สมเด็จพระพุฒาจารย์ “อนุมัติ” เปิดวัดไตรมิตรฯ เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด19 “

โดยในที่ประชุมได้วางแผนการทำงานเพื่อให้วัคซีนเข้าถึงประชาชนให้ครบมากที่สุด โดยมีการให้ความรู้และความมั่นใจให้กับประชาชนอย่างเพียงพอ และมีการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์หากเกิดเหตุฉุกเฉิน จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที http://winne.ws/n27803

1.9 พัน ผู้เข้าชม
สมเด็จพระพุฒาจารย์ “อนุมัติ” เปิดวัดไตรมิตรฯ เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด19 “

           เมื่อวันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม 2564  เวลา 10.00 น. ที่วัดไตรมิตรวิทยาราม  ดร.ณพลเดช  มณีลังกา อนุกรรมาธิการฯพระพุทธศาสนาและศาสนาอื่นๆ สภาผู้แทนราษฎร   เปิดเผยว่า จากที่โครงการสำเพ็ง-เยาวราชโมเดล ซึ่งเป็นโครงการนำร่องที่ภาคประชาชนร่วมกับพ่อค้าสำเพ็งและเยาวราช ร่วมกับ กทม. 

          โดยจะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด19 ให้กับประชาชนในล็อตแรก จำนวน 50,000 โดส ให้กับทุกคนในพื้นที่บริเวณเขตสัมพันธวงศ์  คณะกรรมการฯนำโดย น.พ.ชัยวัฒน์ เตชะไพฑูรย์  ประธานโครงการสำเพ็ง-เยาวราชโมเดล จึงได้นำเรียนเรานำกราบ สมเด็จพระพุฒาจารย์(สนิท ชวนปญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออก กรรมการมหาเถรสมาคม ซึ่งเจ้าประคุณสมเด็จพุฒาจารย์ เห็นว่าเป็นประโยชน์กับประชาชน อีกทั้งจะเป็นส่วนหนึ่งในการเป็นส่วนร่วมระหว่างวัด ประชาชน และภาคราชการ จึงได้อนุญาตให้ใช้พื้นที่ของวัดไตรมิตรฯ โดยให้ตนช่วยประสานกับคณะกรรมการฯ และจะเริ่มฉีดวัคซีนในวันที่ 7 มิ.ย.64  เป็นต้นไป 

       น.พ.ชัยวัฒน์ กล่าวว่า โครงการนี้จะฉีดวัคซีนโดยเริ่มต้นจากประชาชนที่มีทะเบียนบ้านในพื้นที่  และขยายไปยังกลุ่มผู้เข้ามาประกอบอาชีพในพื้นที่ โดยจะต่อยอดไปถึงชาวต่างชาติ และอนาคตอาจเป็นจุดศูนย์กลางสำหรับผู้ที่ประสงค์ที่จะเข้ามาฉีดก็สามารถเข้ามาฉีดในพื้นที่สัมพันธวงศ์ได้ โดยวัคซีนที่ได้รับเป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า จำนวน 100,000 โดส ซึ่งจะทำการฉีด 50,000 โดสแรกก่อน ทั้งนี้จากผลการทดสอบผู้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ภูมิคุ้มกันจะเพิ่มขึ้นไปถึง 90%  สำหรับในเขตสัมพันธวงศ์บ้านที่ฉีดได้ครบแล้วทุกคนจะมีสติกเกอร์สีเขียวติดว่าบ้านนี้ปลอดภัย  สำหรับบนถนนเยาวราชทางโครงการจะให้ร่มสี เพื่อแสดงถึงสัญลักษณ์ว่าร้านนี้ปลอดภัยแล้ว และจะขยายไปยังเขตอื่นต่อไป

        ด้าน ดร.ณพลเดช  กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยินดีเข้ามาช่วยเหลือโดยงานนี้เป็นการช่วยเหลือประชาชน 100% จะไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะขณะนี้ประชาชนอยู่ในภาวะคับขันและยากลำบากในการประกอบอาชีพ ทุกฝ่ายต้องหันหน้าเข้าหากัน คนไทยต้องเป็นหนึ่งเดียวกันจึงจะฝ่าวิกฤตินี้ไปได้  หลังจากนั้น เวลา 14.00 น. ทางโครงการได้จัดประชุมร่วมกับ นางสาวอาทิตยา โชคกิจมนัสชัย ผู้อำนวยการเขตสัมพันธวงศ์ ที่สำนักงานเขตสัมพันธวงศ์ ทั้งนี้มีการเชิญ สสม. , อสม. และประธานชุมชน เข้ามาร่วมประชุมด้วย โดยในที่ประชุมได้วางแผนการทำงานเพื่อให้วัคซีนเข้าถึงประชาชนให้ครบมากที่สุด โดยมีการให้ความรู้และความมั่นใจให้กับประชาชนอย่างเพียงพอ และมีการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์หากเกิดเหตุฉุกเฉิน จะได้แก้ไขได้ทันท่วงที 

 ที่มา https://www.banmuang.co.th/

แชร์