านถูกไฟไหม้ หนูเลยแบบรู้สึกน่าสงสารจังเลยไม่มีเสื้อผ้าหนูก็เลยบริจาคเสื้อผ้าให้เขา อย่างเช่นเห็นหมาแมวโดนทำร้ายเป็นโรคต่าง ๆ เราก็เลยบริจาคเงินอาหารหมาแบบนี้ค่ะ
ส่วนเรื่องให้รายได้กับเด็กคุณแม่ก็ไม่ได้ชักชวนแต่คุณแม่พูดเหมือนว่าดูคนนี้เขาเป็นอะไรเนี่ย แล้วหนูก็ดูกับแม่แล้วคิดว่าเราพอจะช่วยเขาได้มั้ย มันเริ่มต้นจากชาเลทอยากช่วย ชาเลทบอกคุณแม่ว่าชาเลทอยากช่วย คุณแม่ก็เลยบอกถ้าอยากช่วยเดี๋ยวมาม๊าช่วยให้ คนที่จบ ม.3 ชาเลทช่วยตั้งแต่อยู่ประถมอีกคนกำลังเรียน ม.3 ไม่รู้ว่าอยากเรียนต่อมั้ยถ้าเขาอยากเรียนปริญญาเอก ปริญญาโท ชาเลทก็จะช่วยค่ะ"
ชาร์เลทเริ่มเปิดบทสนทนาถึงที่ไปที่มาของการเป็นผู้ให้ของตัวเอง ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มสดใสพร้อมเล่าต่อว่าการรู้จักเป็นผู้ให้ของเธอนั้นได้รับการปลูกฝังจากครอบครัวตั้งแต่วัยเยาว์
"ตั้งแต่เด็กคุณแม่สอนให้ใส่บาตร ใส่บาตรก็จะสอนเรื่องการให้ แล้วก็สวดมนต์ทุกคืนสวดมนต์ให้คนอื่น สัพเพ สัตตา แผ่ส่วนบุญไปให้คนอื่น คุณตาคุณยายชอบเข้าวัดทำบุญพี่ก็ทำทุกคนก็ทำ ครอบครัวหนูมีคุณพ่อที่ร่าเริง คุณตาก็ใจดี คุณย่าก็เข้าใจ พี่ก็แกล้งกัน แม่ก็ดูแลค่ะ เรารู้สึกว่าครอบครัวนี้ดีเราควรใช้เวลาตั้งแต่เด็กจนโตที่จะอยู่กับครอบครัวให้ดีที่สุด แล้วถ้าเราเสียมันไปเราเอาคืนไม่ได้"
ความสุขของ 'ชาร์เลท' ในการเป็นผู้ให้
สาวน้อยชาร์เลทคนนี้ทำให้เรารู้สึกทึ่งกับความคิดเพราะเด็กวัยเพียงสิบขวบนอกจากจะรักการเป็นผู้ให้แล้วนั้น เธอก็ยังสอดแทรกเรื่องจิตสำนึกที่ดีต่อส่วนรวมซึ่งสะท้อนให้เห็นชัดเจนว่าเด็กจะเติบโตมาอย่างไรการเลี้ยงดูของครอบครัวนั้นคือหัวใจสำคัญ
"เราเห็นคนอื่นมีความสุข เราจะไม่มีความสุขได้ไง เราก็ต้องมีความสุขสิ สมมติว่าเรามีของเล่นชิ้นนึง เราเอาไปให้คนอื่น ก็เหมือนกับว่าให้คนนั้นดูแลของ ๆ เรา ให้เขาอยู่กับของเล่นของเรา ไม่ใช่ว่าเราเอาไปทิ้งมันก็ไม่มีคนเล่น แล้วถ้าเราเอาไปให้เด็กที่เขาอยากมีของเล่นเขาจะรู้สึกเหมือนว่า มีคนเอาของเล่นมาให้เราด้วยเราสัญญานะจะดูแลอย่างดี ถึงเราจะไม่อยากเสียมันไปแต่มันก็ดีกว่าเอาไปทิ้งถังขยะค่ะ"
"หนูไม่รู้ว่าเด็กคนไหนที่คิดแบบหนู ถ้าใครคิดแบบหนูก็ขอให้คิดแต่สิ่งที่ดี ๆ คิดในสิ่งที่เป็นคุณไม่ใช่คิดแต่สิ่งที่ทำให้คุณตกต่ำลงไปเรื่อย ๆ เราต้องส่งเสริมช่วยเหลือคนอื่น ความดีทุกคนอาจจะไม่เห็นแต่เราเห็นว่านั้นคือความดีถึงเราจะชนะใจใครไม่ได้ แต่เราชนะใจตัวเองได้เพราะว่าฉันทำความดี เวลาชาเลททำสิ่งไม่ดีชาเลทจะหยุดทำทันที ชาเลตจะรู้สึกว่าไม่ใช่แล้วชาเลทก็จะเลิกทำเลยค่ะ"
แหล่งข้อมูล : sanook new
รูปภาพ : kapook