บ้านคือวิมานของเรา
ความสงบสุขของสังคมเริ่มที่ “บ้าน” สังคมหน่วยที่เล็กที่สุด http://winne.ws/n220
ขอบคุณภาพจากwww.google.com
บ้านคือวิมานของเรา
ความสงบสุขของสังคมเริ่มที่ “บ้าน” สังคมหน่วยที่เล็กที่สุด
ฉันยังจำได้ดีว่า “ บ้านคือวิมาน ของเรา” จริง ๆ เมื่อเราได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่พี่น้อง ที่มีขนาดใหญ่บ้าง เล็กบ้าง แต่ความสุขมันอยู่ที่ว่า เรารักกันทุกคน ไม่ว่าบ้านเราจะหลังเล็กหรือใหญ่ หรือแทบไม่มีอะไรเลยในบ้านเราก็มีความสุขได้ เพราะบ้านเป็นสถานที่ที่อิสระของเรา เราจะนอน จะนั่งแบบไหนจะวิ่งเล่น หรือกระโดด โลดเต้นตามประสาก็ได้ เพราะนั่นคือบ้านของเรามีคนที่เรารักและไว้ใจที่สุดอยู่ที่บ้านของเรา
ชีวิตในวัยเด็กก่อนไปโรงเรียนฉันจะต้องมีหน้าที่ถูบ้านก่อนไปโรงเรียนโดยแบ่งพื้นที่กันถูกับพี่ ๆและเมื่อกลับจากโรงเรียนก็จะรีบกลับมาเพราะหิวข้าวเย็นต้องรีบมากินรองท้องก่อนสักหน่อย โรงเรียนสมัยก่อนเขาไม่ค่อยมีของขายต้องกลับไปกินที่บ้านเรา แล้วก็มีหน้าที่ถูบ้านอีกถูแข่งกันว่าของใครจะสะอาดกว่ากันช่วยพี่สาวหุงข้าวเย็นเพื่อกินกันทั้งบ้านช่วงเย็นอีกรอบ
เมื่ออาบน้ำซักผ้าเสร็จ(คนโบราณอาบเสร็จซักเลยไม่ดองผ้าไว้ข้ามคืน) ขึ้นเรือนไปล้อมวงกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันทั้งบ้านจากนั้นใครเป็นนักเรียนก็ต้องทำการบ้านอ่านหนังสือเสียงดัง ๆ พ่อแม่เขาจะภูมิใจถ้าลูก ๆ อ่านหนังสือเสียงดังเก่งๆ และอ่านไม่ผิด ดังนั้นช่วงหัวค่ำจะได้ยินเสียงเด็ก ๆ อ่านหนังสือแข่งกันแจ้ว ๆเกือบทุกบ้านเลย
ขอบคุณภาพจากwww.google.com
แต่สังคมวันนี้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงคนในบ้านเดียวกันแทบไม่กินข้าวด้วยกันเลย ไม่ได้เห็นหน้ากัน ไม่ได้คุยกันเลย ต่างก็มีห้องเป็นของตัวเองมีเพื่อนทั่วโลกที่คุยผ่านอินเตอร์เน็ตแต่ไม่มีเวลาคุยกับคนในบ้าน บ้านจึงไม่เป็นวิมานอีกต่อไปลูก ๆ เรียนพิเศษไม่เช่นนั้นก็สู้คนอื่นไม่ได้ความห่างเหินระหว่างคนในครอบครัวนับวันก็มากขึ้น ๆ จนคุยกันไม่รู้เรื่อง นี่แหละมนุษย์วิกฤต โลกก็วิกฤต ไปด้วย เพราะไม่มีเวลาให้กันอีกต่อไป ในที่สุดบ้านก็ไม่รักตัวเองก็ไม่รัก พ่อแม่ก็ไม่รัก แล้วเราจะรักอะไร?
พิณสายกลาง