อานิสงส์การถวายผ้าอาบน้ำฝนแด่พระภิกษุสงฆ์-สามเณรในพระพุทธศาสนา

อานิสงส์การถวายผ้าอาบน้ำฝนแด่พระภิกษุสงฆ์-สามเณรในพระพุทธศาสนา http://winne.ws/n5517

2.2 พัน ผู้เข้าชม
อานิสงส์การถวายผ้าอาบน้ำฝนแด่พระภิกษุสงฆ์-สามเณรในพระพุทธศาสนา

อานิสงส์ถวายผ้าอาบน้ำฝน....

การถวายผ้าอาบน้ำฝน มีผลานิสงส์อย่างไร เป็นใจความว่า 

ในสมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้า เสด็จประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร ณ กรุงสาวัตถีในวันนั้นเป็นวัน ๘ ค่ำ นางวิสาขาได้ให้คนรับใช้ ไปนิมนต์พระภิกษุที่วัด บังเอิญฝนตก พระภิกษุทั้งหลายได้เปลือยกายอาบน้ำฝนกันมากมาย คนรับใช้ของนางวิสาขาเห็นเช่นนั้นแล้วก็เกิดความตกใจและกลับไปเรียนเจ้านายว่าไม่เห็นพระภิกษุเลย นางวิสาขาให้เดินทางไปดูใหม่ ถึง 2 รอบ ความนี้จึงทราบถึงนางวิสาขาและเกิดความละอายห่วงใย และคิดในใจว่าพระภิกษุไม่มีผ้าสำหรับอาบน้ำฝน ก็บังเกิดมีจิตศรัทธา คิดจะสร้างผ้าอาบน้ำฝนถวายเป็นทานแล้วก็กลับไปสู่กรุงสาวัตถี 

จัดแจงหาผ้าได้พอสมควรแล้วพอตอนเย็นก็พาบริวาร และผ้านั้นมาสู่สำนักพระพุทธองค์แล้วถวายผ้าอาบน้ำฝนนั้น แก่องค์พระบรมศาสดาพร้อมทั้งภิกษุทั้งหลาย แล้วกราบทูลถามว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ 

การถวายผ้าอาบน้ำฝนนี้มีผลานิสงส์เป็นอย่างไร พระเจ้าข้า พระองค์ได้ตรัสเทศนาว่า ดูกรนางวิสาขา ถ้าบุคคลใดมีจิตศรัทธานำผ้าอาบน้ำฝนมาถวายแก่พระภิกษุ ในพุทธศาสดาจะมีผลานิสงส์เป็นอเนกประการแล้วพระองค์ทรงนำเรื่องในอดีตมาแสดงต่อไปว่า

ในศาสนาพระกัสสปสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น มีหญิงเข็ญใจคนหนึ่ง มีนามว่า อมัยทาสี (นางทาส)อยู่มาวันหนึ่งนางได้ เห็นคนทั้งหลาย นำผ้ากาสาวพัสร์ไปสู่สำนักภิกษุสงฆ์ให้เป็นทาน โดยกระทำให้เป็นผู้อาบน้ำฝน นางอมัยทาสีก็มีศรัทธาอยากจะทำบุญกับเขาบ้าง นางก็คิดว่าจะทำอย่างไรดีหนอ ที่เราจะได้ทำบุญใน คราวนี้บ้าง พิจารณาผ้าที่จะให้ทานก็ไม่มีรีบไปหามารดา แล้วบอกความจำนงของตนให้มารดา มารดาก็ตอบว่า เราจะเอามาแต่ที่ไหน เราก็เป็นทาสเขาอยู่       นาง อมัยทาสี เมื่อได้ยินดังนี้น้ำตาก็ไหลด้วยความเสียใจ 

