พระพุทธเจ้าเคยตรัสถึง ข้าวยาคูมีคุณ 10 อย่าง คือ

ข้าวยาคู ความหมาย วิธีทำ คุณค่า และคุณประโยชน์ของข้าวยาคู 10 อย่าง http://winne.ws/n6502

10.0 พัน ผู้เข้าชม
พระพุทธเจ้าเคยตรัสถึง ข้าวยาคูมีคุณ 10 อย่าง คือwww.foodtravel.tv

ข้าวยาคู คือ นำนมข้าวที่ผลิตจากข้าวอ่อนระยะน้ำนม

ข้าวยาคู  คำแปล  ตามพจนานุกรม   คือ  (มค. ยาคุ = ข้าวต้ม) น. ขนมอย่างหนึ่งทำด้วยเมล็ดข้าวอ่อน ตำแล้วคั้นเอาน้ำเคี่ยวกับน้ำตาล, ครั้งพุทธกาล มักมีผู้ทำถวายพระให้ดื่มก่อนออกบิณฑบาต.

พระพุทธเจ้าเคยตรัสถึง ข้าวยาคูมีคุณ 10 อย่าง คือwww.scf.or.th

 

วิธีการทำ  ตัดเอารวงข้าวระยะน้ำนมแล้วนำมาตำด้วยครก (ทั้งรวง ทั้งใบข้าว)จากนั้นก็คั้นเอาน้ำไปเคี่ยว ผสมด้วยแป้งข้าวจ้าวเล็กน้อยหากชอบหวานก็ใส่น้ำตาลปี๊บเล็กน้อย เคี่ยวจนกระทั่งน้ำนมข้าว แป้งและน้ำตาลเข้ากัน จะมีลักษณะขุ่นข้นคล้าย ๆ กับแป้งเปียก มีสีเขียวอ่อน 

พระพุทธเจ้าเคยตรัสถึง ข้าวยาคูมีคุณ 10 อย่าง คือwww.kasetorganic.com
พระพุทธเจ้าเคยตรัสถึง ข้าวยาคูมีคุณ 10 อย่าง คือwww.xn--12ca1db3dh8c4axty1lcdt0o.com
พระพุทธเจ้าเคยตรัสถึง ข้าวยาคูมีคุณ 10 อย่าง คือwww.oknation.net

คุณค่า  ข้าวยาคูผลิตจากเมล็ดข้าวอ่อน ที่เรียกว่า ข้าวระยะน้ำนมจะมีกลิ่นหอมอ่อน อิ่มท้อง ย่อยง่าย ครบถ้วนด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์มากมาย ได้แก่วิตามิน B1, B2 , E มแคลเซี่ยม ,โปรตีน,คาร์โบไฮเดรตและเกลือแร่  เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย  และ ทำให้ลมในร่างกายเดินสะดวก ล้างลำไส้ ช่วยย่อยอาหาร มีไขมันต่ำ และปราศจากคลอเรสเตอรอล

พระพุทธเจ้าเคยตรัสถึง ข้าวยาคูมีคุณ 10 อย่าง คือwww.arda.or.th

ดังมีเรื่องเล่าในพระไตรปิฏกเรื่องข้าวยาคู ดังนี้   เรื่องพราหมณ์ถวายยาคูและขนมปรุงด้วยน้ำหวาน

       [๖๑] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ในพระนครพาราณสี ตามพระพุทธาภิรมณ์  แล้วเสด็จพระพุทธดำเนินมุ่งไปทางอันธกวินทะชนบทพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ประมาณ  ๑,๒๕๐ รูป คราวนั้นประชาชนชาวชนบทบรรทุกเกลือบ้างน้ำมันบ้าง ข้าวสารบ้างของควรเคี้ยว บ้างเป็นอันมากมาในเกวียน เดินติดตามภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขมาข้างหลัง  

                     มีพราหมณ์คนหนึ่ง ด้วยตั้งใจว่าได้โอกาสเมื่อใดจักทำภัตตาหารถวายเมื่อนั้น อนึ่ง คนกินเดนประมาณ ๕๐๐ คน  ก็พลอยเดินติดตามไปด้วยครั้นพระผู้มีพระภาคเสด็จพระพุทธดำเนินผ่านระยะทางโดยลำดับ เสด็จถึงอันธกวินทชนบท.

