อัศจรรย์!! กำเนิดต้นพระศรีมหาโพธิ์
ที่มาของต้นพระศรีมหาโพธิ์ความว่า เป็นต้นที่พระพุทธเจ้าทรงนั่งประทับตรัสรู้ ณ ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ณ วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 สำหรับประวัติเมืองพุทธคยานั้น เป็นสถานที่ตรัสรู้ของพระสัมมาพุทธเจ้า http://winne.ws/n8191
ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็นต้นไม้แห่งการตรัสรู้ ต้นพระศรีมหาโพธิ์แห่งนี้รวมทั้งหมด 4 มีต้น และทั้ง 4 ต้นนี้ได้เจริญเติบโตทดแทนกันมาเรื่อยๆ จากที่เดิมและมีประวัติความเป็นมาอันยาวนานนับเป็นอนุสรณ์สถานที่มีคุณค่า ของชาวพุทธและมวลมนุษยชาติทั่วโลก ปัจจุบันพุทธคยาได้ถูกยกให้เป็นมรดกโลกตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่หนึ่งเป็นต้นที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ พระองค์ได้รับการถวายหญ้ากุสะจำนวน 8 กำ จากโสตถิยะพราหมณ์เพื่อปูเป็นที่ประทับเมื่อใกล้รุ่งของวันเพ็ญ เดือน 6 จึงตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและ
พระองค์ตรัสว่า "ต้นพระศรีมหาโพธิ์เป็น ต้นไม้แทนพระพุทธองค์ หากใครได้ไหว้ได้สักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์ก็เท่ากับ ว่าได้ไหว้สักการะพระพุทธองค์
และหลังจากที่พระพุทธองค์เสด็จดับขัน ธปรินิพพานแล้ว มีผู้เลื่อมใสศรัทธามากราบไหว้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นจำนวนมาก
สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช พระองค์ทรงเป็นองค์เอกอัครศาสนูปถัมภ์ ทำให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองเป็นอันมากเช่นทรงสร้างพระเจดีย์ถวายเป็น พุทธบูชาจำนวนถึง 84000 องค์ ซึ่งทำให้
พระเจ้าอโศกมหาราชไม่สนพระทัยในความสุขส่วนพระองค์เหมือนเช่นเคย ว่างเว้นจากราชกิจก็มาปฎิบัติธรรมใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ไม่กลับวังที่ประทับ
จึงเป็นเหตุให้เหล่านางสนมทั้งหลายต่าง พากันโกรธแค้น อิจฉาต้นพระศรีมหาโพธิ์ พระมเหสีองค์ที่ 4 ของพระเจ้าอโศกมหาราชนามว่า มหิสุนทรี ได้สั่งสาวใช้ให้นำยาพิษ และน้ำร้อนแอบไปรดที่โคนต้นพระศรีมหาโพธิ์จนทำให้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ตายไปในที่สุด
การตายของต้นพระศรีมหาโพธิ์ทำให้พระเจ้าอโศกมหาราชทรงเสียพระทัยมาก ทรงรับสั่งให้
ใช้น้ำนมโค 100 หม้อ ไปรดที่บริเวณรากของต้นโพธิ์และทรงอฐิษฐานพร้อมกับการสักการะก้มกราบพระองค์ทรงมีพระราชปรารภว่า หากแม้ว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์ไม่แตกหน่อขึ้นมาแล้วไซ้ร์จะไม่ยอมลุกขึ้นเป็นอันขาด ด้วยพุทธานุภาพและพระราชศรัทธาอันแรงกล้าแห่งพระเจ้าอโศกมหาราช ต้นพระศรีมหาโพธิ์ก็แตกหน่อขึ้นมาใหม่
พระองค์ดีพระทัยเป็นอันมากจึงสั่งให้ก่อกำแพงล้อมรอบ เพื่อป้องกัน อันตรายที่จะเกิดขึ้นกับต้นโพธิ์อีก
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สอง
