พระมหาสมปองหวั่น ไร้คนสานต่อ "ธรรมะเดลิเวอรี่"
พระมหาสมปองหวั่น ไร้คนสานต่อ "ธรรมะเดลิเวอรี่" มอบพระวิทยากรต้นแบบสันติภาพปั้น สร้างทีมเครือข่ายสร้างสันติภาพอย่างมีพลัง ด้วยเทคโนโยลีสื่อออนไลน์เป็นเครื่องมือ http://winne.ws/n25178
ระหว่างวันที่ 28-31 ตุลาคม พ.ศ.2561 ที่สวนธรรมศรีปทุม อ.สามโคก จ.ปทุมธานี มีการอบรมตามโครงพัฒนาพระวิทยากรต้นแบบสันติภาพบูรณาการรูปแบบการพัฒนาวิทยากรต้นแบบธรรมะโอดีโดยพุทธสันติวิธี ประกอบดุษฎีนิพนธ์เรื่อง "รูปแบบการพัฒนาวิทยากรต้นแบบธรรมะโอดีโดยพุทธสันติวิธี" ของพระปราโมทย์ วาทโกวิโท นิสิตปริญญาเอก สาขาสันติศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) หลังจากโฟกัสกรุ๊ป เป็นขั้นตอนการทดสอบโมเดล โดยมีพระสงฆ์ที่ผ่านการคัดเลือกจากทั่วประเทศจำนวน 42 รูปร่วม
การอบรมเริ่มขึ้นช่วงเย็นของวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ.2561 พระสงฆ์จำนวน 42 รูปได้ลงทะเบียนแล้วฟังการบรรยายสร้างแรงบันดาลใจจากพระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต และพระอาจารย์สมพงษ์ รตนวํโส พระวิทยากรธรรมะเดลิเวอรี่ ในฐานะพระวิทยากรรุ่นพี่ด้านการเป็นพระวิทยากรที่กว่าจะเป็นวิทยากรต้นแบบต้องพัฒนาตนเองหาโอกาสให้กับตนเองอย่างไร
พระมหาสมปอง กล่าวว่า โครงการดังกล่าวมีประโยชน์มาก นอกจากเป็นการสร้างทีมวิทยากรเป็นเครือข่ายแล้ว สิ่งสำคัญก็คือเป็นการสร้างศาสนาทายาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระวิทยากรธรรมะเดลิเวอรี่ ปัจจุบันนี้มีอยู่เพียง 3 รูปเท่านั้น ประกอบกับปัจจุบันนี้อาตมาก็มีศาสนกิจในการบรรยายมากจึงไม่มีเวลาในการสร้างทายาทเพิ่มสืบสอดเทคนิควิธีการต่างๆ
"ปัจจุบันนี้เป็นยุคดิจิทัลโลกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พระสงฆ์ควรปรับตัวโดยนำเทคโนโลยีสื่อออนไลน์มาใช้เป็นเครื่องมือในการเผยแพร่พระพุทธศาสนา ซึ่งจะทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งเยาวชนและกลุ่มคนในเจนแซด(Gen Z)ที่วิถีชีวิตอยู่กับมือถือ แต่ปัจจุบันนี้พระสงฆ์ไทยมีอยู่จำนวน 2 แสนรูปนั้นมีเพียง 1 พันรูปเท่านั้นที่ความรู้ มีทักษะในการใช้สื่อออนไลน์ที่เป็นประโยชน์ในการเผยพระพุทธศาสนา ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการฝึกทักษะด้านต่างๆ เช่น การใช้สื่อออนไลน์ในการเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้มีประสิทธิ์ภาพมากยิ่งขึ้น อย่างเช่น อาตมาหลังจากมีการบรรยาแล้วทีมงานก็จะอัพคลิปขึ้นยูทูปเป็นประจำ" พระมหาสมปอง กล่าว
วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ.2561 เริ่มด้วยอาจารย์จตุพล ชมภูนิช วิทยากรชั้นนำของเมืองไทย บรรยายพิเศษเรื่อง "การเป็นวิทยากรมืออาชีพที่ประสบผลสำเร็จ" โดยแนะนำว่า พระสงฆ์ต้องปรับตัวรู้ทันสถานการณ์โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิทธิพลของปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ จะต้องใช้สื่อเป็น นำเทคนิคต่างๆ มาประยุกต์ใช้ อย่างเช่นมุขแต่พองาม ควรมุ่งขายคำที่มีความหมาย คำคม และคำที่มีความคิด พร้อมกันนี้จะต้องหาตัวเสริมหรือความความสามารถพิเศษประกอบในการเป็นพระวิทยากร และวางเป้าหมายสูงอย่างพญาอินทรีย์
เสร็จแล้วเป็นการเปิดการอบรมอย่างเป็นทางการโดยพระศรีธรรมภาณี,ดร. ผู้ช่วยอธิการบดีและรักษาการผู้อำนวยการสำนักพระสอนศีลธรรม มจร และบรรยายพิเศษเรื่อง "เหลียวหลังแลหน้ากับการพัฒนาพระวิทยากรต้นแบบในศตวรรษที่ 21 สู่สังคมไทย" ความว่า การอบรมครั้งนี้ถือว่าเป็นการแบ่งงานกันทำเพิ่มทักษะด้านต่างๆโดยเฉพาะการทำงานเป็นทีมสร้างเครือข่ายในลักษณะเป็นการจัดค่ายเพื่อเป็นการสร้างสุขแก่สังคมไทย ดังนั้นพระวิทยากรจะต้องมีหลัก 5 ส. คือ ทำงานด้วยความสนุก สร้างสรรค์ มีสาระ ก่อให้เกิดความสงบ และสร้างจิตสำนึก ประกอบกับปัจจุบันนี้เทคโนโลยีก้าวไกล คนเข้าวัดน้อยลง งานของพระวิทยากรก็น้อยลงเช่นเดียวกัน ดังนั้นพระวิทยากรมีพื้นที่ตรงไหนทำได้ก็ต้องทำโดยเฉพาะการใช้สื่อ
พระศรีธรรมภาณีมอบโล่วางวัลวิทยากรต้นแบบสันติภาพระดับเชี่ยวชาญรวมถึงนักข่าวต้นแบบสันติภาพด้วยจากมูลนิธิพระพุทธศาสนาเพื่อสันติภาพร่วมกับธรรมะโอดี เสร็จแล้วเป็นการแชร์ประสบการณ์จากผู้ที่รับรางวัลเป็นต้น
ขอบคุณภาพ/ข่าว : banmuang