กาฝาก แย่งอาหารต้นไม้ใหญ่ให้ถึงตายได้ แต่ก็มีหลากหลายสรรพคุณยาสมุนไพร

กาฝาก เป็นพืชที่อาศัยเกาะขึ้นกับพืชอื่น และแย่งอาหารจากพืชที่เกาะอยู่และบางชนิดก็แย่งอาหารจากพวกกาฝากด้วยกัน พืชพวกกาฝากจะมีรากชนิดหนึ่งเรียกว่า รากเบียนที่แทงทะลุเปลือกไม้เข้าไปถึงขั้นเยื่อสร้างความเจริญเติบโตของพืชที่อาศัยอยู่ http://winne.ws/n21897

2.9 หมื่น ผู้เข้าชม
กาฝาก แย่งอาหารต้นไม้ใหญ่ให้ถึงตายได้ แต่ก็มีหลากหลายสรรพคุณยาสมุนไพรแหล่งภาพจาก plant21894.blogspot.com

กาฝาก มีความหมายตามพจนานุกรมแปล ไทย-ไทย ราชบัณฑิตยสถานว่า 

       เป็นคำนาม เรียกชื่อพืชเบียน(ทำให้ตาย) หลายชนิดในหลายวงศ์ที่อาศัยเกาะดูดน้ำและแร่ธาตุ หรือสารอาหารที่สังเคราะห์แล้วจากพรรณไม้อื่น ส่วนใหญ่มักใช้เรียกไม้พุ่มที่อาศัยเกาะเบียน(ทำให้ตาย) ไม้ต้นชนิดต่าง ๆ ในวงศ์ Loranthaceae Santalaceae และ Viscaceae.

        กาฝาก (อังกฤษ: parasites) เป็นพืชใบเลี้ยงคู่ในวงศ์ Loranthaceae อันดับ Santalales สกุล Loranthaceae ชื่อไทยว่า "กาฝากของส้มโอ" ชื่อท้องถิ่น เดี้ยงแปงซ่าง(เมี่ยน)มักอาศัยเกาะขึ้นกับพืชอื่น และแย่งอาหารจากพืชที่เกาะอยู่และ บางชนิดก็แย่งอาหารจากพวกกาฝากด้วยกันพืช กาฝากต้องพึ่งพาต้นไม้อื่นในการดำรงชีวิต เพราะมันไม่สามารถเกาะอยู่บนต้นไม้อื่นเฉย ๆ แบบกล้วยไม้ ว่านไก่แดง หรือนมตำเรีย

        ซึ่งเป็นพืชอิงอาศัย (epiphyte) แต่มันจะต้องแทงรากเข้าไปในท่อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุของต้นไม้อื่นนั้น เพื่อแย่งเอามาเป็นอาหารของมัน เพราะกาฝากเป็นพืชเบียน (parasite) บนคาคบไม้ จึงแตกต่างจากกล้วยไม้และพืชอิงอาศัยอื่น ๆ

         กาฝากเป็นพืชที่มีเนื้อไม้แข็ง มีใบเขียวชอุ่ม และผลัดใบตามฤดูกาล จากลักษณะของลำต้น กาฝากเป็นไม้พุ่มที่มีกิ่งก้านสาขามากมาย มีใบเป็นใบเดี่ยวที่ติดเรียงแบบตรงกันข้าม (opposite)ขอบใบเรียบ เนื้อใบเหนียวหนา บางชนิดมีใบกว้าง แต่บางชนิดมีใบแคบ พวกกาฝากจะมีรากชนิดหนึ่ง เรียกว่า รากเบียน (haustoria) ที่แทงทะลุเปลือกไม้เข้าไปถึงขั้นเยื่อสร้างความเจริญเติบโต (Cambium) ของพืชที่เกาะอาศัยอยู่ 

ดอกกาฝาก

กาฝาก แย่งอาหารต้นไม้ใหญ่ให้ถึงตายได้ แต่ก็มีหลากหลายสรรพคุณยาสมุนไพรแหล่งภาพจาก thaiforestherbs - Blogspot

กาฝาก เป็นพืชที่อาศัยเกาะขึ้นกับพืชอื่น และแย่งอาหารจากพืชที่เกาะอยู่และบางชนิดก็แย่งอาหารจากพวกกาฝากด้วยกัน พืชพวกกาฝากจะมีรากชนิดหนึ่งเรียกว่า รากเบียนที่แทงทะลุเปลือกไม้เข้าไปถึงขั้นเยื่อสร้างความเจริญเติบโตของพืชที่อาศัยอยู่ 

กาฝากแบ่งออกเป็น 2 พวกคือ

        1. พวกเบียนลำต้นเป็นพืชในวงศ์ลแรนทาซิอีซึ่งมีหลายสกุล และมากมายหลายชนิด พบขึ้นทั่วไปตามต้นไม้ต่างๆ และมักเรียกชื่อตามต้นไม้ที่เกาะเบียนอยู่ เช่น กาฝาก มะม่อง กาฝากก่อตาหมู เป็นต้น

