เราก็ใช้ "มือถือ" ทำงานนะ แต่ทำไมถึงมองว่า...เล่นแต่โทรศัพท์ ?
เวลาของเราเอง เราเลือกได้ว่าจะใช้มันยังไง ให้มีเวลามากพอในการใช้ชีวิตและตอนนี้สิ่งที่สำคัญคืออะไร ให้ชีวิตได้ไปต่อขอปิดท้ายด้วยคำพูดของ ดร.ชัชชาติ ว่าหัวใจของการแบ่งเวลาคือ การปรับนิสัย" http://winne.ws/n28101
ทำไมเอาแต่เล่นโทรศัพท์ละ ? เอ๊ะ เราก็ใช้มือถือทำงานนะ ทำไมหลายคนถึงมองว่า มือถือไว้ใช้แต่เล่นเกมส์ เล่นโซเชียลกันละ
เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนน่าจะเคยอ่านบทความตามเพจต่าง ๆ มักจะบอกว่า
ไม่ควรใช้โทรศัพท์เยอะ ควรงดไปเลยหรือไม่ก็ เธอติดโซเชียลมากไปหรือเปล่า
"ติดมากไป ใช้มากไป ไม่ดีนะ"
"ต้องทำ Social Detox บ้างนะ"
บางครั้ง เราก็จะอดคิดไม่ได้ว่าก็เราใช้ในการทำงานนี่ งดไม่ได้หรอก
นายกำลังตัดสินว่าเราติดมือถือ ใช้เวลากับเรื่องที่ไม่มีสาระสำคัญอยู่นะ
อะ ๆ เกลาจะบอกให้ใจเย็นกันนิดนึงเพราะความสุดโต่งเป็น "นิสัย อันตราย" อย่างหนึ่ง"หาหินก้อนใหญ่ของเราให้เจอ ว่ามันคืออะไร"
ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธ์ เคยกล่าวไว้ในงาน KLAOSHOW 2017
>> https://bit.ly/3zna8Zd << และในรายการ THE MENTOR ก็มีเพื่อนเกลาถามในประเด็นนี้เหมือนกัน
หินก้อนใหญ่ในที่นี่มาจากทฤษฎีโหลแก้วชีวิต, ทฤษฎีกระปุกทราย, หรือ The Jar of Lifeที่ว่าด้วย หากเปรียบเวลาชีวิตของเราเป็นโหลแก้ว 1 ใบ มีขนาดเท่า ๆ กับของเพื่อนเรา"หินก้อนใหญ่" เปรียบเสมือน สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเราในเวลานี้
อาจจะเป็นเรื่อง งานที่สำคัญเร่งด่วน การศึกษาเล่าเรียนสุขภาพ ความสัมพันธ์ กิจกรรมเพื่อมวลชนและสังคม หรือเรื่องดูแลรักษาใจซึ่งสิ่งที่สำคัญของเรากับของแต่ละคนก็มักไม่เหมือนกัน
"กรวด/หินก้อนเล็ก" คือ สิ่งที่สำคัญรองลงมาในชีวิต เรื่องทั่วไปและก็ "ทราย" สิ่งที่ไม่สำคัญ สิ่งที่แทรกอยู่ระหว่างวัน ทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้หน้าที่ของเราคือ นำสิ่ง 3 สิ่งนี้ ไปใส่ในโหลแก้วของชีวิต หรือบรรจุในเวลาของชีวิตเรา
และเราเชื่อว่า หลายคนคงจะเห็นการสาธิตนำของ 3 อย่างนี้ลงโหลมากันแล้วว่าเป็นอย่างไรถ้าเราใส่ "ทราย" ที่เปรียบเสมือนสิ่งที่ไร้ความสำคัญมากไปก่อน พอใส่เข้าไปทรายจะกินที่โหลหมด"กรวด" กับ "หินก้อนใหญ่" จะไม่มีที่ใส่หรือใส่ลงไปไม่ได้กลายเป็นว่า เราใช้เวลากับสิ่งที่เป็นทรายมากกว่าอย่างอื่นจนไม่มีเวลา