ถือเป็นต้นที่แตกหน่อมาจากต้นแรก และการที่พระเจ้าอโศกได้เผยแผ่ พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก จึงมีการนำต้นโพธิ์ไปปลูกในประเทศต่างๆ เช่น พระโสณะเถระและพระอุตตรเถระเดินทางมา ยังดินแดนสุวรรณภูมิ และพระมหินทเถระ สังฆมิตราเถรีเดินทางไปยังศรีลังกา โดยพระภิกษุเหล่านี้ได้นำต้นโพธิ์หรือกิ่งพระศรีมหาโพธิ์ไปด้วย
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สองถูกทำลายอีกครั้งในสมัยพระเจ้าสาสังการ แห่งฮินดู ซึ่งครองเมืองเบงกอล พระเจ้าสาสังการเกิดแข็งข้อต่อพระเจ้าปรณวรมา จึงรับสั่งให้ตัดต้นและขุดรากต้นโพธิ์ใช้ฟางอ้อยสุม ใช้น้ำมันราด และเผาต้นพระศรีมหาโพธิ์ ซึ่งมีอายุราว 871-891 ปี เจ็ดวันหลังจากนั้น พระเจ้าสาสังการทรงอาเจียนเป็นพระโลหิต และสิ้นชีพตักษัยที่พุทธคยา ซึ่ง
พระเจ้าปรณวรมาเสด็จมาพอดี จึงตีทัพของเบงกอลแตกพ่ายไป และทรงให้ชาวบ้านรีดนมโค 1,000 ตัว เอาน้ำนมที่ได้เทราดบริเวณต้นโพธิ์ที่ถูกเผา พระเจ้าปรณวรมาทรงนอนคว่ำหน้าลงกับพื้นพร้อมอฐิษฐานตามแบบพระเจ้าอโศกมหาราช ซึ่งต้นพระศรีมหาโพธิ์ก็แตกหน่อขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สาม
ในปี พ.ศ. 2418 ท่านเซอร์คันนิ่งแฮม หัวหน้าคณะสำรวจพุทธสถานในช่วงอังกฤษปกครองอินเดียได้เดินทางไปที่พุทธคยา เป็นครั้งที่สอง พบว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์ทรุดโทรมมาก ประชาชนชาวฮินดูในบริเวณนั้นได้ตัดกิ่งก้านไปทำเชื้อเพลิง และในปี พ.ศ. ๒๔๒๑ ต้นพระศรีมหาโพธิ์เบียดกับเจดีย์พุทธคยาได้ล้มลงไปทางทิศตะวันตกและตายไปเอง ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สามมีอายุครบ ประมาณ 1258-1278 ปี
ต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สี่
เป็นต้นที่ยังคงอยู่ที่พุทธคยาในปัจจุบัน เป็นหนึ่งในสองหน่อที่แตก ขึ้นมาจากต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นที่สามที่ล้มตายไป โดยท่านเซอร์คันนิ่งแฮมได้ บำรุงดูแลหน่อที่เกิดมานั้นเมื่อปี พ.ศ.2423 และนำอีกหน่อหนึ่งไปปลูกไว้ด้านทิศเหนือของเจดีย์พุทธคยาห่างจากต้นเดิม ประมาณห้าสิบเมตร
ปัจจุบันต้นพระศรีมหาโพธิ์ทั้งสองต้นยังคงอยู่มีอายุได้ถึงทุกวันนี้ อายุได้ 129 ปีเต็ม ท่านสาธุชนผู้ศรัทธาสามารถเดินทางไปสักการะได้ด้วยตนเอง ปัจจุบันนี้มีสายการบินไทยบินตรงจากสุวรรณภูมิถึงพุทธคยาโดยใช้เวลาบินเพียง 4 ชั่วโมง 15 นาทีเท่านั้นท่านก็ได้สักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์แล้วถือว่าเป็นศิริมงคลสูงสุดกับชีวิตตัวเองและครอบครัวมาก ใครที่คิดจะไปก็รีบกันได้เลยอย่ารอช้าก่อนที่จะไม่มีโอกาสได้เดินทางไปกัน
ตลอดทั้งปีได้เห็นชาวพุทธทั่วโลกเดินทางไปแสวงบุญที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์รวมถึงสังเวชนียสถานต่างๆ เพื่อเป็นการสร้างแรงวิริยบารมีที่จะบำเพ็ญเพียรเพื่อรู้แจ้งในอริยสัจ ดังที่เจ้าชายสิทธัตถะได้เคยกระทำมาแล้ว
"น่าอัศจรรย์จริงหนอ ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในชีวิตชาวพุทธมีโอกาสสมควรไปสักการะ สักครั้งหนึ่ง เพื่อระลึกนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐแก่ชาวโลก"