อานิสงส์การถวายผ้าอาบน้ำฝนแด่พระภิกษุสงฆ์-สามเณรในพระพุทธศาสนา

มารดาของนางก็มีจิตสงสาร จึงแนะนำให้นางอมัยทาสีไปขึ้นค่าตัวกับนายนาง เมื่อได้รับคำแนะนำ เช่นนั้นแล้วนางก็มีความยินดีจึงรีบไปหานายของนาง ฝ่ายเศรษฐีผู้เป็นนายก็ปฏิเสธ ไม่ยอมให้ นางอมัยทาสี ขึ้นค่าตัว นางไม่มีความสบายใจนางมาคิดว่าเมื่อชาติก่อนนี้เราไม่ทำบุญให้ทาน มาชาตินี้เราจึงได้ตก ระกำลำบาก ถึงเวลาจะทำบุญกับเขาบ้างก็จะไม่ทำกับเขาคราวนี้จะเป็นตายอย่างไรจะต้องขอทำบุญให้ได้ในครั้งนี้ 

ด้วยจิตศรัทธาแรงกล้านางอมัยทาสีทนความอับอาบขายหน้า ได้สละผ้าห่มแล้วนำใบไม้มา เย็บกลัดพอปกปิด บรรเทาความอายแล้วเอาผ้าซักฟอกให้หมดความสกปรกแล้วนำดอกไม้ธูปเทียน พร้อมด้วยผ้าไปสู่ธรรมศาลาถวายผ้าอาบน้ำฝนนั้นในวันแรม ๘ ค่ำ เดือน ๗ ก่อนเข้าพรรษาพร้อมกับ มหาชนทั้งหลาย แล้วตั้งความปรารถนาว่า 

ด้วยอานิสงส์ที่ตนได้กระทำบุญในคราวครั้งนี้ ขึ้นชื่อว่า ความยากจนเข็ญใจไร้ทรัพย์อย่าได้มีในชาติต่อ ๆ ไป จนถึงพระนิพพาน และขอให้พบพระศาสนา พระศรีอริยเมตไตรย์ เมื่อคำปรารถนาของนางจบลงแล้ว เทวดาทั้งหลายก็แซ่ซ้องสาธุการสนั่นหวั่นไหว  

ด้วยอานิสงส์ของนางอมัยทาสีทำบุญในคราวครั้งนั้น อยู่มาได้ ๗ วัน พระเจ้าพันธุมหาราช ได้เสด็จไป พบนางกำลังหาบฟืนมาในระหว่างทางก็เกิดความปฏิพัทธ์รักใคร่ในตัวนางมาก จึงตรัสปราศรัยไต่ถาม ความตลอดแล้วจึงยกนางขึ้นราชรถนำเข้าไปสู่พระนคร อภิเษกนางให้อยู่ในตำแหน่งอัครมเหสี 

ครั้น ทำลายขันธ์แล้วนางได้ไปเกิดบนสวรรค์มีวิมานทองสูง ๑๕ โยชน์ มีนางฟ้าเป็นบริวาร ๓ พัน ครั้น เสวยทิพย์สมบัติแล้วจนในชาติสุดท้ายนางจะได้เกิดในศาสนาพระศรีอริยเมตไตรย์ได้บรรลุธรรมพิเศษ ดังนี้แล พระองค์ได้ทรงแสดงพระธรรมเทศนาจบลงแล้ว ชนทั้งหลายก็ได้ดวงตาเห็นธรรมจำนวนมาก

อานิสงส์แห่งบุญ ตอน ประติมากรรมผ้าอาบน้ำฝน ผลบุญจากการถวายผ้าอาบน้ำฝน

สรุปอานิสงส์เป็นข้อ 

1. ได้ผ้าทิพย์เมื่อละโลกไปแล้ว 

2. ไม่ขัดสนเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม 

3. จะมีผิวพรรณ วรรณะผ่องใส ดังคำกล่าวที่ว่า ให้ผ้าชื่อว่าให้วรรณะ นั่นเอง

อ้างอิง:http://www.84000.org/anisong/13.html

ขอบคุณภาพจากwww.google.com

แชร์