กระจกเงากับกระจกใส

ถ้าจะเปรียบสิ่งที่แสดงออกมาบนกระจก ก็คงจะเปรียบเทียบได้กับมุมมอง และทัศนคติในการมองโลกของเรานั่นเอง การที่คุณมองเข้าไปในกระจกใส สิ่งที่คุณจะเห็นก็คือคนอื่น ๆ กระจกเงากับกระจกใส http://winne.ws/n1986

3.8 พัน ผู้เข้าชม
กระจกเงากับกระจกใส

กระจกเงากับกระจกใส

ถ้าจะว่าไปการมองโลกของเราก็คงจะคล้าย ๆ กันกับการมองกระจก น่ะ แหละนะ

เพราะทุกครั้งที่เรามองเข้าไป เราก็จะเห็นอะไรหลาย ๆ อย่างสะท้อนกลับมา

ถ้าคุณเลือกที่จะมองเข้าไปในกระจกเงา สิ่งที่สะท้อนมาให้เห็นก็คือตัวคุณ

แต่ถ้าคุณเลือกที่จะมองผ่านไปในกระจกใส สิ่งที่คุณเห็นส่วนใหญ่ก็คือ สิ่งที่อยู่อีกด้านหนึ่งของมันนั่นเอง

คุณเคยเดินผ่านสถานที่ ๆ มีประตูเป็นกระจกใส มั้ย

แน่นอนทุกคนที่เดินผ่านต้องเคยที่จะพยายามส่องมัน

เพื่อที่จะมองเงาสะท้อนของตัวเอง แต่มันก็เลือนรางเต็มที

ก็นั่นแหละถ้าจะว่าไป การที่เรามองเข้าไปในกระจกใส

สิ่งที่เราจะสามารถเห็นได้ก็มีทั้งเงาสะท้อนอันเลือนรางของเราเอง

และสิ่งที่อยู่อีกด้านหนึ่งของมันซึ่งเป็นสิ่งที่เรามองเห็นได้อย่างชัดเจน

ถ้าจะเปรียบสิ่งที่แสดงออกมาบนกระจก

ก็คงจะเปรียบเทียบได้กับมุมมอง และทัศนคติในการมองโลกของเรานั่นเอง

การที่คุณมองเข้าไปในกระจกใส สิ่งที่คุณจะเห็นก็คือคนอื่น ๆ

ที่อยู่อีกด้านหนึ่งของมัน นั่นทำให้คุณสามารถที่จะเห็นได้ว่า

คน ๆ นั้นกำลังทำอะไร และ เป็นอย่างไร

ในขณะเดียวกัน เงาสะท้อนของตัวคุณก็เลือนรางเต็มที

หลายครั้งคุณพยายามที่จะเพ่งพินิจ พิจารณา

เพื่อที่จะได้เห็นเงาของคุณได้อย่างชัดเจน

กระจกเงากับกระจกใส

แต่ท้ายที่สุดสิ่งที่เห็นส่วนใหญ่ก็คือ เงาของคนอื่น ๆ นั่นเอง

นั่นคือถ้าคุณเลือกที่จะมองผ่านกระจกใส คุณจะเห็นตัวคุณเองได้ยากเต็มที

ในทางกลับกันคุณกลับมองเห็นคนอื่น ๆ ได้อย่างชัดเจน

ถ้าคุณเลือกที่จะมองเข้าไปในกระจกเงา

แน่นอนสิ่งที่คุณเห็นก็คือ ตัวคุณนั่นเอง

ซึ่งเงาสะท้อนของคุณก็ชัดเจนเสียด้วย

แต่ คุณก็ไม่สามารถที่จะมองเห็นสิ่งที่อยู่อีกด้านของมันได้

นั่นก็คือถ้าคุณเลือกที่จะมองเข้าไปในกระจกเงา

คุณจะเห็นตัวคุณได้อย่างชัดเจน แต่คุณจะไม่สามารถ

เห็นคนอื่น ๆ ที่อยู่อีกด้านได้เลย

คุณเคยสังเกต มั้ย ว่าทำไม กระจกใสถึงมองเห็นได้ทั้งตัวคุณ