                      ขณะนั้นพราหมณ์คนหนึ่ง ยังหาโอกาสไม่ได้จึงดำริในใจว่าเราเดินติดตามภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขมากว่า๒ เดือนแล้ว ด้วยหมายใจว่าได้โอกาสเมื่อใด จักทำภัตตาหารถวายเมื่อนั้นแต่ก็หาโอกาสไม่ได้ อนึ่ง เราตัวคนเดียวและยังเสียประโยชน์ทางฆราวาสไปมากไฉนหนอเราพึงตรวจดูโรงอาหาร สิ่งใดไม่มีในโรงอาหาร เราพึงตกแต่งสิ่งนั้นถวาย แล้วจึงตรวจดูโรงอาหารมิได้เห็นมีของ๒ สิ่ง คือยาคู ๑ ขนมปรุงด้วยน้ำหวาน ๑ จึงเข้าไปหาท่านพระอานนท์ถึงสำนัก

                      ครั้นแล้วได้กราบเรียนคำนี้แด่ท่านอานนท์ว่า  “ ข้าแต่พระคุณเจ้าอานนท์ ข้าพเจ้าหาโอกาสในที่นี้ไม่ได้จึงได้ดำริในใจว่าตนเดินติดตามภิกษุสงฆ์ มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขมากว่า๒ เดือนแล้ว ด้วยหมายใจว่าได้โอกาสเมื่อใด จักทำภัตตาหารถวายเมื่อนั้นแต่ก็หาโอกาสไม่ได้อนึ่ง ตนตัวคนเดียวและยังเสียประโยชน์ทางฆราวาสของตนไปมาก ไฉนหนอ ตนพึง ตรวจดูโรงอาหารสิ่งใดไม่มีในโรงอาหาร พึงตกแต่งสิ่งนั้นถวาย ดังนี้ ข้าแต่พระคุณเจ้าอานนท์ข้าพเจ้านั้นตรวจดูโรงอาหารมิได้เห็นมีของ ๒ สิ่ง คือ ยาคู ๑ ขนมปรุงด้วยน้ำหวาน ๑       ถ้าข้าพเจ้าตกแต่งยาคูและขนมปรุงด้วยน้ำหวานถวาย ท่านพระสมณโคดมจะพึงรับของข้าพเจ้าไหมเจ้าข้า?“

            ท่านพระอานนท์กล่าวว่า ดูกรพราหมณ์ถ้าเช่นนั้นฉันจักทูลถามพระผู้มีพระภาค ดังนี้แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคทันที.

            พระผู้มีพระภาคตรัสว่า “ ดูกรอานนท์ถ้าเช่นนั้นพราหมณ์จงตกแต่ง ถวายเถิด.”

            ท่านพระอานนท์ บอกพราหมณ์ว่า “ดูกรพราหมณ์ ถ้าเช่นนั้นท่านตกแต่งถวายได้.”

            จึงพราหมณ์นั้นตกแต่งยาคูและขนมปรุงด้วยน้ำหวานมากมายโดยผ่านราตรีนั้นแล้วน้อมเข้าไปถวายแด่พระผู้มีพระภาคกราบทูลว่า“ ขอท่านพระโคดมโปรดกรุณารับยาคูและขนมปรุงด้วยน้ำหวานของข้าพระพุทธเจ้าด้วยเถิด”.

            พระผู้มีพระภาคตรัสว่า  “ดูกรพราหมณ์ ถ้าเช่นนั้นเธอจงถวายแก่ภิกษุทั้งหลาย”  พราหมณ์จึงนำไปถวาย แต่ภิกษุทั้งหลายรังเกียจไม่รับ  พระผู้มีพระภาคตรัสว่า“ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกเธอจงรับประเคนฉันเถิด.”

            จึงพราหมณ์นั้นอังคาสภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุขด้วยยาคูและขนมปรุงด้วยน้ำหวานมากมายด้วยมือของตนจนยังพระผู้มีพระภาคผู้เสวยเสร็จล้างพระหัตถ์แล้ว ทรงนำพระหัตถ์ออกจากบาตรให้ห้ามภัตรแล้ว จึงนั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง.