         2. พวกเบียนรากมีหลายวงศ์ เช่น วงศ์ขนุนดิน อาศัยเกาะกินรากต้นไม้ป่าชนิดต่างๆ ตัวอย่างเช่น ขนุนดินลําต้นแยกแขนงสั้นๆ ชิดกันเป็นกระปุกใหญ่สีน้ำตาล ผิวขรุขระ ส่วนโหราเท้าสุนัข ซึ่งใช้เป็นสมุนไพรชนิดหนึ่งนั้น ลำต้นแยกแขนงข้อนข้างห่างกัน วงดอกดิน อาศัยเกาะกินอาหารจากรากไผ่ วงบัวผุด ได้แก่ กระโถนฤาษี ดอกตูม และ ก้อนกลมๆ สีขาว เวลาบานจะเห็นภายในเป็นสีน้ำหมากประเหลือง กลิ่นไม่ชวนดม 

       แล้วกระบวนการไหนหรือใครที่เป็นตัวขยายพันธุ์กาฝากให้ไปเกาะต้นโน้นต้นนี้สัตว์ชนิดนั้่นคือนกกาฝากหรือนกสีชมพูสวนนั่นเอง(http://plant21894.blogspot.com/2017/02/blog-post_32.html)

กาฝาก แย่งอาหารต้นไม้ใหญ่ให้ถึงตายได้ แต่ก็มีหลากหลายสรรพคุณยาสมุนไพรแหล่งภาพจาก sites.google.com

         กาฝากเป็นพืชในวงศ์ลอแรนทาซิอี (Loranthaceae) ซึ่งมีหลายสกุล และมากมายหลายชนิด พบขึ้นทั่วไปตามต้นไม้ต่าง ๆ และมักเรียกชื่อตามต้นไม้ที่เกาะเบียนอยู่ เช่น กาฝาก มะม่วง กาฝากก่อตาหมู เป็นต้น

        ดอกกาฝากมีทั้งที่เป็นดอกเดี่ยวและดอกช่อที่ติดกันเป็นกลุ่ม(dichasium) ขึ้นอยู่กับชนิดของกาฝาก เมื่อนำดอกกาฝากมาพิจารณาดู จะเห็นว่า ดอกกาฝากมีกลีบเรียงเป็น 2 วงชั้น กลีบใน (petal) มี 2-3 กลีบ กลีบนอก (sepal) มี 2-3 กลีบเช่นกัน

        ผลของกาฝากมักมีสีขาว มีเปลือกเหนียว หรือแข็ง ภายในมีเมล็ดเพียงเมล็ดเดียว ซึ่งมีเมือกเหนียวๆห่อหุ้มไว้ เมือกเหนียวๆ นี้เองที่ทำให้เมล็ดกาฝากเกาะติดอยู่บนกิ่งไม้ได้นานๆและเหนียวแน่น จนกว่าจะงอกเป็นต้นกาฝากเล็กๆ มีรากเจาะดูด (haustoria) แทงเข้าไปในท่อลำเลียงน้ำและแร่ธาตุของต้นไม้ได้

กาฝากมะม่วง

กาฝาก แย่งอาหารต้นไม้ใหญ่ให้ถึงตายได้ แต่ก็มีหลากหลายสรรพคุณยาสมุนไพรแหล่งภาพจาก สมุนไพร

        เมล็ดกาฝากไม่สามารถแพร่พันธุ์ได้เอง ถ้าหากผลสุกจนแก่จัด จะร่วงหล่นลงสู่พื้นดิน ถึงจะร่วงหล่นลงบนกิ่งไม้บ้าง แต่ผลนั้นยังมีเนื้อผลไม้หุ้มเมล็ดอยู่ จึงไม่มีวันที่เมล็ดกาฝากจะไปติดอยู่ตามกิ่งไม้ต่างๆได้เลย นอกจากจะอาศัยนกเท่านั้น เพราะนกจะกินผลกาฝากเข้าไปเป็นอาหาร แล้วถ่ายเมล็ดกาฝากออกมาพร้อมกับมูลของมัน นกที่ช่วยแพร่พันธุ์ให้กับต้นกาฝาก คือ นกกาฝาก (Flowerpeckers) 

       เนื่องจากเมล็ดกาฝากมียางเหนียว ๆ หุ้มอยู่ จึงติดอยู่ที่ปากของนก ทำให้นกเกิดความรำคาญ ต้องเอาปากไปเช็ดกับกิ่งไม้ที่มันเกาะ จนเมล็ดกาฝากติดอยู่กับกิ่งไม้ แล้วงอกงามเป็นต้นกาฝากเกาะกินต้นไม้นั้นในเวลาต่อมา ในขณะที่นกเหล่านี้สอดจะงอยปากเข้าไปดูดกินน้ำหวานในกรวยดอกกาฝาก ละอองเกสรตัวผู้จะติดตามปากและขนบริเวณหน้าผากของนก เมื่อนกเหล่านี้สอดจะงอยปากเข้าไปดูดกินน้ำหวานในดอกกาฝากดอกอื่น ละอองเกสรตัวผู้จึงร่วงหล่นและผสมกับเกสรตัวเมียในดอกกาฝากดอกนั้น ทำให้กาฝากต้นนั้นติดผลได้ ในทางชีววิทยาถือว่าเป็นการพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันระหว่างนกกับต้นกาฝากแบบชั่วคราว [1] (อ่านต่อได้ที่ วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี)

