"สุขภาพอนามัยดี" ได้มาอย่างไร
หลาย ๆ คนยังไม่เข้าใจคำว่าสุขภาพอนามัยดี ว่าหมายถึงอะไร แล้วทำอย่างไรถึงเรียกได้ว่าเป็นผู้มีสุขภาพดี วันนี้ลองมาศึกษาเกี่ยวกับ คำนี้กัน http://winne.ws/n1365
จึงอาจกล่าวได้ว่า สุขภาพ หมายถึง ภาวะของการดำรงชีวิตที่มีความสมบูรณ์ทั้งร่างกาย และจิตใจ รวมทั้งการอยู่ร่วมกันในสังคมได้ด้วยดี อยู่บนพื้นฐานของคุณธรรม และการใช้สติปัญญา
วันนี้ผู้เขียนขอยกบทความเกี่ยวกับด้านสุขภาพซึ่งความหมายของ "สุขภาพ"นั้นหมายถึง "ความสุขปราศจากโรคความสบาย" (พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถาน พ.ศ. 2525) สุขภาพ หมายถึง ภาวะแห่งความสมบูรณ์ของร่างกาย จิตใจและการดำรงชีวิตอยู่ในสังคมด้วยดี ไม่ใช่เพียงแต่ความปราศจากโรคหรือทุพพลภาพเท่านั้น (Health is definedas a state complete physical, mental and social well-being and merely theabsence of disease infirmity : World Health Organazation - WHO (องค์การอนามัยโลก) ,2491) ในที่ประชุมสมัชชาองค์การอนามัยโลก เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2541 ได้ตกลงเติมคำว่า “SpiritualWell-being” หรือสุขภาวะทางจิตวิญญาณเข้าไปด้วย
จึงสามารถสรุปได้ว่าในความหมายของ"สุขภาพ" ในปัจจุบัน มีองค์ประกอบ 4ส่วน ด้วยกันคือ
1.สุขภาพกาย (Physical Health)หมายถึง สภาพที่ดีของร่างกาย กล่าวคือ อวัยวะต่างๆอยู่ในสภาพที่ดี มีความแข็งแรงสมบูรณ์ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ร่างกายสามารถทำงานได้ตามปกติ และมีความสัมพันธ์กับทุกส่วนเป็นอย่างดีและก่อให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีในการทำงาน
2. สุขภาพจิต (Mental Health) หมายถึงสามารถควบคุมอารมณ์ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งผู้มีสุขภาพจิตดี ย่อมมีผลมาจากสุขภาพกายดีด้วย ดังที่ JohnLock ได้กล่าวไว้ว่า “A Sound mind is in a sound body” คือ “จิตใจที่แจ่มใส ย่อมอยู่ในร่างกายที่สมบูรณ์”
3.สุขภาพสังคม (Social Health) หมายถึง บุคคลที่มีสภาวะทางกายและจิตใจที่สุขสมบูรณ์มีสภาพของความเป็นอยู่หรือการดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างปกติสุขไม่ทำให้ผู้อื่น หรือสังคมเดือดร้อน
4.สุขภาพจิตวิญญาณ (SpiritualHealth) หมายถึง สภาวะที่ดีของปัญญาที่มีความรู้ทั่ว รู้เท่าทันและความเข้าใจอย่างแยกได้ในเหตุผลแห่งความดีความชั่วความมีประโยชน์และความมีโทษ ซึ่งนำไปสู่ความมีจิตอันดีงามและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ในข้อนี้สามารถเสริมให้มีขึ้นได้โดยการฝึกสมาธิให้สม่ำเสมอ เพราะสมาธิจะช่วยให้เรามีสติที่สามารถที่จะยับยั้งใจไม่ให้เราไปทำในสิ่งที่ไม่ดีได้
ในองค์ประกอบสุขภาพทั้ง 4 ด้านนั้น แต่ละด้านเราสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นมาได้โดย
1. สุขภาพกาย (Physical Health) ควรหมั่นออกกำลังกาย คำแนะนำ จาก the U.S. Surgeon General ประเทศสหรัฐอเมริกา แนะนำไว้ตั้งแต่ปี 1996 ว่า สำหรับผู้ใหญ่นั้น ระยะเวลาในการออกกำลังกายที่จะมีประสิทธิผลให้สุขภาพร่างกายดีนั้น คือ วันละ 30 นาที สัปดาห์ละไม่ต่ำกว่า 5 วัน รวมไปถึงการพักผ่อนให้เพียงพอ เลือกทานอาหารให้ดีมีประโยชน์
2. สุขภาพจิต (Mental Health) ซึ่งหากกล่าวให้เข้าใจง่ายแล้ว สุขภาพจิต หมายถึงอารมณ์ เราสามารถพัฒนาได้โดยการศึกษาหลักธรรมะ มาตรฐานในการแยกแยะสิ่งที่ถูกต้อง และไม่ถูกต้องตามหลักจริยธรรมได้ การจะไปวัดฟังธรรม หมั่นไปพูดคุยกับครูอาจารย์ที่เคารพจะได้ธรรมะ จากท่าน หรือศึกษาหัวข้อธรรมะ เช่น อริยสัจ 4, สังคหวัตถุ 4 หรือฆราวาสธรรม 4 เพราะจะได้รู้ว่าไม่มีอะไรเป็นไปตามที่เราต้องการได้ทุกอย่างมีเวลากำหนดในตัวของมัน เมื่อมาถึงแล้วก็ต้องมีจากไป รวมถึงการฝึกสมาธิ ในเบื้องต้น
3.สุขภาพสังคม (Social Health) ในข้อนี้เราสามารถพัฒนาได้โดยหมั่นฝึกทำข้อที่ 1 และข้อที่ 2 ให้สม่ำเสมอ และที่สำคัญควรเรียนรู้มารยาทในการเข้าสังคม อย่างเช่นการรักษาความสะอาดของร่างกาย การรู้จักการแบ่งปัน การเป็นผู้ฟังที่ดี การไม่ต่อต้านความคิดเห็นของผู้อื่น รวมไปถึงว่าสิ่งไหนที่เราไม่ชอบก็ไม่ควรไปกระทำต่อผู้อื่น เป็นต้น
ข้อ 4. สุขภาพจิตวิญญาณ (SpiritualHealth) หมายถึง คุณธรรมที่มีในตน ในข้อนี้สามารถเสริมให้มีขึ้นได้โดยการฝึกสมาธิให้สม่ำเสมอ เพราะสมาธิจะช่วยให้เรามีสติที่สามารถที่จะยับยั้งใจไม่ให้เราไปทำในสิ่งที่ไม่ดีได้
เราเป็นต้องรักษาสุขภาพอนามัยให้แข็งแรงสมบูรณ์อยู่เสมอการมีสุขภาพดี ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บหรือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุต่าง ๆ มีกล้ามเนื้อที่ทำงานได้ดีสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ร่างกายสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ดี "สุขภาพดี"จึงเปรียบเสมือนวิถีแห่งชีวิตที่จะนำไปสู่ความสุขและความสำเร็จต่างๆ ในชีวิตได้
ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก www.anamai.moph.go.th/ewt_dl_link.php?nid=446 และ http://www.who.int/about/definition/en/print.html