ข้าวยาคูมีคุณ๑๐ อย่าง

            พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้กะพราหมณ์นั้นผู้นั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งว่า

“  ดูกรพราหมณ์  ข้าวยาคูมีคุณ ๑๐ อย่าง     ๑๐ อย่างนี้เป็นไฉน คือผู้ให้ข้าวยาคูชื่อว่าให้อายุ ๑  ให้วรรณะ๑  ให้สุข ๑  ให้กำลัง ๑  ให้ปฏิภาณ ๑   ข้าวยาคูที่ดื่มแล้วกำจัดความหิว ๑   บรรเทาความระหาย๑     ทำลมให้เดินคล่อง ๑    ล้างลำไส้ ๑   ย่อยอาหารใหม่ที่เหลืออยู่ ๑      ดูกรพราหมณ์ข้าวยาคู  มีคุณ๑๐ อย่างนี้แล.

            พระผู้มีพระภาคได้ตรัสไวยากรณ์พจน์นี้ครั้นแล้วพระสุคตผู้พระศาสดาจึงได้ตรัสคาถาอนุโมทนานี้ต่อไปในภายหลังว่าดังนี้:-

คาถาอนุโมทนา

            [๖๒] ทายกใดถวายข้าวยาคูโดยเคารพตามกาลแก่ปฏิคาหก

                         ผู้สำรวมแล้วบริโภคโภชนาอันผู้อื่นถวาย ทายกนั้น

                         ชื่อว่าตามเพิ่มให้ซึ่งสถานะ๑๐ อย่างแก่ปฏิคาหกนั้น อายุ

                         วรรณะสุขะ พละ และปฏิภาณ ย่อมเกิดแก่ปฏิคาหกนั้น

                         แต่นั้นยาคูย่อมกำจัดความหิวความระหาย ทำลมให้เดิน

                         คล่องล้างลำไส้ และย่อยอาหาร ยาคูนั้นพระสุคตตรัส

                         สรรเสริญว่าเป็นเภสัชเพราะเหตุนั้นแล มนุษย์ชนที่ต้อง

                         การสุขยั่งยืนปรารถนาสุขที่เลิศ หรืออยากได้ความงามอัน

                         เพริศพริ้งในมนุษย์จึงควรแท้เพื่อถวายข้าวยาคู.

พระพุทธานุญาตข้าวยาคูและขนมปรุงด้วยน้ำหวาน

            [๖๓]ครั้นพระผู้มีพระภาคทรงอนุโมทนาแก่พราหมณ์นั้นด้วย ๓ คาถานี้แล้ว เสด็จลุกจากที่ประทับกลับไป ครั้นแล้วพระผู้มีพระภาคทรงทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้นในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตข้าวยาคู และขนมปรุงด้วยน้ำหวาน.


อ้างอิงที่มา เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๕  บรรทัดที่ ๑๕๐๙ - ๑๕๖๕.  หน้าที่  ๖๑ - ๖๓.

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka1/v.php?B=5&A=1509&Z=1565&pagebreak=0

 ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ : http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=5&i=61

 ศึกษาพระไตรปิฏกฉบับภาษาบาลี อักษรไทย ได้ที่ :-

    [61-63] http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/pali.php?B=5&A=61&Z=63

สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๕

http://www.84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่_๕

http://www.84000.org/tipitaka/read/?index_5

พระพุทธเจ้าเคยตรัสถึง ข้าวยาคูมีคุณ 10 อย่าง คือwww.xn--12ca1db3dh8c4axty1lcdt0o.com

ตามที่เราเคยได้ยินได้ฟังมา ถึงอานิสงส์การให้ทาน ว่า  ผู้ที่ให้ข้าวยาคูแก่ผู้อื่น คือผู้ที่ให้ อายุ วรรณะ สุข กำลัง และ ปฏิภาณผู้มีปัญญา ให้อายุย่อมได้อายุให้กำลังย่อมได้กำลัง ให้วรรณะย่อมได้วรรณะ ให้ปฏิภาณย่อมได้ปฏิภาณ ให้สุข ย่อมได้สุข ครั้นให้อายุ กำลัง วรรณะสุข และ ปฏิภาณ แล้วจะเกิดที่ใดๆ ย่อมเป็นผู้มีอายุยืน มียศในที่นั้นๆ    จากหนังสือพุทธวจน ทาน

ที่มา http://www.yuzuhealthy.com/15305716/ข้าวยาคู

แชร์