นกกาฝาก ชื่อนกสีชมพูสวน

กาฝาก แย่งอาหารต้นไม้ใหญ่ให้ถึงตายได้ แต่ก็มีหลากหลายสรรพคุณยาสมุนไพรแหล่งภาพจาก bloggang.com

นกกาฝาก (Flowerpecker) เป็นนกในวงศ์ Dicaeidae ที่มีขนาดตัวเล็กมาก ส่วนมากจะมีความยาวตัวไม่เกิน 10 เซนติเมตร มีปากสั้น หางสั้น ชอบหากินบนยอดไม้

          นกในวงศ์นกกาฝาก นี้ มีด้วยกันทั้งหมด 54 ชนิด แต่ที่พบในเมืองไทย มี 10 ชนิด ที่รู้จักกันดีมากที่สุดคือ นกสีชมพูสวน (Dicaeum cruentatum) เป็นนกที่พบเห็นได้เสมอเกือบทุกที่แม้แต่ในบริเวณบ้านพักอาศัย นกชนิดนี้จัดเป็นนกที่สวยที่สุดในหมู่นกกาฝากทั้งหมด โดยเฉพาะสีขนของนกตัวผู้ตั้งแต่กระหม่อมไปถึงโคนหางเป็นสีแดงเลือดนก นกตัวเมียมีหลังสีน้ำตาลอมเหลือง โดยเฉพาะโคนหางเท่านั้นที่เป็นสีแดงเลือดนก ดูแล้วไม่สวยงาม เหมือนนกตัวผู้

          ใครก็ตามที่ได้ยินชื่อ นกกาฝาก ก็มักจะนึกถึงอีกาเอาไว้ก่อนแต่ความจริงแล้วนกกาฝากไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับอีกาแม้แต่น้อย ทั้งขนาด รูปร่าง สีสัน และอุปนิสัย 

          นกกาฝาก นอกจากจะกินแมลงและน้ำหวานแล้ว มันยังชอบกินลูกไม้สุกอีกต่างหาก และลูกไม้ที่มันชอบที่สุดคือลูกไทรสุก และลูกกาฝาก ซึ่งจัดเป็นอาหารที่สำคัญที่สุดของนกและสัตว์อื่นๆ เมื่อกินอิ่มแล้ว มันจะบินไปเกาะพักตามที่ต่างๆ หลังจากอาหารย่อยแล้วมันก็จะถ่ายมูล ออกมา เมล็ดที่ไม่สามารถย่อยได้ก็จะถูกขับออกมาพร้อมกับมูลของนก ในขณะถ่ายมูลนั้น มันชอบทำก้นกระดกต่ำๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าหลายๆ ครั้ง คล้ายกับจะเช็ดก้นกับกิ่งไม้ ทำให้เมล็ดติดแน่นกับกิ่งไม้แล้วก็งอกงามอยู่บนกิ่งไม้นั้นเอง 

         ที่เกาะแตน จังหวัด สุราษฎร์ธานี ได้พบนกสีชมพูสวนจำนวนมากบนเกาะนี้ นกชนิดนี้ได้แพร่พันธุ์ต้นกาฝากไปทั่วทั้งเกาะ ต้นไม้ทั้งใหญ่และเล็กเต็มไปด้วยต้นกาฝาก บางต้นแทบจะมองไม่เห็นใบของต้นเดิมเลย ต้นกาฝากเหล่านี้จะดูดเอาสารอาหารจากต้นไม้ที่มันเกาะมาเลี้ยงตนเอง ถ้าต้นไม้ต้นใดมีต้นกาฝากมาอาศัยอยู่มากเกินไป จนอาหารที่มันหามาได้มีไม่พอ ต้นไม้ต้นนั้นก็จะตาย 

กาฝากมีสรรพคุณเข้ายาสมุนไพร รักษาโรคได้มากมาย ตามสูตรยาสมุนไพรต่าง ๆ เช่น

- ตำรับยารักษากระเพาะอาหาร

- ตำรับยาแก้ปวดหลังปวดเอว เจ็บปวดเท้า

- ตำรับยาบำรุงร่างกาย บำรุงประสาท บำรุงเลือด ช่วยให้นอนหลับดี แก้ปวดเมื่อยทั่วร่างกาย แก้เส้นเอ็นตีบตันไขมันสูง 

- ตำรับยากาฝากภาคกลาง

- ตำรับยาของตาไก้ ใช้เป็นยาแก้ปวดเมื่อย แก้กษัย บำรุงกำลัง

- ยารักษาความดันโลหิตสูงขนานที่ ๑- ๓

อ่านเพิ่มเติมได้ที่: http://thaiforestherb.blogspot.com/2011/01/blog-post_5308.html

แชร์