หลังจากที่ยาน Crew Dragon ได้ขึ้นสู่อวกาศ เมื่อ 3 วันที่แล้ว ในเที่ยวบินแรกของพานักบินอวกาศที่เป็นพลเรือนขึ้นท่องเที่ยวในอวกาศ เหนือวงโคจรของสถานีอวกาศ ISS และกล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล โดยได้ลอยอยู่ในอวกาศเป็นเวลา 3 วัน

ในช่วงเช้าที่ผ่านมา (ตามเวลาประเทศไทย) ยานอวกาศ Crew Dragon ได้ลงสู่พื้นโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในมหาสมุทร แอตแลนติกนอกชายฝั่ง Kennedy Space Center รัฐฟลอริดา สหรัฐฯ

ซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์โลกในรายประเด็นด้วยกัน เช่น เป็นการขึ้นไปท่องเที่ยวอวกาศครั้งแรกของพลเรือน และได้มีการโครจรรอบโลก, มีพลเรือนชาวอเมริกันที่อายุน้อยที่สุดในโลกที่ได้ขึ้นสู่วงโคจรรอบโลก และยังเป็นผู้ที่มีอวัยวะเทียมเป็นคนแรกอีกด้วยที่ได้ขึ้นสู่อวกาศ

โดยในการกลับจากวงโคจรในครั้งนี้ ยาน Crew Dragon เคลื่อนและเสียดสีกับชั้นบรรยากาศโลกทำให้พื้นผิวภายนอกยานมีความร้อนกว่า 1,900 องศาเซลเซียส แต่ภายในยานอวกาศนั้น มีอุณหภูมิอยู่ที่ราว 29 องศาเซลเซียสเท่านั้น ด้วยฉนวนกันความร้อนแบบพิเศษ รวมถึงชุดนักบินอวกาศที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้เย็นอยู่เสมอ แม้ว่าห้องโดยสารจะร้อนขึ้น

โดยในเที่ยวบินอวกาศของพลเรือนเที่ยวบินแรกนี้ นักบินทั้ง 4 คนที่มีสุขภาพปลอดภัยดี ซึ่งในช่วง 3 วันที่ผ่านมาหลังจากอยู่ในวงโคจรของโลก ทาง SpaceX ไม่ได้มีการถ่ายทอดสดบรรยากาศบนยาน Crew Dragon มากนัก ด้วยเหตุผลหลายประการ แต่ลูกเรือทั้งหมดในเที่ยวบินนี้ก็ได้รับประสบการณ์ดี ๆ อย่างมากในการใช้ชีวิตอยู่ในวงโคจรในครั้งนี้ โดยเฉพาะยาน Crew Dragon ที่มีโดมกระจกขนาดใหญ่ สามารถเปิดให้ดูบรรยากาศในอวกาศได้แบบ 360 องศา

โดยเฉพาะจาเร็ด ไอแซคแมน มหาเศรษฐีผู้เป็นผู้บัญชาการในเที่ยวบินนี้ หลังจากที่ได้เดินออกมาจากแคปซูล Crew Dragon ถึงกับยิ้มไม่หุบ กับประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

ในขณะเดียวกัน ในโครงการนี้ ยังได้มีการระดมทุนในการช่วยเหลือโรงพยาบาลเซนต์จูด ในสหรัฐฯ ซึ่งได้ตั้งเป้าในการระดมทุนจำนวน 200 ล้านเหรียญฯ ซึ่งมหาเศรษฐี จาเร็ด ไอแซคแมน ได้บริจาคไว้เริ่มต้นในโครงการนี้ จำนวน 100 ล้านเหรียญฯ และหลังจากที่ได้เปิดระดมทุนที่มีการตั้งเป้าไว้อีก100 ล้านเหรียญฯ นั้นมีผู้ร่วมสมทบทุนอีกกว่า 60 ล้านเหรียญฯ

ขอบคุณภาพและเนื้อหา MTHAI