ประเทศเพื่อนบ้าน แอบอ้างสวมสิทธิเป็นส้มโอไทย ส่งออกจีน

เพิ่มสินค้าส้มโอในบัญชีรายการสินค้าเฝ้าระวัง ป้องกันการนำส้มโอจากประเทศเพื่อนบ้านมาแอบอ้างสวมสิทธิเป็นส้มโอไทยเพื่อส่งออกจีน http://winne.ws/n27684

908 ผู้เข้าชม
ประเทศเพื่อนบ้าน แอบอ้างสวมสิทธิเป็นส้มโอไทย ส่งออกจีน

       เพิ่มสินค้าส้มโอในบัญชีรายการสินค้าเฝ้าระวัง ป้องกันการนำส้มโอจากประเทศเพื่อนบ้านมาแอบอ้างสวมสิทธิเป็นส้มโอไทยเพื่อส่งออกจีน


       นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้รับแจ้งจากสำนักงานพาณิชย์จังหวัดพิจิตร ว่ามีการนำเข้าส้มโอจากประเทศเพื่อนบ้าน มาเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ สวมสิทธิเป็นส้มโอไทยและส่งออกไปยังประเทศจีน โดยใช้หนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า Form E เพื่อขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร ซึ่งการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า โดยใช้ไทยเป็นฐานการปลอมแปลงถิ่นกำเนิด ส่งผลต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงของส้มโอไทย เพื่อป้องกันการสวมสิทธิผลไม้ไทยและป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิด กรมฯ จึงได้ดำเนินการเพิ่มสินค้าส้มโอในบัญชีรายการสินค้าเฝ้าระวัง (Watch-List) ซึ่งจะทำให้ขั้นตอนในการพิจารณาออกหนังสือรับรองฯ  เข้มงวดและรัดกุมยิ่งขึ้น 

       สำหรับประเภทสินค้าส้มโอที่ถูกสวมสิทธินั้น ประกอบด้วย ส้มโอสดหรือแห้ง โดยกรมฯ ได้กำหนดแนวปฏิบัติในการออกหนังสือรับรองฯ ทุกประเภท สำหรับสินค้าส้มโอดังกล่าว และให้ผู้ยื่นขอหนังสือรับรองฯ ต้องระบุข้อความยืนยันแหล่งที่มาของส้มโอในประเทศที่ขอรับหนังสือรับรองฯ เพิ่มเติมลงในแบบขอรับการตรวจคุณสมบัติของสินค้าทางด้านถิ่นกำเนิดเพื่อขอใช้สิทธิพิเศษทางด้านภาษีศุลกากร ตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป

       สำหรับการดำเนินการตามแนวปฏิบัติในการออกหนังสือรับรองฯ ดังกล่าว  เป็นการดำเนินงานเชิงรุกในการป้องกันการสวมสิทธิและการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้าผลไม้ เพื่อให้ประเทศไทยได้รับความเชื่อถือและความมั่นใจจากประเทศคู่ค้าว่า ผลไม้ที่ส่งออกจากไทยเป็นผลไม้ที่มีถิ่นกำเนิดไทยจริง อีกทั้งยังช่วยรักษาความเชื่อมั่นในมาตรฐาน ภาพลักษณ์และชื่อเสียงของผลไม้ไทยในตลาดโลกอีกด้วย ซึ่งในกรณีที่ได้รับการร้องเรียนเรื่องส้มโอ กรมฯ ได้มีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษ นอกจากนี้ ยังเฝ้าระวังสถานการณ์การสวมสิทธิผลไม้ไทยที่ส่งออกไปจีนในภาพรวม และอาจมีการยกระดับกำหนดมาตรการเข้มงวดขึ้น เพื่อป้องปรามการส่งออกในลักษณะแอบอ้างดังกล่าว ในระยะต่อไปด้วย 



ขอบคุณข้อมูลข่าว/ภาพ  :  สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

แชร์