เมื่อเร็วๆนี้มีประกาศรับสมัครงานของ Glassdoor ในอเมริกา พบว่ามีถึง 15 บริษัทที่ไม่ได้กำหนดคุณสมบัติว่าต้องจบปริญญา ในรายชื่อไม่สนใจปริญญานี้ได้รวมถึงบริษัทที่จ่ายค่าจ้างสูงอย่าง Apple, Google, และ IBM

แม้ว่าการกำหนดคุณสมบัติไม่ต้องจบปริญญามันฟังดูก้าวล้ำเหมือนแนวคิดของเหล่าบริษัทไฮเทค แต่บริษัทส่วนใหญ่ในตลาดแรงงานยังเห็นความสำคัญของคนทำงานที่มีปริญญา

คุณสมบัติของผู้สมัครงานที่มีประวัติดีทางด้านการศึกษา ในภาพรวมแล้วยังมีความสำคัญ แต่ไม่ได้เป็นอุปสรรคของการเป็นผู้สมัครงาน 

บริษัทต่างๆจะพิจารณาจากประสบการณ์และทักษะความสามารถในการทำงานที่เหมาะสมกับงาน คนที่ได้รับการจ้างงานจำนวนมากยังเป็นผู้ที่จบปริญญา แต่มีบางส่วนที่ไม่มีปริญญา

Google เริ่มรับรู้มาหลายปีแล้วว่า ผลการเรียนและการทดสอบต่างๆไม่มีความหมาย ไม่สามารถใช้เป็นเครื่องชี้วัดว่าคนๆนั้นจะทำงานได้ดี แต่ก็มีข้อยกเว้นอยู่บ้างนิดหน่อยสำหรับผู้ที่เพิ่งจบปริญญามาไม่นาน

IBM มีพนักงานที่จ้างเข้าทำงานในบริษัทแม่ที่สหรัฐอเมริกาประมาณ 15% ที่ไม่มีปริญญา

จินนี่ โรเมตตี้ ซีอีโอไอบีเอ็ม เคยให้สัมภาษณ์ว่า การฝึกฝนในการทำงานจริงสำหรับบริษัทเทคฯ มีความสำคัญมากกว่าประสบการณ์การเรียน 4 ปีในมหาวิทยาลัย

คนไทยที่เคยทำงานในต่างประเทศกับบริษัทเทคโนโลยีดัง อย่าง Apple, Google ก็เคยออกมาเปิดเผยว่า เวลาสัมภาษณ์เข้าทำงานกับบริษัทเหล่านี้ เขาจะพิจารณาจากความรู้พื้นฐานเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการโคด ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้สื่อสารกับคอมพิวเตอร์ 

ในยุคนี้ บริษัทเทคโนโลยีมีความโดดเด่นและทำเงินได้มหาศาลเหนือกว่าธุรกิจประเภทอื่นอย่างชัดเจน และคนดังในแวดวงเทคฯจำนวนมากก็เป็นผู้ที่ไม่จบปริญญา เช่น สตีฟ จ็อบส์, บิล เกตส์, มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก, แจ๊ค ดอว์ซีย์, ริชาร์ด เบรนสัน, วีทาลิค บูเธอริน ฯลฯ

ตามข่าวบอกว่า Google พบว่าคนที่เพิ่งจบใหม่ซึ่งหมายถึงผู้ที่มีโอกาสเรียนวิชาการที่ทันกับยุคสมัย ยังมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานอยู่บ้าง แต่ไม่มีนัยสำคัญ 

ข้อมูลดังกล่าวเริ่มชี้ชัดให้เห็นมากขึ้นแล้วว่า ระบบการศึกษาไม่สามารถตอบสนองตลาดแรงงานยุคใหม่ได้ วันเวลาที่ผ่านไปจะยิ่งมีปัญหามากขึ้น 

มีการคาดการณ์ว่า งานจำนวนมากที่ทำกันอยู่ในวันนี้จะหายไปในอนาคต และมีงานใหม่ๆมากมายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตและคนในยุคนี้ยังไม่แน่ใจวันมันเป็นงานอะไร?!?

โดย  Suttichai Taksanun