กลุ่มจิตอาสาวิจัยและพัฒนาพลังงานเพื่อการจัดการภัยพิบัติ และทีมงานเครือข่ายเพื่อนเตือนภัยขอนแก่น ได้เคลื่อนย้ายเครื่องดูดฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอนหรือพีเอ็ม 2.5 ซึ่งเป็นเครื่องต้นแบบ หรือ “ยักษ์เขียว” พร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องดูดฝุ่นละอองแบบเคลื่อนที่ เดินทางจาก จ.เชียงใหม่ ไปถึง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ชายแดนไทย-เมียนมา แล้ววานนี้ (10 เม.ย.) โดยเดินทางไปด้วยรถยนต์จำนวน 3 คัน และได้รับอนุญาตให้นำไปติดตั้งที่ลานจอดรถของโรงแรมแม่โขงเดลต้า บูติค ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่เทศบาล ต.เวียงพางคำ ได้ส่งรถดับเพลิง และเจ้าหน้าที่เข้าให้การสนับสนุน

     นายศรัณย์ อินทรกำแหง กล่าวว่า เจ้ายักษ์เขียวกินฝุ่น จะมีประสิทธิภาพในการทำงานได้ดีในที่โล่งแจ้ง เนื่องจากสามารถดูดฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ดีเป็นวงกว้าง หากมีสิ่งบดบังประสิทธิภาพจะลดน้อยลง ซึ่งจะทำการดูดฝุ่นละอองจนถึงวันที่ 15 เม.ย. จากนั้นจะเดินทางกลับ จ. ขอนแก่น

     ส่วนสถานที่ย้ายจุดติดตั้ง จะต้องรอเจ้าหน้าที่แนะนำอีกครั้ง โดยจะเป็นจุดที่มีค่า pm2.5 หนาแน่น ขณะที่กรมควบคุมมลพิษได้ตรวจวัดคุณภาพอากาศจาก ต.เวียงพางคำ ว่ามีค่าพีเอ็ม 2.5 ในปริมาณ 152 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และพีเอ็ม 10 ในปริมาณ 194 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากช่วงหลายวันก่อนเนื่องจากมีการเผาไหม้หลายจุดอย่างต่อเนื่องทั้งฝั่งไทย และเมียนมา ส่วนเขต อ.เมือง เชียงราย พบว่ามีค่าพีเอ็ม 2.5 ในปริมาณ 78 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และพีเอ็ม 10 ในปริมาณ 106 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

       ส่วนที่ จ. แม่ฮ่องสอน คณะเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน อุทยานแห่งชาติสาละวิน ส่วนอนุรักษ์ และป้องกันทรัพยากร ส่วนควบคุมไฟป่ากองการบิน กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร่วมกันปฏิบัติภารกิจแก้ไขปํญหาไฟป่า ในพื้นที่อำเภอแม่สะเรียง โดยนำเฮลิคอปเตอร์ 1106 ขึ้นปฏิบัติการบินแก้ไขปัญหาไฟป่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยทำบินลาดตระเวนเพื่อตรวจติดตามและประเมินสถานการณ์ไฟป่าและหมอกควัน ร่วมกับอุทยานแห่งชาติสาละวิน,เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง พร้อมสนับสนุนการทิ้งน้ำดับไฟป่า จำนวน 42 เที่ยว บริเวณป่าบ้านห้วยสิงห์ตำบลแม่ยวม อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ปฏิบัติการบินรวม 5 ชม. 35 นาที

อ่านต่อที่ SpringNews