จ่ายแล้วจด ลดค่าใช้จ่าย” แค่นี้มนุษย์เงินเดือนอย่างเรา ก็ใช้ชีวิตแบบ Happy Money ได้ เพราะจะทำให้รู้ว่า เรามีค่าใช้จ่ายจำเป็นและไม่จำเป็นเท่าไหร่ จากนั้นก็นำเงินส่วนที่ไม่จำเป็นมากฝากเป็น “เงินออม” ในบัญชี หรือ หยอดกระปุกออมสิน เก็บเล็ก ผสมน้อย ไปเรื่อย ๆ

      “เงินออม” มีสถานะเป็น “เงินสำรองฉุกเฉิน” ผลสำรวจจากสถาบันการเงิน พบว่า “มนุษย์เงินเดือน” ต้องมีเงินออมอย่างน้อย 6 เดือนของค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน เพื่อลดความเสี่ยงเมื่อเกิดวิกฤต ถูกเลิกจ้าง เจ็บป่วย เพราะไม่มีใครทำนายอนาคตได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

4 เรื่อง ต้องรู้! ชีวิตดี Happy Money แบบฉบับ “มนุษย์เงินเดือน”

   1. รู้หา = หาเงินเพิ่ม เสริมรายได้

เงินเดือน+รายได้เสริม = รายได้เพิ่ม

    2. รู้เก็บ = เก็บออมก่อนใช้จ่าย

 เงินได้ – เงินออม = เงินใช้

    3. รู้ใช้ = ใช้เงินอย่างฉลาด สร้างโอกาสเพิ่มเงินออม

ตั้งงบก่อนใช้ ไม่ใช้เงินเกินตัว สิ่งอขงไม่จำเป็นไม่ต้องซื้อ

    4. รู้ขยายดอกผล = ลงทุนถูกที่ ความมั่งมีงอกเงิน

ศึกษาการลงทุน กองทุนเงินต่าง ๆ

        สสส. ชูโมเดล Happy Workplace ในโครงการส่งเสริมผลิตภาพและสุขภาวะองค์กรฯ แนวคิด Happy Money เป็น 1 จาก 8 แนวคิด ที่ชี้วัดความสุขของพนักงานได้จริง ซึ่งพบว่าหากพนักงานลดค่าใช้จ่ายจากแอลกอฮอล์ บุหรี่ การพนัน จะทำให้ทั้งสถานประกอบการและพนักงานมีเงินเก็บเพิ่มมากขึ้น เชิญชวนทุกคนแบ่งเงินในกระเป๋า มาออมในกระปุกกัน

ที่มา https://www.facebook.com/thaihealth