ไขความลับพระทิเบตวัย 69 ที่วิทยาศาสตร์ถือว่าเป็น ‘มนุษย์ที่มีความสุขที่สุดในโลก’!?
"Matthieu Ricard" พระวัย 69 ปี ที่ถูกกล่าวขานว่าเป็นชายที่มีความสุขที่สุดบนโลก ผู้ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการการศึกษาด้านสมอง ที่เกี่ยวข้องกับ...สมาธิและความเมตตา http://winne.ws/n5521
ทุกคนล้วนปราถนาที่จะเป็น ‘คนมีความสุข’ แต่ความกดดันและความรับผิดชอบหลายอย่าง ก็มักนำความเครียดมาให้ จนหลายครั้งเราหลงทางและกลายเป็นคนไม่มีความสุขแบบไม่รู้ตัว
บางทีมันก็อดสงสัยไม่ได้ว่า จะมีใครสักคนมั้ยที่มีความสุขกับชีวิตแบบมหาศาล ถึงขนาดที่ถูกเรียกว่าเป็น ‘คนที่มีความสุขที่สุดในโลก’? ซึ่งหากคุณถามคำถามนั้นกับนักวิจัยทางประสาทวิทยาล่ะก็ ชื่อของ ‘Matthieu Ricard’ จะต้องปรากฏให้ได้ยิน เพราะท่านคือบุรุษที่คนในวงการวิทยาศาสตร์ยกย่องว่าเป็นคนที่ ‘มีความสุขที่สุดในโลก’
Matthieu Ricard คือพระแห่งธิเบต ท่านได้ร่วมเข้าการศึกษาสมองกว่า 12 ปี ของโครงการวิจัยมหาวิทยาลัย University of Wisconsin ซึ่งเขาจะต้องถูกวัดระดับความสุขด้วย เซ็นเซอร์ 256 รูปแบบ และนักวิจัยอย่าง Richard Davidson ก็ได้ค้นพบความน่าทึ่งเมื่อ Matthieu Ricard เข้าสู่สภาวะสมาธิและมีระดับความสุข ความอ่อนโยนที่สูงเหนือปกติมาก
โดยในปี 2008 Davidson ได้ให้กลุ่มทดลองจำนวนสองกลุ่มนั่งสมาธิ ซึ่งกลุ่มหนึ่งคือคนที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำสมาธิและอีกกลุ่มคือกลุ่มที่ไม่เคยทำสมาธิมาก่อน ระหว่างที่คนสองกลุ่มกำลังทำสมาธิอยู่นั้น ได้ให้คนสองกลุ่มฟังเสียงที่ทำให้เกิดความเครียดไปด้วย พบว่ากลุ่มที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการทำสมาธิมีการทำงานของสมองส่วนที่เกี่ยวกับความเมตตามากกว่าอีกกลุ่มหนึ่ง ซึ่งคาดว่าเป็นผลมาจากการที่ Richard ได้พัฒนาความสามารถในการเอาชนะความเครียด
นอกเหนือจากนั้น เขายังได้ลองเอาสิ่งต่างๆมาทำให้ Richard เสียสมาธิ เช่น นาฬิกาปลุกดังขึ้นมาโดยไม่ทันตั้งตัว แต่นั่นไม่สามารถทำอะไร Richard ได้ ถ้าเทียบกับคนที่ไม่เชี่ยวชาญด้านการทำสมาธิคงต้องเสียสมาธิเป็นแน่แท้
Richard คว้าตำแหน่ง “มนุษย์ที่มีความสุขที่สุด” หลังการทดสอบหลายครั้งในห้องทดลองเมื่อปี 2547
เพราะฉะนั้นตอนนี้คุณอยากรู้แล้วหรือยังว่าทำไมเขาถึงมีความสุขที่สุดในโลก และสามารถหลีกเลี่ยงความเครียดได้?
