นกฮูกเจ็บหนักเจียนตาย โผเข้ากอดอย่างอบอุ่น กับชายผู้ให้ชีวิตใหม่ นี่แหละความกตัญญูของนก

นกฮูกเจ็บหนักเจียนตาย โผเข้ากอดอย่างอบอุ่น กับชายผู้ให้ชีวิตใหม่นี่แหละความกตัญญูของนก แม้เป็นสัตว์ยามทุกข์ก็หาที่พึ่ง สิ่งที่ต้องการคือความปลอดภัยจากผู้ที่ช่วยเหลือด้วยความรักความเมตตาจากใจจริง มิได้หวังสิ่งตอบแทน http://winne.ws/n4241

967 ผู้เข้าชม
นกฮูกเจ็บหนักเจียนตาย โผเข้ากอดอย่างอบอุ่น กับชายผู้ให้ชีวิตใหม่ นี่แหละความกตัญญูของนก

นกฮูกจำชายที่เคยช่วยชีวิตเอาไว้ได้ เมื่อไม่ได้เจอก็คิดถึงสุดหัวใจ พอได้เจอก็โผเข้ากอดอิงแอบแนบชิด บุญคุณที่เคยมอบให้ไม่เคยลืมเลือน

         เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2559

         เจ้าฮูกกีกีถูกส่งตัวมาอยู่ที่สถานสงเคราะห์สัตว์ Wild at Heart Rescue ในรัฐมิสซิสซิปปี สหรัฐอเมริกา ครั้งแรกเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม หลังจากได้รับบาดเจ็บอย่างหนักสภาพน่าเวทนามาก ที่หัวของมันถูกกระทบกระแทกอย่างแรง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นเพราะมันถูกรถชน นอกจากนี้ ตามตัวของมันยังถูกปรสิตเจาะไชมากมาย อีกทั้งสัตวแพทย์ยังตรวจพบว่ามันเป็นโรคแอสเปอร์จิลโลสิส (Aspergillosis) หรือปอดอักเสบจากเชื้อรา ซึ่งคล้าย ๆ กับโรคปอดบวมในคนเผยเรื่องราวสุดอบอุ่นชวนให้น่าประทับใจของเจ้า กีกี นกฮูกเพศเมียขนาดใหญ่ที่อาศัยอยู่อย่างลำพังมาตลอดชีวิต จนกระทั่งวันหนึ่งที่มันบาดเจ็บหนักเจียนตายจนได้มาเจอกับมนุษย์ใจดี ที่พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อจะช่วยชีวิตมันกลับมาให้ได้ จนบังเกิดเป็นความรักความผูกพันแบบไม่มีเงื่อนไข และแม้ว่าเวลาผ่านไปก็ไม่มีวันลืมเลือน

         ระหว่างที่เจ้ากีกีอยู่ในขั้นตอนการรักษา มันน่าสงสารมาก น้ำหนักตัวของมันหายไปฮวบฮาบ ในขณะที่น้ำหนักของนกฮูกตามปกติแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 1-2.2 กิโลกรัม ดูบิสสัน เจ้าหน้าที่ผู้ดูแลฮูกกีกีเผยว่า ฮูกตัวนี้นับว่าเป็นหนึ่งในเคสที่มีอาการหนักเข้าขั้นวิกฤตมากที่สุดตัวหนึ่งเลย หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ การจะรักษาให้มีชีวิตรอดได้ เป็นเรื่องที่เหนือความคาดหมายมาก    

นกฮูกเจ็บหนักเจียนตาย โผเข้ากอดอย่างอบอุ่น กับชายผู้ให้ชีวิตใหม่ นี่แหละความกตัญญูของนก

 อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะไม่มีใครในสถานสงเคราะห์แห่งนี้สามารถช่วยรักษาให้มันหาย และกลับไปแข็งแรงเหมือนเดิมได้ ทว่าดักลาส ประธานศูนย์สงเคราะแห่งนี้ยังคงมีความหวัง เชื่อว่ายังพอมีหนทางสามารถรักษาเจ้ากีกีได้อยู่ และหลังจากที่ดักลาสตัดสินใจเป็นผู้ดูแลเจ้ากีกีด้วยตนเอง จากสภาพที่แย่เจียนตายก็ค่อย ๆ ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ จนมันเริ่มใช้เท้าหยิบอาหารกินเองได้ 

เจ้าหน้าที่ดูบิสสันเผยว่า ตลอดชีวิตการทำงานช่วยเหลือนกมา ยังไม่เคยเห็นใครที่มีความผูกพันกับนกตัวใหญ่มากเท่าดักลาสมาก่อนเลย

         หลังจากนั้นดักลาสก็จำเป็นต้องห่างกับเจ้ากีกีชั่วคราว เพื่อไปร่วมทริปท่องเที่ยวกับครอบครัวที่รัฐมิชิแกน แต่เมื่อดักลาสกลับมาเขาก็ต้องพบกับสิ่งที่น่าอัศจรรย์มาก ๆ เมื่อเจ้ากีกีเข้ามาทำหัวผลุบ ๆ โผล่ ๆ ใส่เขา พร้อมทั้งเต้นระบำรอบแขน ประหนึ่งเป็นการต้อนรับการกลับมาของเขา จากนั่นมันก็ค่อย ๆ ตะกายขึ้นไปบนหน้าอกของเขา เอาหัวไปซบบ่า ปล่อยปีกให้ห้อยโอบร่างของเขาไว้ ใบหน้าของมันช่างแสดงออกถึงความสุขและอบอุ่นจนไม่มีคำบรรยายเลยจริง ๆ

นกฮูกเจ็บหนักเจียนตาย โผเข้ากอดอย่างอบอุ่น กับชายผู้ให้ชีวิตใหม่ นี่แหละความกตัญญูของนก

ดักลาสเผยว่า ความรู้สึกที่เจ้ากีกีโผกอดเขามันเป็นความรู้สึกที่พิเศษและมีความหมายกับเขามากจริง ๆ เขาเล่าว่า ตั้งแต่เด็กจนโต เขาเคยรู้จักนกฮูกอยู่ตัวหนึ่ง มันชอบบินมาเกาะที่โรงนาของครอบครัว พ่อก็เลยชอบดูนกฮูก จนทำให้คนอื่น ๆ พลอยชอบไปด้วย จนกระทั่งเช้าวันที่พ่อของเขาจากไป เจ้านกฮูกตัวนี้ก็มาเกาะมอง ก่อนจะบินหายเข้าไปในป่า เพราะฉะนั้นการที่นกฮูกกีกีกอดตัวเขา เขารู้สึกเหมือนพ่อกำลังโอบกอดเขาไว้อยู่

         หลังจากเวลาผ่านไป ในที่สุดเจ้ากีกีก็ได้รับการรักษาจนหายกลับมาเป็นปกติ และถึงเวลาที่จะต้องปล่อยมันคืนกลับป่า ตอนนั้นเจ้ากีกีก็ได้เอาหัวมาอิงแอบกับดักลาส นาทีนั้นทำเอาเจ้าหน้าที่ดูบิสสันและคนอื่น ๆ ที่ได้เห็นภาพนี้ต่างพากันกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ซึ้งใจในมิตรภาพและความเชื่อใจที่แสนงดงามระหว่างทั้งคู่เช่นนี้

ภาพจาก

เฟซบุ๊ก Wild at Heart Rescue

ที่มา http://hilight.kapook.com/view/137952

นกฮูกเจ็บหนักเจียนตาย โผเข้ากอดอย่างอบอุ่น กับชายผู้ให้ชีวิตใหม่ นี่แหละความกตัญญูของนก
แชร์