และเห็นคนอื่น ๆ อีกด้านด้วย แต่กระจกเงากลับมองเห็นแค่ตัวคุณเท่านั้น

นั่นก็เพราะว่า คนเราไม่มีทางที่จะไม่รู้จักตัวเอง

แต่จะรู้จักมาก หรือ น้อย ก็ขึ้นอยู่กับการใช้เวลาพิจารณาตัวเองของคุณ

ถ้าคุณเลือกที่จะมองคนอื่นมากกว่าที่จะมองตัวเอง

คุณก็จะเห็นส่วนดีส่วนเสียของคุณได้น้อยเต็มที

แต่ถ้าคุณเลือกที่จะพิจารณาตัวคุณเองแทนที่จะไปสนใจคนอื่น ๆ

คุณก็จะรู้จักตัวเองได้อย่างชัดเจน แต่คุณก็จะไม่รู้จักคนอื่น ๆ

กระจกทั้ง 2 แบบต่างก็มีทั้งข้อดี และข้อเสีย

จงเลือกที่จะใช้ข้อดีของมัน เพื่อที่คุณจะได้รู้จักตัวเองได้ดีขึ้น

และในขณะเดียวกันคุณก็จะเข้าใจคนอื่น ๆ มากขึ้นด้วย

มองเข้าไปในกระจกทั้ง 2 แบบ

แล้วสิ่งที่สะท้อนให้เห็นก็จะชัดเจนขึ้นอีกเป็นกอง 


ธรรมชาติยามบ่าย

ขอบคุณภาพจาก www.google.com

แต่ท้ายที่สุดสิ่งที่เห็นส่วนใหญ่ก็คือ เงาของคนอื่น ๆ นั่นเอง

นั่นคือถ้าคุณเลือกที่จะมองผ่านกระจกใส คุณจะเห็นตัวคุณเองได้ยากเต็มที

ในทางกลับกันคุณกลับมองเห็นคนอื่น ๆ ได้อย่างชัดเจน

ถ้าคุณเลือกที่จะมองเข้าไปในกระจกเงา

แน่นอนสิ่งที่คุณเห็นก็คือ ตัวคุณนั่นเอง

ซึ่งเงาสะท้อนของคุณก็ชัดเจนเสียด้วย

แต่ คุณก็ไม่สามารถที่จะมองเห็นสิ่งที่อยู่อีกด้านของมันได้

นั่นก็คือถ้าคุณเลือกที่จะมองเข้าไปในกระจกเงา

คุณจะเห็นตัวคุณได้อย่างชัดเจน แต่คุณจะไม่สามารถ

เห็นคนอื่น ๆ ที่อยู่อีกด้านได้เลย

คุณเคยสังเกต มั้ย ว่าทำไม กระจกใสถึงมองเห็นได้ทั้งตัวคุณ

และเห็นคนอื่น ๆ อีกด้านด้วย แต่กระจกเงากลับมองเห็นแค่ตัวคุณเท่านั้น

นั่นก็เพราะว่า คนเราไม่มีทางที่จะไม่รู้จักตัวเอง

แต่จะรู้จักมาก หรือ น้อย ก็ขึ้นอยู่กับการใช้เวลาพิจารณาตัวเองของคุณ

ถ้าคุณเลือกที่จะมองคนอื่นมากกว่าที่จะมองตัวเอง

คุณก็จะเห็นส่วนดีส่วนเสียของคุณได้น้อยเต็มที

แต่ถ้าคุณเลือกที่จะพิจารณาตัวคุณเองแทนที่จะไปสนใจคนอื่น ๆ

คุณก็จะรู้จักตัวเองได้อย่างชัดเจน แต่คุณก็จะไม่รู้จักคนอื่น ๆ

กระจกทั้ง 2 แบบต่างก็มีทั้งข้อดี และข้อเสีย

จงเลือกที่จะใช้ข้อดีของมัน เพื่อที่คุณจะได้รู้จักตัวเองได้ดีขึ้น

และในขณะเดียวกันคุณก็จะเข้าใจคนอื่น ๆ มากขึ้นด้วย

มองเข้าไปในกระจกทั้ง 2 แบบ

แล้วสิ่งที่สะท้อนให้เห็นก็จะชัดเจนขึ้นอีกเป็นกอง 


ธรรมชาติยามบ่าย

ขอบคุณภาพจาก www.google.com

แชร์