กรมควบคุมโรค เตือน ระวังอุบัติเหตุจากการจุดพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟ ช่วงวันลอยกระทง
กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนช่วงเทศกาลวันลอยกระทงปีนี้ ระมัดระวังอุบัติเหตุจากการจุดพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟ http://winne.ws/n27520
กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนช่วงเทศกาลวันลอยกระทงปีนี้ ระมัดระวังอุบัติเหตุจากการจุดพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟ
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า วันลอยกระทงทุกปีที่ผ่านมามักจะมีอุบัติเหตุจากการจุดพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟ ทำให้ได้รับบาดเจ็บตามอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย หากบาดเจ็บรุนแรงอาจสูญเสียอวัยวะสำคัญหรือถึงขั้นเสียชีวิตได้
จากข้อมูลเฝ้าระวังการบาดเจ็บของกองป้องกันการบาดเจ็บ กรมควบคุมโรค ในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ 33 แห่ง พบในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2558-2562 มีผู้บาดเจ็บรุนแรงจากพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟ 1,770 ราย เสียชีวิต 2 ราย ส่วนใหญ่ร้อยละ 92.8 เป็นเพศชายและเป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุ 5-19 ปี
จุดเกิดเหตุส่วนใหญ่คือในบ้านและบริเวณบ้าน ส่วนอวัยวะที่ได้รับการบาดเจ็บรุนแรงจากเปลว หรือสะเก็ดดอกไม้ไฟ หรือพลุมากที่สุดคือ บริเวณมือและข้อมือ คิดเป็นร้อยละ 69.2 ในจำนวนนี้ร้อยละ 51 กระดูกแตกหักบริเวณมือและข้อมือ ร้อยละ 23 มือขาด ถูกตัด รองลงมาคือ บาดเจ็บที่ศีรษะและใบหน้า ส่วนใหญ่เจ็บที่ตา เพื่อป้องกันการบาดเจ็บจากพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟ
ผู้ปกครองจึงไม่ควรให้เด็กจุดพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟด้วยตนเอง และไม่ควรอยู่ใกล้บริเวณที่จุด ควรสอนให้เด็กรู้ว่าพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟ ไม่ใช่ของเล่น แต่เป็นสิ่งที่อันตรายสำหรับเด็ก ไม่เก็บพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟ ที่จุดแล้วไม่ติดมาเล่น เพราะอาจระเบิด โดยไม่คาดคิด และหากจำเป็นต้องจุดพลุ ประทัดและดอกไม้ไฟ ในงานพิธีต่างๆ ควรอ่านคำแนะนำอย่างละเอียดและอยู่ห่างอย่างน้อย 1 ช่วงแขน
หากพบเห็น หรือเกิดอุบัติเหตุ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อนิ้ว หรืออวัยวะใดอวัยวะหนึ่งขาดจากแรงระเบิด ให้รีบห้ามเลือดบริเวณที่อวัยวะขาด โดยใช้ผ้าสะอาดปิดบาดแผล และพันบาดแผลให้แน่น เพื่อป้องกันเลือดออก ไม่ควรใช้เชือกหรือสายรัดเหนือแผลเพราะจะทำให้เส้นประสาทหรือหลอดเลือดเสียหายได้ และรีบโทรแจ้งขอความช่วยเหลือจากทีมแพทย์กู้ชีพ โทร.1669
ขอบคุณข้อมูลข่าว/ภาพ : สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์