รักไม่เปลี่ยนแปลง ชายขายบ้านขายรถควักเงินเก็บ เฝ้าดูแลภรรยาอัมพาตนานนับ 10 ปี

ชายจีนมีใจรักมั่น ขายบ้าน ขายรถ เพื่อนำเงินไปรักษาภรรยาป่วยอัมพาต ควักเงินเก็บทั้งหมด เฝ้าดูแลมานานนับ 10 ปี http://winne.ws/n10355

560 ผู้เข้าชม
รักไม่เปลี่ยนแปลง ชายขายบ้านขายรถควักเงินเก็บ เฝ้าดูแลภรรยาอัมพาตนานนับ 10 ปี

          (16 พ.ย.) เว็บไซต์ข่าวประเทศจีนรายงานว่า ห้องนอนบ้านหลังหนึ่งในเมืองซีอาน มณฑลส่านซี เปิดไฟสว่างไสวไว้ตลอด 10 ปี เพราะชายผู้มีหัวใจรักมั่นคงคนหนึ่ง ชื่อ "เก๋อเจี้ยนหัว" เปิดทิ้งไว้ให้ภรรยาที่เป็นอัมพาต ซึ่งเขาเฝ้าดูแลทะนุถนอมมาตลอดหลายปี และเพราะเขาไม่สามารถอยู่คุยเล่นเป็นเพื่อนเธอได้ตลอดเวลา จึงเปิดไฟ เปิดละครโทรศัพท์ ไว้เพื่อกระตุ้นโสตสัมผัสของเธอ

           ตามรายงานระบุว่า เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2006 ภรรยาวัย 34 ปี ของเขา ประสบอุบัติเหตุตกลงมาจากระเบียงชั้น ศีรษะกระแทกพื้น อาการเข้าขั้นวิกฤต ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคนมีนิสัยแข็งๆ แต่หลังจากเขาเห็นสภาพภรรยาที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงก็ถึงกลับกลั้นน้ำตาและเสียงสะอื้นไว้ไม่อยู่ ร้องไห้ทรุดนั่งลงกับพื้น

            จากนั้นตัดสินใจวางเดิมพันกับโชคชะตา ส่งเธอเข้ารักษาในห้องไอซียูนานกว่า 7 เดือน แพทย์ก็ได้แจ้งว่า ไม่มีหวัง ดีที่สุดคือเป็นอัมพาต ในอนาคตจะมีโรคแทรกซ้อน ซึ่งหลังจากอยู่โรงพยาบาล 1 ปี เขาก็ตัดสินใจพาภรรยากลับบ้าน เฝ้าดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำมาตลอดนับจากนั้น

              ทั้งนี้ เขาเป็นนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง มีส่วนร่วมในโครงการด้านอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการ ชีวิตมีพร้อมทั้งบ้าน รถยี่ห้อดังหลายคัน แต่เขาก็ตัดสินใจขายทรัพย์สินเกือบทุกอย่าง พร้อมควักเงินเก็บจำนวนกว่า 1 ล้านหยวน (ประมาณ 5,160,652 บาท) เพื่อนำเงินไปรักษาภรรยา

             ซึ่งหลังจากเรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไปก็ทำให้มีชาวเน็ตจำนวนมาเข้ามาแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจเขาเป็นจำนวนมาก

รักไม่เปลี่ยนแปลง ชายขายบ้านขายรถควักเงินเก็บ เฝ้าดูแลภรรยาอัมพาตนานนับ 10 ปี
รักไม่เปลี่ยนแปลง ชายขายบ้านขายรถควักเงินเก็บ เฝ้าดูแลภรรยาอัมพาตนานนับ 10 ปี
รักไม่เปลี่ยนแปลง ชายขายบ้านขายรถควักเงินเก็บ เฝ้าดูแลภรรยาอัมพาตนานนับ 10 ปี
รักไม่เปลี่ยนแปลง ชายขายบ้านขายรถควักเงินเก็บ เฝ้าดูแลภรรยาอัมพาตนานนับ 10 ปี
รักไม่เปลี่ยนแปลง ชายขายบ้านขายรถควักเงินเก็บ เฝ้าดูแลภรรยาอัมพาตนานนับ 10 ปี

ขอขอบคุณภาพและแหล่งข่าวจาก http://news.sanook.com

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ http://news.sanook.com/2102694/

แชร์