แต่ถ้าในโหลแก้วชีวิตเรา เราเอา "หิน" ใส่เข้าไปก่อนนะและค่อยเอา "กรวด" โรยในช่องว่างระหว่างหินคราวนี้ "ทราย" ก็จะมีที่ไป มันก็จะไปแทรกตามช่องว่างของความสำคัญต่าง ๆ ได้เอง
มาถึงจุดนี้แล้ว เกลา อยากให้เพื่อน ๆ พิจารณาให้ดีว่า อะไรคือ "หินก้อนใหญ่ในชีวิตเรา"โทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน เป็นมากกว่าเครื่องมือสื่อสาร เราใช้งานมันได้ทั้งเป็นประโยชน์ และเป็นโทษแก่ตัวเรา รวมทั้งผู้อื่นด้วยนะ
บางคนใช้มันสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ บ้างก็ใช้ทำงาน ติดต่อสื่อสารด้วยความว่องไวบ้างก็ทำให้พลเมืองดี ใช้เป็นหลักฐานในการร้องทุกข์ เป็นหลักฐานจับคนร้ายได้อย่างแน่นหนาแน่นอนว่า ก็ทำลายชีวิตของหลาย ๆ คน ที่ใช้มันอย่างเป็นโทษไม่เกิดประโยชน์แก่ตัวเขาเอง
สิ่งที่สำคัญ และไม่สำคัญของแต่ละคนนั้นต่างกันเราหยิบมือถือขึ้นมาใช้เหมือนกัน แต่เราใช้งานไม่เหมือนกันบางคนอาจจะใช้เวลากับมันเป็น "ทราย" ในมุมมองของเรา
แต่สำหรับเขานั้น อาจจะเป็น "หินก้อนใหญ่" หรือ "กรวด" ก็ได้ฉะนั้น ถ้าในเมื่อเราใช้โทรศัพท์ทำงาน แล้วมีคนมาว่าเราเอาแต่เล่นโทรศัพท์เราก็คงไม่พอใจเหมือนกันที่มาตัดสินแบบนี้ อยู่ที่ว่าเราจะปรับความเข้าใจกับคนนั้นยังไง
เคยมีเคสของคุณพยาบาลที่ใช้โทรศัพท์ และมีคนนำไปโพสต์วิจารณ์ว่า ไม่ทำงานและต่อมาก็พิสูจน์ได้ว่า คุณพยาบาลใช้โทรศัพท์ ในการตอบไลน์สื่อสารกันระหว่างทำงานนะ
เห็นได้ว่าเรื่องของการเข้าใจผิด จากการตัดสินกันจากการใช้สิ่งของนี่ง่ายมากเลยในเมื่อหินก้อนใหญ่ กรวด และทราย ของแต่ละคนไม่เหมือนกันเราต่างหากละที่รู้ดีว่า เรากำลังทำอะไร เราอะไรใช้เวลาอยู่กับอะไร
เมื่อไหร่ที่เรากำหนด "หินก้อนใหญ่" ได้ เราก็จะจัดลำดับความสำคัญกับมันได้ในชีวิตพิจารณาและทบทวนอยู่เสมอว่าเรากำลังใช้มันในสิ่งที่เป็นสาระในตอนนี้นะ ในตอนนี้เราอยากผ่อนคลายนะ
เวลาของเราเอง เราเลือกได้ว่าจะใช้มันยังไง ให้มีเวลามากพอในการใช้ชีวิตและตอนนี้สิ่งที่สำคัญคืออะไร ให้ชีวิตได้ไปต่อขอปิดท้ายด้วยคำพูดของ ดร.ชัชชาติ ว่าหัวใจของการแบ่งเวลาคือ การปรับนิสัย"เวลาส่วนใหญ่ ถูกใช้ไปโดย นิสัย ของเราจะจัดแบ่งเวลาให้ดีได้ ต้องเริ่มจากนิสัยที่ดีก่อน"
หวังว่า เพื่อน ๆ ทุกคน คงจะรู้แล้วว่าอะไรคือ "หินก้อนใหญ่" ในตอนนี้ และจะจัดการยังไงกับมันและเข้าอกเข้าใจคนรอบข้างว่า เราเองต่างมีการจัดการเวลาในชีวิตที่ต่างกันคิดเห็นอย่างไร กับประเด็นนี้ ในร่วมพูดคุยคอมเมนต์และแชร์ให้เพื่อน ๆ รอบตัวมาพูดคุยกันได้เลยนะครับ