Richard ได้ให้เทคนิคกับเรา คือ การ “ปล่อยวาง”
ความลับข้อแรกของการมีความสุข : จงหยุดคิดถึงแต่ ‘ตัวเอง ตัวเอง แล้วก็ตัวเอง’
พระแห่งธิเบตเผยว่ากุญแจของความสุขมันอยู่ที่การไม่เห็นแก่ตัว การคิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเองเป็นสิ่งที่ดูดพลัง และทำให้เครียดมหาศาล ซึ่งมักนำคนส่วนใหญ่ไปพบกับสภาวะไม่มีความสุข “การเอาแต่คิดถึงตัวเรา ตัวเรา แล้วก็ตัวเราทั้งวัน เป็นสิ่งที่ทำให้ทุกข์ได้ง่าย เพราะมันทำให้เรามองสิ่งรอบข้างกลายเป็นศัตรูไปหมด หรือไม่ก็มองทุกอย่างเป็นเรื่องผลประโยชน์ต่อตัวคุณ
ฉะนั้นหากอยากมีความสุข ก็ต้องรู้จักมีเมตตาบ้าง แต่การมีเมตตาไม่ได้หมายถึงการให้คุณทำตัวอ่อนแอ และยอมให้คนอื่นเอารัดเอาเปรียบเช่นกัน “ถ้าหากจิตใจเราเต็มไปด้วยเรื่องความเมตตา,ความปราถนา และความซื่อสัตย์ จิตใจคุณก็จะดี และการที่มีสภาพจิตใจดีก็ย่อมทำให้คุณมีความสุข รู้สึกดีกับชีวิต”
ความลับข้อสอง : จงฝึกฝนจิตใจเหมือนดั่งการวิ่งมาราธอน
Richard เผยว่ามนุษย์ทุกคนล้วนมีความดีในหัวใจ (ยกเว้นแต่ว่าคุณเป็นพวกฆาตกรต่อเนื่อง ซึ่งอาจมีเคมีผิดปกติบางอย่างทำให้สมองผิดปกติ) และหลายคนอาจไม่รู้ว่าจิตใจที่ดีมันก็ต้องอาศัยการฝึกฝนเช่นกัน มันไม่ต่างอะไรจากการวิ่งมาราธอนที่ต้องฝึก ถ้าคุณเริ่มวิ่งมาราธอน แน่นอนว่าคุณอาจไม่ได้เป็นแชมป์โอลิมปิก แต่มันก็สร้างส่วนต่างมหาศาลระหว่างคนที่ได้ฝึก กับคนที่ไม่ได้ฝึก ฉะนั้นการเรียนรู้และฝึกฝนในการหัดรู้จักรักษาสมดุลของอารมณ์,ความสนใจ และความเมตตา จะนำความสุขมาให้ได้มหาศาล
ความลับข้อที่สาม : แต่ละวันให้แบ่งเวลา 15 นาที คิดถึงเรื่องที่ทำให้เรามีความสุข
การแบ่งเวลาสั้นๆ 10-15 นาทีเพื่อนั่งคิดถึงความรู้สึกดีๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน จะช่วยให้จิตใจสดใสขึ้น และยิ่งหากใครแบ่งเวลาอย่างต่อเนื่องสักสัปดาห์ หรือมากกว่านั้นก็จะทำให้กลายเป็นคนที่มีความสุขขึ้นมาก ด้านนักวิจัยประสาทวิทยา Davidson ก็ได้ค้นพบว่าการนั่งสมาธิราว 20 นาทีต่อวันก็เป็นอีกวิธีที่ทำให้ดัชนีความสุขของคนเพิ่มขึ้นเช่นกัน
หลังฝึกเจริญสมาธิภาวนาในกุฏิสงฆ์ที่เนปาลมานานกว่า 35 ปี Richard ก็เชี่ยวชาญเรื่องควบคุมจิตใจ เขาก้าวไกลสู่หนทางแห่งความตื่นรู้ และยืนยันว่า "การฝึกสมาธิ" คือ สิ่งสำคัญที่ช่วยให้บรรลุความสุขแท้จริงอันยั่งยืน
ผลการสแกนสมองพระในพระพุทธศาสนา “การฝึกสมาธิ” ทำให้สมองส่วนความสุขมีขนาดใหญ่กว่าคนปกติ
การฝึกสมาธิ สามารถเปลี่ยนสมอง ความคิดและชีวิตได้
การฝึกสมาธิอย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกวันสามารถเพิ่มขนาดของสมองส่วนความสุขให้ใหญ่ขึ้นได้
"Matthieu Ricard" เขาคือผู้ชายที่มีความสุขมากที่สุดในโลก !!!
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลจาก