ดูใจนะ
พระพุทธเจ้าพ้นทุกข์ได้ก็เพราะใจ ท่านดูใจนะไม่ได้ดูอย่างอื่น ท่านตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์ ก็เพราะว่าท่านดูใจ ไม่ได้ตรัสรู้เพราะต้นโพธิ์นะ ท่านดูใจท่าน... http://winne.ws/n26442
...เจ็บแขนเจ็บไม่หาย นั่นล่ะถ้าเจ็บมาก ปวดมากก็พิจารณาเข้ามาหาใจ ความเจ็บปวดก็อยู่กับใจ ไม่ได้เจ็บไม่ได้ปวดอยู่ที่อื่นนะ ให้เราดูใจ นี่แหละมันสำคัญ
พระพุทธเจ้าพ้นทุกข์ได้ก็เพราะใจ ท่านดูใจนะไม่ได้ดูอย่างอื่น ท่านตรัสรู้ใต้ต้นโพธิ์ ก็เพราะว่าท่านดูใจ ไม่ได้ตรัสรู้เพราะต้นโพธิ์นะ ท่านดูใจท่าน ไม่ได้ดูแม่น้ำ ภูเขา ดินฟ้าอากาศ ส่วนมากที่คิดมากมันก็เพราะใจ เราไปคาดหน้าคาดหลังก็เพราะใจ คิดไปทำไมคิดทั้งวัน ปรุงนั่นปรุงนี่ก็ไม่หายทุกข์ถ้าไม่ดูใจ
แก่มาแล้วก็แก่มาหาที่ตายนั่นล่ะ ให้พากันพิจารณานะ ถ้าภาวนาตายก็ไม่ตกนรก ใจก็เย็นไม่ร้อน ความอยากนั้นเป็นกิเลสพาให้หลง
ตัวหลงมันเกิดจากใจ ถ้าเราไม่ดู ถ้าไม่ดูก็ไม่เห็นเท่านั่นล่ะ มรรคก็คือตัวสติ ศีล สมาธิ ปัญญา ถ้าตั้งสติ ศีล สมาธิ ปัญญาให้มันดีแล้ว ผลมันก็เห็น ผลของมันก็คือนิพพานนั่นล่ะ มันก็สงบก็เย็นเท่านั้นล่ะ ถ้าเราดูใจให้มันเห็น มันก็หมดตัวตน ความยึดความถือว่าเราว่าเขา ว่าตัวว่าตน ความอยากได้นั่นได้นี่มันก็หมดกิเลสตัณหา
ภาวนา ถ้าเราไปดูที่อื่น ไม่ดูเข้ามาหาใจ จิตก็ไม่รวมเท่านั้นล่ะ ถ้าดูเข้ามาหาใจตนก็รวม แต่ถ้าจิตไม่รวมก็ไม่ทุกข์นะ เพราะอยู่กับกายใจของเรา ภาวนาถ้าเราดูอย่างนี้มันก็สงบ
มีสติอยู่กับพุทโธก็ดีอยู่ ดีกว่าคิดคาดนั่นหมายนี่ คาดหน้าคาดหลังมันก็ไม่ได้เรื่องหรอก นิพพานนั้นอยู่กับใจ ถ้าเราตัดกิเลส ตัณหา ราคะได้หมด ก็ถึงนิพพานได้เท่านั้นล่ะ ไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล แต่อยู่กับกายกับใจของเรานั่นล่ะ แต่พวกเราก็ไม่ค่อยดู !
- หลวงปู่เพียร วิริโย -
(25 ธ.ค. 2547)
จากหนังสือ “เสียงธรรม ย้ำเตือน“