รายงาน IPCC เตือนสภาพอากาศโลกถึงจุดวิกฤต
นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอยู่ในจุดที่น่าเป็นห่วง เนื่องจากความการกระทำของมนุษย์ ทำให้เกิดภัยพิบัติทั่วโลก http://winne.ws/n28005
นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอยู่ในจุดที่น่าเป็นห่วงและย้อนกลับไม่ได้แล้ว
วันนี้ (9 ส.ค.) คณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) และโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEP) เปิดเผยรายงานวิทยาศาสตร์ด้านสภาพอากาศเฉพาะกิจเพื่อเตือนว่าโลกกำลังเข้าสู่ภาวะโลกร้อนที่อันตรายอย่างยิ่งโดยเป็นผลมาจากการกระทำของมนุษย์
อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติชี้ว่านี่คือ "รหัสแดง" หรือภาวะฉุกเฉินของมนุษยชาติ พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อป้องกันภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดขึ้นเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
วิกฤตที่จะเกิดขึ้นจากภาวะโลกร้อน
• รายงานคาดการณ์ว่าคลื่นความร้อนรุนแรงที่จะเกิดขึ้นทุก 50 ปีนั้น ได้เกิดถี่ขึ้นเป็นทุก 10 ปี อันเนื่องจากภาวะโลกร้อน ในขณะที่พายุฝนและภัยแล้งก็เพิ่มความถี่และความรุนแรงขึ้นเช่นกัน ตลอดจนฤดูไฟป่าก็จะยาวนานและรุนแรงกว่าเดิม
• ธารน้ำแข็งในมหาสมุทรอาร์กติกอาจละลายหายไปทั้งหมดภายในปี 2050 เนื่องจากเป็นภูมิภาคที่เผชิญกับการเปลี่ยนแปลงทางสภาพอากาศมากที่สุด
• ระดับก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศขณะนี้สูงพอที่จะส่งผลกระทบต่อสภาพภูมิอากาศของโลกไปอีกหลายสิบปีหรืออาจถึงหลายร้อยปี
• IPCC กล่าวว่าก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์ได้ปล่อยออกมาแล้วนั้นส่งผลให้ระดับน้ำทะเลเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากความร้อนและน้ำแข็งละลาย ซึ่งจะยังคงเพิ่มสูงขึ้นเป็นเวลาหลายพันปี
• นอกจากนี้ IPCC ยังเชื่อมั่นว่าพื้นที่เกษตรกรรมหลายแห่งทั่วโลกจะประสบภัยแล้งหรือพายุฝนมากขึ้น รวมถึงพื้นที่บางส่วนของอาร์เจนตินา ปารากวัย โบลิเวีย และบราซิล ซึ่งเป็นแหล่งปลูกถั่วเหลืองและสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ รายใหญ่ระดับโลก
• ผลกระทบบางอย่างเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพอากาศที่ไม่สามารถย้อนกลับไปได้แล้ว อย่างเช่นการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเล หรือการละลายของน้ำแข็งขั้วโลก แม้ว่ามนุษย์จะพยายามควบคุมคาร์บอนไปนับร้อยหรือพันปีก็ไม่สามารถย้อนกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้
มันเริ่มเกิดขึ้นแล้ว
• นักวิทยาศาสตร์เน้นย้ำว่าผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้เกิดขึ้นแล้ว อย่างเช่น การเกิดคลื่นความร้อนในแปซิฟิกตะวันตกเฉียงเหนือของสหรัฐ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปหลายร้อยคนในเดือนมิ.ย. และบราซิลกำลังประสบภัยแล้งครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 91 ปี
• เปาโล อาร์ทาโซ นักสิ่งแวดล้อมผู้นำในการเขียนรายงานกล่าวว่าคลื่นความร้อนในแคนาดา ไฟไหม้ในแคลิฟอร์เนีย น้ำท่วมในเยอรมนี น้ำท่วมในจีน ภัยแล้งในภาคกลางของบราซิล ล้วนแสดงให้เห็นชัดเจนว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศกำลังส่งผลกระทบอย่างหนัก
• คารอลินา เวร่า นักวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศและผู้ร่วมเขียนรายงานกล่าวว่าโอกาสที่เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้นพร้อมกันยิ่งมีมากขึ้น อย่างเช่นการเกิดความร้อนจัด ภัยแล้ง และลมแรงพร้อมกันซึ่งส่งผลให้เกิดไฟป่า
• นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าการคาดการณ์ในรายงานฉบับนี้ตอกย้ำให้เห็นถึงความสำคัญในการควบคุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศรวมถึงปฏิบัติตามข้อตกงปารีสอย่างจริงจัง
Photo by / AFP
https://www.posttoday.com/world/660151
โลกเปลี่ยนแปลงเพราะการกระทำของมนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์หรือเห็นแก่ตัวของกลุ่มคนใดกลุ่มคนหนึ่ง
หากเราไม่ทำอะไรโลกจะมีการเปลี่ยนแปลงซึ่งจะส่งผลกับเรามากขึ้น ผลที่เกิดขึ้นเริ่มเห็นเด่นชัดขึ้น ไม่ว่าน้ำแข็งที่ขั้วโลกได้ละลายมากขึ้น อุณหภูมิโลกสูงขึ้น มีไฟป่าเกิดขึ้นไปทั่วโลก
ถ้าเราไม่ทำอะไรเพื่อแก้ไข โลกจะเป็นที่ไม่น่าอยู่อีกต่อไป
อย่าเห็นแก่ตัวเอาแค่ตัวรอด แล้วทิ้งหายนะให้กับคนรุ่นต่อไป
ทำตั้งแต่วันนี้ ลดละเลิก สิ่งที่จะทำให้โลกแย่ขึ้นกันนะครับ