กระทรวงสาธารณสุขอิสราเอลบ่งชี้ว่ามีถึง 80% ของบุคคลที่ฉีดวัคซีนแล้วแต่ติดเชื้อโควิด-19 ไม่แพร่เชื้อสู่คนอื่นๆ ยามอยู่ในสถานที่สาธารณะ บ่งชี้ว่าวัคซีนมีประสิทธิภาพสกัดการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จากรายงานของสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นแห่งหนึ่งรายงานเมื่อวันเสาร์ (24 ก.ค.)

จากผลการวิจัยพบว่า 80% ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังฉีดวัคซีนแล้วไม่แพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สู่คนอื่นๆ ตามสถานที่ชุมนุมชน ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ต ร้านอาหาร สถานออกกำลังกายและอาคารกิจกรรมทั้งหลาย ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ชาแนล 12

ผลการวิจัยพบด้วยว่า มีราว 10% ของผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังฉีดวัคซีนแล้วที่แพร่เชื้อไวรัสสู่คนอื่นๆ 1 รายตามสถานที่สาธารณะเหล่านั้น และ 3% แพร่เชื้อไวรัสสู่คนอื่นๆ ได้ 2 ถึง 3 ราย ส่วนอีก 7% ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าผู้ติดเชื้อโควิด-19 หลังฉีดวัคซีนแล้วเป็นต้นตอแพร่เชื้อสู่คนอื่นหรือไม่

อย่างไรก็ตาม รายงานข่าวของสถานีโทรทัศน์แห่งนี้ไม่ได้ให้รายละเอียดว่ามีบุคคลที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนติดเชื้อมากน้อยแค่ไหนตามสถานที่เหล่านั้น

ข้อมูลนี้ถูกเผยแพร่ออกมาหลังจากคณะรัฐมนตรีเห็นชอบเมื่อวันพฤหัสบดี (22 ก.ค.) กลับมาบังคับใช้ "กรีนพาส" จำกัดการเข้าร่วมกิจกรรมขนาดใหญ่ไว้เฉพาะคนฉีดวัคซีนแล้ว หายป่วยจากโควิด-19 แล้ว หรือบุคคลแสดงเอกสารมีผลตรวจเป็นลบเมื่อเร็วๆ นี้

ข้อจำกัดรอบใหม่นี้บังคับใช้กับกิจกรรมทั้งในร่มและกลางแจ้งที่มีผู้เข้าร่วมเกินกว่า 100 คน เริ่มตั้งแต่วันที่ 29 กรกฎาคมเป็นต้นไป โดยข้อบังคับแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน หายป่วยหรือมีผลตรวจเป็นลบภายใน 72 ชั่วโมง จะบังคับใช้เฉพาะกับบุคคลที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป ส่วนอายุน้อยกว่านั้นจะไม่มีข้อจำกัดใดๆ แต่คาดหมายว่าจะมีการแถลงกฎระเบียบต่างๆ สำหรับบุคคลอายุต่ำกว่า 12 ปีในอนาคต

ถ้อยแถลงจากสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่าจะกลับมาใช้กรีนพาสตามกิจกรรมกีฬา ศูนย์ออกกำลังกาย ร้านอาหาร หอประชุม แหล่งท่องเที่ยวและสถานสักการบูชาเช่นกัน แต่เน้นย้ำว่าจะไม่มีการจำกัดปริมาณการรวมตัวของผู้คนตามสถานที่เหล่านี้

ขอบคุณข้อมูลจาก

(ที่มา : ไทม์สออฟอิสราเอล)

https://m.mgronline.com/around/detail/9640000072918

การฉีดวัคซีนแม้ไม่สามารถบังคับได้ แต่ ณ เวลานี้หากเรายังต้องพบปะผู้คน ต้องเดินทาง วัคซีนกลายเป็นทางออกเดียวที่เรามีอยู่ ขณะนี้